อยากเตรียมตัวไปสอบ TOEIC แต่ยังจับจุดไม่ถูก ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นยังไง อยากได้คะแนนดีๆต้องทำอะไรบ้าง บทความนี้มีคำตอบให้ค่ะ เนื่องจากทางเราได้ไปสอบ TOEIC ครั้งแรกในชีวิต เมื่อวันที่ 25 เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ผลคะแนนที่ออกมาก็ถือว่าเป็นที่น่าพอใจในประมาณหนึ่ง ในที่นี้เราเลยจุดประกายอยากที่จะมาแบ่งปันเทคนิค 4 ข้อหลักที่เราใช้ในการเตรียมความพร้อมสำหรับการไปสอบนั่นเองค่ะ ทุกๆคนสามารถนำเทคนิคเหล่านี้ไปปรับใช้ให้เหมาะสมกับตัวเองเพื่อที่จะพิชิตคะแนนสุดปังกันได้เลย!1. ประเมินตัวเองให้ดี เริ่มกันที่เทคนิคข้อแรกอันได้แก่ “การประเมินตัวเอง” โดยการประเมินตัวเองในที่นี้สามารถแบ่งย่อยได้อีก 2 ด้าน ด้านแรกคือ “การประเมินตัวเองด้านพื้นฐานความรู้” กล่าวคือว่าในเริ่มแรกทุกคนจะต้องมานั่งคิดทบทวนก่อนว่าตัวเองมีพื้นฐานทางด้านภาษาอังกฤษระดับไหน , ถนัดอะไรมากกว่ากันระหว่างการฟังกับการอ่าน , ในส่วนของเรื่องไวยากรณ์ก็ต้องหาคำตอบให้ได้ว่าแม่นและไม่แม่นเรื่องอะไร เป็นต้น โดยการประเมินด้านความรู้ในส่วนนี้เองจะสามารถช่วยให้เราจำกัดขอบเขตเนื้อหาที่จะต้องศึกษาทบทวนให้แคบลงได้ พร้อมกับถือเป็นการตอบคำถามไปในตัวว่าจะตัวเราสามารถอ่านทบทวนเนื้อหาเองได้หรือไม่ หรือจะต้องลงเรียนคอร์สต่างๆเพื่อเสริมความรู้ ในส่วนของด้านที่สองนั้น ได้แก่ “การประเมินตัวเองด้านระยะเวลา” ซึ่งก็คือการคำนวณว่าตัวเองมีระยะเวลาเหลืออีกเท่าใดในการเตรียมตัวเตรียมความพร้อมก่อนที่จะถึงวันสอบจริง การประเมินในส่วนนี้จะช่วยให้เราสามารถวางแผนการทบทวนเนื้อหาและการฝึกทำข้อสอบได้ดีและทันท่วงที2. ศึกษาข้อสอบให้พร้อม ขั้นตอนต่อมาที่อยากแนะนำให้ทุกคนทำก็คือ “การศึกษารายละเอียดต่างๆเกี่ยวกับตัวข้อสอบ TOEIC” ไม่ว่าจะเป็นการศึกษารูปแบบของตัวข้อสอบว่ามีทั้งหมดกี่ส่วน แต่ละส่วนมีกี่ข้อ ส่วนใหญ่มักครอบคลุมเนื้อหาด้านไหน แนวข้อสอบ-กระดาษคำตอบหน้าตาเป็นอย่างไร เพื่อที่ว่าจะได้คุ้นชินและไม่ตื่นข้อสอบ ทั้งนี้เพื่อความถูกต้องแม่นยำของข้อมูลทางเราแนะนำให้ศึกษารายละเอียดดังกล่าวผ่าน Examinee Handbook ของทาง ETS ผู้ออกข้อสอบโดยตรงเลยค่ะ: Click here to download ETS TOEIC Examinee Handbook :3. เติมเต็มความรู้ให้แม่น หลังจากที่รู้ตัวเอง รู้ข้อสอบไปแล้ว ถึงเวลาที่จะต้องเริ่ม “เติมเต็มความรู้” เข้าสู่สมองของเรากันแล้วค่ะ โดยส่วนตัวเราเชื่อว่าทุกคนมีวิธีการอ่านหนังสือและวิธีการทบทวนที่แตกต่างกัน