บุฟเฟ่ต์ คำ ๆ นี้ที่โหยหา ก่อนอื่นอยากจะบอกว่าบุฟเฟ่ต์เป็นอะไรที่โหยหามาก ๆ เพราะว่ามนุษย์เงินเดือนหมื่นต้น ๆ คงไม่ค่อยได้ทานบ่อย ๆ ดังนั้นจึงมีความรู้สึกว่าการได้ทานบุฟเฟ่ต์ 1 มื้อมันช่างเหมือนสวรรค์จริง ๆ และในการทานบุฟเฟ่ต์แต่ละครั้งในใจก็คิดว่าจะทานอย่างไรให้มันคุ้ม จะทานอย่างไรให้มันได้มากที่สุดเพราะว่าเราไม่ได้มาทานบ่อย ๆ วันนี้มีโอกาสไปทานบุฟเฟ่ต์ชาบู ซูชิ สมใจอยาก ไปค่ะเริ่มต้นด้วยซูชิ ปลาไข่ทอด กิมจิของโปรดที่ไม่เคยพลาดสักครั้งที่มาทานบุฟฟ่ต์ หลังจากนั้นของบนสายพานก็เริ่มลงมาอยู่ในหม้อต้ม นึกออกไหมคือหิวมาก ไม่ทานข้าวเช้ามา เพื่อจะได้ทานบุฟเฟ่ต์ให้ได้เยอะ ๆ อย่างที่ตั่งใจไว้ ทานไปได้สักพักครึ่งชั่วโมงกว่าเห็นจะได้ เริ่มรู้สึกว่าตัวเองอิ่ม เหมือนปวดท้อง แต่ก็ยังทานต่อเพราะในหัวคิดว่ายังไม่คุ้มเลยทำไมอิ่มไวจัง เริ่มนั่งตัวตรงไม่ได้ ต้องนั่งก้มตัวงอ 555เหมือนกุ้งที่อยู่ตรงหน้าเลย ถึงขนาดนั้นยังทานต่อ ต้องทานของทุกอย่างให้ครบ ไอศกรีม ผลไม้ จนกระทั่งใกล้หมดเวลาไปจ่ายเงิน แล้วต้องเดินกุมท้องเข้าห้องน้ำอย่างไว ห้องน้ำในห้างวันเสาร์อาทิตย์ก็รู้ ๆ กันอยู่ว่าต้องต่อแถว โดยเฉพาะห้องน้ำหญิง โอยในใจปวดท้องมากอยากนั่งลงกับพื้นตรงนั้นแต่ไม่กล้า ภาวนาให้ถึงคิวตัวเองไว ๆ เพราะเริ่มเหมือนจะหายใจไม่ออก พอเข้าห้องน้ำได้เท่านั้นจึงไม่รอช้าล้วงคอเอาอาหารที่เพิ่งทานเข้าไปออกมา เพื่อระบายอาการหายใจไม่ออก หมดค่ะหมดท้องในใจก็ได้แต่คิดว่าไม่น่าเลย อยู่ในท้องไม่ถึงสิบนาทีเลย แต่ก็นั่นแหละ เพื่อชีวิตของตัวเอง..สาเหตุไม่แน่ใจเหมือนกัน อาจจะมื้อเช้าไม่ทาน และทานเร็วเกินไปกระเพาะรับไม่ไหว สรุปจากการทานบุฟเฟ่ต์ในครั้งนี้เริ่มรู้ตัวเองว่า(การทานให้คุ้มให้ได้จำนวนเยอะ ๆ คงใช้ไม่ได้อีกต่อไปแล้ว) เอาเท่าที่ไหวจะได้ไม่เป็นอันตรายต่อตัวของเราเอง ก่อนที่จะไม่มีโอกาสให้ทานอีก รูปทุกรูปเป็นของผู้เขียน