อาการหลงผิด หรือที่เข้าใจอย่างง่ายๆ คืออาการคิดไปเอง คิดไปเองว่ามีคนไม่ชอบ หรือคิดไปเองว่าเขารักเรา ยิ่งถ้าอาการนี้ยังคงอยู่กับเรามาอย่างยาวนานเป็นเดือน หรือเป็นปี บอกเลยค่ะ...คุณอาจมีสิทธิ์ที่จะเป็น โรคจิตหลงผิด ได้นะคะ โรคจิตหลงผิด ชื่อโรคนี้อาจจะดูน่ากลัว แต่จริงๆ แล้วมันไม่น่ากลัวเท่ากับอาการของคนที่เป็นโรคนี้เลยค่ะ เพราะหลายคนก็ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าตัวเองกำลังเผชิญกับโรคนี้อยู่ เพราะส่วนใหญ่นั้น ผู้ที่เป็นโรคนี้ยังคงมีพฤติกรรมที่ดูปกติ ไม่มีพฤติกรรมแปลกๆ ที่แสดงออกมาอย่างชัดเจน แหล่งที่มา : https://unsplash.com/photos/2Wa88Py0h0A โรคนี้มักจะพบในวัยกลางคนไปจนถึงวัยสูงอายุ ซึ่งจะมีความเชื่อ หรือความคิดที่ไม่ตรงกับความเป็นจริง และเชื่อมโยงเรื่องราวไปในทิศทางเดียวกัน แต่ยังไม่มีอาการถึงขั้นประสาทหลอนอย่าง อาการหูแว่ว อีกทั้งผู้ที่เป็นโรคนี้ยังคงสามารถทำหน้าที่ของตนได้ตามปกติอีกด้วย แหล่งที่มา : https://unsplash.com/photos/mC852jACK1g อาการที่จะเกิดขึ้นคือ อาการคิดไปเอง หวาดระแวงจากการถูกกลั่นแกล้ง หรือถูกทำร้ายโดยผู้อื่น แม้กะทั่งหลงผิดในเรื่องของร่างกาย เช่น อวัยวะภายในร่างกายไม่ทำงาน โดยส่วนใหญ่จะเป็นมานานกว่า 1 เดือน อาการคิดเรื่องราวและตัดสินด้วยตัวเองที่ผิดจากความเป็นจริง ผู้ที่เป็นโรคนี้จะมีความไวต่อการแสดงท่าทีของบุคคลอื่น และระมัดระวังตัวเองจากบุคคลรอบข้างมากเป็นพิเศษ ในบางรายอาจส่งผลไปถึงการใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่นในสังคมอีกด้วย แหล่งที่มา : https://unsplash.com/photos/ksMmG5vk9pE โดยสาเหตุของการเกิดโรคนี้ยังไม่มีความแน่ชัด แต่โดยปัจจัยที่มีแนวโน้มว่าจะก่อให้เกิดโรคนี้คือ ปัจจัยทางด้านจิตใจที่อาจจะเกิดขึ้นตั้งยังเด็ก ด้านสังคมที่อาจเกิดจากการอยู่ในสภาวะที่มีความเครียดสูง และด้านชีวภาพที่จะเกิดขึ้นจากการสื่อสารของประสาทในสมอง การรักษาโรคนี้นอกจากต้องได้รับยารักษา จะต้องเน้นให้สามารถปรับตัวอยู่ในสังคมได้ไปพร้อมๆ กัน และค่อยๆ ลดปริมาณยาลงเรื่อยๆ ตามอาการ แต่หากมีความเสี่ยงที่จะเกิดเหตุการณ์ทำร้ายตัวเองหรือคนรอบข้าง ต้องได้รับการรักษาตัวภายในโรงพยาบาล เพราะอาจจะเกิดอาการแทรกซ้อนที่เสี่ยงจะเป็น โรคภาวะซึมเศร้า ตามมาได้ด้วยนะคะ แหล่งที่มา : https://unsplash.com/photos/fZ2hMpHIrbI อย่าเพิ่งวิตกกันค่ะ เพราะไม่ใช่ทุกการคิดไปเองที่จะบอกว่าเราเป็น โรคจิตหลงผิด นะคะ โดยโรคนี้ต้องมีอาการที่เป็นเรื้อรังมาโดยประมาณ 1 เดือนหรือมากกว่านั้น อีกทั้งภาวะนี้ยังมีโอกาสพบได้น้อยมาก แต่ถ้าหากใครที่มีคิดว่าอาการเหล่านี้กำลังเกิดขึ้น ลองเริ่มต้นด้วยการเข้าพบจิตแพทย์ เพื่อพูดคุยทำความเข้าใจ เพราะบางทีมันอาจเป็นเพียงแค่ การวิตกกังวลธรรมดาๆ เท่านั้นเองค่ะ