สวัสดีค่า วันนี้เราจะนอกเรื่องการชวนคุยเรื่องฟิล์ม มาชวนคุยเรื่องกล้องฟิล์ม (ด้วยความเห่อมาก ๆ) แทนค่ะ และกล้องที่เราจะคุยกันวันนี้เป็นกล้องฟิล์มคอมแพคตัวใหม่ใสกิ๊งของ Yashica (อ่านว่า ยาชิก้า) รุ่น MF-2 super ค่ะ ซึ่งกล้องตัวนี้เป็นกล้องรุ่นใหม่มือ 1 ที่ออกมาต่อจาก Yashica MF-1 นะคะ แต่ราคาอัพขึ้นกว่า Yashica MF-1 ประมาณ 3-4 เท่าเลยค่ะ ราคาเจ้าตัวนี้ตอนที่เราซื้ออยู่ที่ประมาณ 3,800 บาทค่ะ แล้วแต่ร้านที่ขายด้วยนะคะ เอาล่ะ มาเริ่มจากการแกะกล่องกันเลยนะคะ เปิดกล่องมา ภายในกล่องกล้องหรูหราและแข็งแรงมากค่ะ ชั้นนอกสุดจะมีปลอกนอกหุ้มกล่องเอาไว้ ระบุยี่ห้อและรุ่นพร้อมสเป็ค ด้านในเปิดมาจะมีกล้องที่ถูกล็อคเอาไว้ในกล่องตามโครงกล้องค่ะ อุปกรณ์ที่ได้มาจะมีตัวกล้อง ที่มีฝาปิดเรียบร้อย สายคล้องกล้อง และคู่มือ ภาษาอังกฤษและภาษาจีนค่ะ สายกล้องมี 2 ด้าน ด้านนอกเป็นผ้า ส่วนด้านในที่สัมผัสกับคอเรา จะเป็นผิวสัมผัสคล้าย ๆ พลาสติกออกหนัง สลักยี่ห้อ Yashica ไว้ที่ปลายทั้ง 2 ด้านด้วยค่ะ เท่มากๆ กล้องตัวนี้เป็นกล้องคอมแพคที่ออโต้ทุกอย่างเลยค่ะ บอดี้เป็นพลาสติกเนื้อดำขลับ เท่ และแข็งแรงค่ะ ด้านหน้ากล้องจะมีเลนส์ ที่ระยะ 38 มม. F 3.8 speed 1/125 ด้านบนหน้าเลนส์จะมีจุดขาว ๆ กลม ๆ มันคือที่วัดแสงค่ะ ถ้าอยากจะรู้ว่าฉากหรือวิวที่เราจะถ่ายมีแสงพอหรือไม่ ก็ลองเล็งไปที่ฉากนั้น มองในช่องมองภาพ แล้วกดชัตเตอร์เบา ๆ ลงไปครึ่งนึงค่ะ ถ้าฉากนั้นมีแสงไม่พอ ในช่องมองภาพจะมีจุดสีแดง ๆ ขึ้น เราก็ต้องเปิดแฟลชเพื่อเพิ่มแสงค่ะ ด้านข้างเลนส์มีก้านเล็ก ๆ ติดอยู่ มันคือตัวตั้งเวลาถ่ายอัตโนมัติค่ะ ถ้าง้างก้านนั้นแล้วกดถ่าย ระบบกล้องจะตั้งเวลาถ่ายเอง นับถอยหลังประมาณ 10 วินาที ถัดจากเลนส์ก็จะมีแฟลช และตัวหนังสือใต้แฟลชที่เขียนว่า DX มันก็คือ DX code นั่นก็คือกล้องตัวนี้จะสามารถอ่านค่า ISO จากกลักฟิล์มได้เลยค่ะ สามารถใส่ฟิล์มได้ที่ ISO 100-400 แล้วระบบกล้องจะทำการประมวลแสงและ speed shutter ให้เองเลยค่ะ ด้านบนจะมีตัวกรอหมุนเก็บฟิล์ม รุ่นของกล้องตัวนี้ ปุ่มกดชัตเตอร์ ก้านไขฟิล์มเพื่อเดินฟิล์ม และช่องบอกจำนวนฟิล์มที่ได้กดถ่ายไปค่ะ ด้านล่างมีปุ่มกดปล่อยตัวล็อกฟิล์ม สำหรับเวลาถ่ายเสร็จแล้วต้องการปลดล็อกฟิล์มและจะได้ไขฟิล์มเก็บเข้ากลัก นอกจากนั้นยังมีรูสำหรับไว้ใส่เพลทขาตั้งกล้องด้วยค่ะ และก็มีช่องใส่ถ่าน สำหรับใส่ถ่าน AA 2 ก้อน จะใส่ก็เพื่อเวลาเราจะใช้แฟลชค่ะ ถ้าไม่ใส่ถ่าน กล้องก็ยังใช้งานได้ แค่เปิดใช้แฟลชไม่ได้เท่านั้นเองค่ะ ด้านหลังก็เรียบ ๆ ค่ะ มีฝาปิด มีช่องมองภาพ ช่องมองภาพกับภาพที่ได้จริงจะมีระยะ 0.52X