เพราะฉะนั้นในที่นี้เราจึงขออนุญาตเล่าคร่าวๆว่าส่วนตัวเราทำอะไรบ้างในแง่ของการทบทวนความรู้ เพื่อให้ทุกคนนำไปปรับใช้ให้เหมาะสมและมีประสิทธิภาพที่สุด ท่องศัพท์ทุกวัน : หนังสือคำศัพท์ที่แนะนำได้แก่ Barron's Essential Words for the TOEIC โดยเทคนิคการท่องศัพท์ที่เราใช้คือเราจะนำปากกาไปไฮไลท์เน้นที่คำศัพท์ที่เราไม่ทราบความหมาย จากนั้นเราก็จะหาความหมายภาษาไทยและเน้นท่องจำคำศัพท์ที่เราไม่รู้เป็นหลัก ส่วนคำไหนรู้ความหมายอยู่แล้วก็จะอ่านผ่านๆให้พอไม่ลืม และที่สำคัญคือจะเราท่องศัพท์แบบ ‘พูดออกเสียง’ ค่ะ เพราะส่วนตัวคิดว่าเป็นวิธีที่ทำให้จำแม่นยำกว่าการอ่านด้วยสายตาเฉยๆ ฝึกฟังภาษาอังกฤษ : แนะนำให้เปิดดูคลิปวิดีโอใน YouTube ได้เลยค่ะ ลองหา content ที่ชอบที่เป็นภาษาอังกฤษแล้วดูไปเรื่อยๆ ดูไปทุกๆวัน จะทำให้เริ่มชินกับภาษาอังกฤษ ชินกับสำเนียงการพูด พร้อมกับค่อยๆเริ่มที่จะฟังภาษาอังกฤษออกมากขึ้น ลองหาตัวช่วย : ลองหาหนังสือมาอ่านเพื่อทบทวนในเนื้อหาหรือสิ่งที่เราไม่แม่น/ไม่ถนัดค่ะ เน้นอ่านซ้ำๆทุกวันควบคู่ไปกับการพยายามทำความเข้าใจทั้งด้วยตนเองหรือปรึกษาหารือกับเพื่อน พี่ น้องที่เก่งภาษาอังกฤษ โดยหนังสือที่เราใช้อ่านคือ TOEIC เต็มแล้วเต็มอีก Super Turbo เล่มเขียวๆค่ะ4. ฝึกทำข้อสอบให้ชิน รู้แนวข้อสอบก็แล้ว ทบทวนความรู้ก็แล้ว ถึงเวลาที่ต้องลองสนามด้วยการ “ฝึกทำข้อสอบ” กันแล้วค่ะ เราแนะนำว่าให้ทุกคนฝึกทำข้อสอบทุกวัน อย่างน้อยวันละ 1 ชุดขึ้นไป หากใครไม่รู้จะเริ่มจากไหนให้ลองไปหาซื้อหนังสือแนวข้อสอบ ETS ที่เป็นของทางเกาหลีมาฝึกได้เลยค่ะ ใกล้เคียงข้อสอบจริงพอสมควร แล้วก็ตอนที่ฝึกทำแนวข้อสอบ แนะนำให้พิมพ์กระดาษคำตอบที่เป็นวงกลมมาฝึกฝนคำตอบ พร้อมกับจับเวลาตอนฝึกทำไปด้วยเลยนะคะ โดยเมื่อเราทำทั้ง 2 อย่างนี้ควบคู่กันไปก็จะช่วยให้เราสามารถรักษาเวลาในการทำข้อสอบในวันจริง (ซึ่งมีอยู่น้อยนิด) ให้ดีขึ้นได้ไม่มากก็น้อยค่ะ จบไปแล้วนะคะสำหรับการแนะนำแบ่งปันเทคนิคการเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการไปสอบ TOEIC รูปแบบปัจจุบันปี 2020 คุณผู้อ่านสามารถนำเทคนิคเกร็ดเล็กน้อยต่างๆที่เรามาเล่าในบทความนี้ไปปรับใช้ให้เหมาะสมกับตนเองได้เลยค่ะ หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์แก่ผู้อ่านไม่มากก็น้อยนะคะ หากข้อมูลมีความผิดพลาดประการใด ทางผู้เขียนบทความต้องขออภัยมาไว้ ณ ที่นี้ด้วยค่ะอ่านบทความก่อนหน้า: https://cities.trueid.net/post/193537ขอขอบคุณรูปภาพ:ภาพที่ 1 โดยผู้เขียน / ภาพที่ 2 จาก ETS / ภาพที่ 3 จาก Pixabay