พิพิธภัณฑ์เป็นแหล่งเรียนรู้ประวัติของประเทศนั้นๆที่ดีที่สุด สวัสดีครับ วันนี้ผมขอนำทุกท่านไปเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์ที่เรียกได้ว่าสวยงามมากแห่งหนึ่งของไทย และวัตถุโบราณตลอดจนอาคารที่อยู่ที่นี่มีสภาพค่อนข้างสมบูรณ์และมีเอกลักษณ์ที่แสดงให้เห็นถึงศิลปะกรรมของไทยในยุคกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น เนื่องด้วยบริเวณที่นำมาทำพิพิธภัณฑ์นี้เคยเป็นวังหน้าของกรุงรัตนโกสินทร์มาแต่ก่อน และเคยเป็นที่ประทับของพระมหาอุปราชมาถึง 5 พระองค์ด้วยกัน ( ก่อนที่ตำแหน่งอุปราชจะโดนยกเลิกไปในสมัย ร.5 ทำให้วังหน้าว่างลง จึงได้ทำการจัดตั้งเป็นพิพิธภัณฑ์ขึ้น ) และที่สำคัญเลยสำหรับช่างภาพอย่างผมคือ พิพิธภัณฑ์แห่งนี้สามารถถ่ายรูปได้ครับทั้งภายในและภายนอกอาคาร แต่มีข้อห้ามคือห้ามถ่ายวิดีโอและห้ามใช้แฟลชในการถ่ายครับ โดยผมขอบอกรายละเอียดของพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ดังนี้ครับ วันที่เปิดทำการ: วันพุธ-วันอาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา8.30-16.00 น. อัตราค่าเข้าชม: คนไทย 30 บาท ชาวต่างชาติ 200 บาท ยกเว้นค่าเข้าชม: เด็ก/นักเรียน/นักศึกษา/ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป/ พระสงฆ์/ สมาชิก ICOM และ ICOMOS เบอร์โทรติดต่อ: 02-2242370,02-2241402,02-2241404 การเดินทาง: รถเมล์ทุกสายที่วิ่งผ่านสนามหลวง ทางเรือลงท่าพระจันทร์ ในวันนี้ผมจะพาไปชมในส่วนที่ 1 ก่อนนะครับ โบราณสถานวังหน้าประกอบไปด้วยอาคารต่างๆมากมาย เอาที่ผมได้ไปถ่ายรูปมาฝากกันนะครับ พระที่นั่งพุทไธสวรรค์ พระที่นั่งนี่อยู่ทางด้านหน้าของพิพิธภัณฑ์เลยครับ(หมายเลข 2 ในแผนที่) เดินผ่านประตูทางเข้าไปจะเห็นสนามหญ้าเขียวขจี และมีอาคารอยู่ทางด้านซ้ายมือเป็นอาคารแรก ซึ่งก็คือพระที่นั่งพุทไธสวรรค์ครับ โดยเป็นที่ประดิษสถานของพระพุทธสิหิงค์ พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองมาแต่โบราณ โดยสร้างขึ้นมาด้วยพระมหากษัตริย์แห่งลังกาทวีป พ.ศ. 700 พูดง่ายๆคือสร้างมาประมาณ 1800 ปี ถือว่าเก่าแก่มากครับ หากท่านใดมีเวลาสามารถมาแวะขอพรกันได้นะครับ พระตำหนักแดง(หมายเลข 3 ในแผนที่) เป็นพระตำหนักไม้สีแดงที่สร้างขึ้นมาตั่งแต่สมัย รัชกาลที่ 1 ได้พระราชทานให้สมเด็จเจ้าฟ้า กรมพระศรีสุดารักษ์ ซึ่งเป็นสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอพระองค์เล็กได้มาประทับ หลังจากนั้นได้มีพระบรมวงศานุวงค์ มาประทับหลากหลายพระองค์ จนถึงในสมัย ร.4 ได้โปรดให้สมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัวขึ้นเป็นมหาอุปราช ทรงพระเกียรติยศเท่ากับพระเจ้าแผ่นดิน เสด็จมาประทับยังวังหน้า (พระบวรราชวัง) สมเด็จพระปิ่นเกล้าจึงทรงโปรดให้ย้ายตำหนักแดง จากพระราชวังเดิมมาปลูกไว้ในด้านทิศตะวันตกของพระบวรราชวัง สำหรับเป็นที่ประทับของสมเด็จพระศรีสุริเยนทรา บรมราชินี 3. อาคารโรงราชรถ (หมายเลข 10 ในแผนที่) เป็นที่เก็บรักษาราชรถต่าง ๆ ที่ใช้ในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ลองเดินเข้าไปดูจะเห็นถึงความละเอียด สวยงามของงานฝีมือช่างของไทย รวมถึงจะเห็นพระโกศจันทร์และหีบพระจันทร์ประดิษฐานบนพระแท่นจิตกาธาน ซึ่งใช้ในพระราชพิธีของ พระบาทสมเด็จพระปรมิทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 ครับ พามาเดินชมจนเพลิน ผมว่าคงต้องจบก่อนสำหรับบทความนี้นะครับ หากยังสนใจกันอยู่รอกันหน่อยนะครับ เดี๋ยวมีบทความที่สองแน่นอนครับผม