ระยะโฟกัสของภาพจะอยู่ตั้งแต่ 1.5 เมตรขึ้นไป ก็คือถ่าย close up มากไม่ได้ค่ะ ส่วนระบบชัตเตอร์เป็นแบบ Mechanical shutter ไม่ต้องใส่ถ่านก็ถ่ายได้ เริ่มกันเลย และนี่คือลูกมือของเรา Fuji color C200 ค่ะ เดี๋ยวเราจะสาธิตการใส่ฟิล์มเข้ากล้องกัน 1. เตรียมฟิล์มที่จะใช้ แกะออกจากล่องให้เรียบร้อย 2. เปิดฝากล้องออกมาอย่างเบามือค่ะ ถ้าฝากล้องพังหรือหลวม แสงอาจจะรั่วเข้าฟิล์ม และต่อไปถ้าใช้กล้องต่อ ฟิล์มอาจเสียทั้งม้วนได้เลยนะคะ 3. จากนั้นค่อย ๆ ดันก้านล็อกฟิล์มขึ้น 4. ใส่ฟิล์มกลับหัวลงไป ให้ปลายฟิล์มที่ยื่นออกมายื่นไปทางขวามือ ดันก้านล็อกฟิล์มลง ให้ฟิล์มไม่หลุดออกมา 5. จากนั้นค่อย ๆ ดึงฟิล์มออกมาให้เกี่ยวกับหนามเตยทั้งบนและล่าง สอดปลายเข้าไป ระวังอย่าให้ฟิล์มหลุดจากช่องล็อกนะคะ 6. เมื่อแน่ใจว่าใส่ฟิล์มลงล็อกหนามเตยเรียบร้อยแล้วก็ปิดฝาค่ะ **ย้ำอีกครั้งว่าตอนดึงฟิล์มออกมา ต้องให้เกี่ยวกับหนามเตยทั้งบนและล่าง ระวังอย่าให้ฟิล์มหลุดจากช่องล็อกนะคะ เดี๋ยวฟิล์มไม่เดิน ถ่ายไม่ได้นะคะ เมื่อปิดฝาแล้ว ตรงด้านหลังจะมีช่องกระจกใส ให้เห็นว่าเราใช้ฟิล์มอะไรอยู่ด้วยค่ะ เผื่อบางคนทิ้งไว้นานจะลืมว่าใช้ฟิล์มอะไร ISO เท่าไหร่ และฟิล์มที่ใช้เป็นแบบมีกี่รูปค่ะ ใส่ฟิล์มเรียบร้อย มาดูที่ช่องด้านบน จะมีตัวบอกจำนวนฟิล์มที่ใช้ค่ะ ถ้ายังไม่ได้ใช้หรือยังไม่ได้เดินฟิล์ม จะตรงกับตัว S ค่ะ Let's start!! ทำการเดินฟิล์มเพื่อเริ่มถ่ายได้ ดันก้านไขฟิล์มเพื่อเดินฟิล์มไปทางขวาจนสุดเลยค่ะ เมื่อดันไปจนสุดแล้วค่อย ๆ ปล่อยกลับมา ถ้าดันอีกครั้งมันจะไปไม่สุด แสดงว่ายังไม่ได้กดชัตเตอร์ ตัวแสดงฟิล์มเลื่อนจาก S ไปเล็กน้อยแล้ว แปลว่าพร้อม เริ่มกดถ่ายได้เลยค่ะ ถ้าอยู่ในที่มืดและต้องการเพิ่มความสว่างก็เปิดแฟลชค่ะ เจ้าตัวนี้เปิดแฟลชได้ง่ายมากเพียงแค่ดันแฟลชออกไปทางขวา จะมีเสียงระบบทำงานดังขึ้นเบา ๆ วิ้ง ๆ แปลว่าแฟลชพร้อมทำงานแล้ว (อย่าลืมใส่ถ่านก่อนใช้แฟลชก็พอค่ะ) แต่แฟลชจะใช้ระยะเวลาชาร์จในการกดถ่ายแต่ละครั้งประมาณ 5 วินาทีนะคะ และจะใช้แฟลชได้ประมาณ 200 ครั้งต่อถ่าน AA 2 ก้อนค่ะ ภายในช่องมองภาพก็จะเรียบ ๆ มีแค่กรอบให้เรากำหนดสิ่งที่จะถ่ายให้อยู่ในกรอบค่ะ จากนั้นก็ถ่ายได้เลย ไม่ต้องคิดมาก ให้วัตถุหรือฉากอยู่ห่างเกิน 1.5 เมตรก็พอคะ เพื่อโฟกัสจะได้เข้า เดี๋ยวเราถ่ายฟิล์มม้วนนี้หมดแล้วจะไปล้างและนำรูปมาอวดกันในบทความต่อ ๆ ไปนะคะ บทความนี้ก็จบลงแค่นี้ก่อน ฝากติดตามผลงานของเจ้ากล้องและฟิล์มม้วนนี้กันต่อด้วยนะคะ **ภาพประกอบบทความทั้งหมดนี้ถ่ายโดยผู้เขียนค่ะ ขอความกรุณาไม่นำรูปไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาตนะคะ