"พรุ่งนี้เราไปล้ง กันนะ" พ่อของฉันพูดขึ้น ระหว่างดูละคร " ห๊ะ ล้ง ไปตามรอยละครหรือไงพ่อ แล้วไป ยังไงอ่ะ รถเมล์ หรือนั่งเรือ" "นั่งเรือไปสิ ไม่ร้อน" คำตอบของพ่อ ทำให้ฉันประหลาดใจ "นั่งเรือนี่นะ แล้วจะไปยังไง ขึ้นท่าไหน ในเมื่อแม่กลัวเรือ แกว่ายน้ำไม่เป็น" พ่อจึงให้เหตุผลว่ามันไวดี แถมไม่ต้องเสียเวลารอรถอีก ที่สำคัญพ่อเป็นคนขี้ร้อน ทางไหนที่ไม่ทำให้ร้อน แกเลือกทางนั้น คราวนี้ฉันจึงถามว่าจึงถามต่อว่า ที่ไปนี่ไปดูศิลปะ หรือไปตามรอยละครเรือนไหมมัจจุราช ซึ่งพ่อก็ไม่ว่าอะไร ฉันจึงคิดว่า ต้องตามรอยละครแน่เพราะว่าพ่อติดละครเรื่องนี้ มาก แถมดูทุกตอน ตั้งแต่ต้นจนจบ ทริปของเราเริ่มต้นที่ท่าวังหลัง เรานั่งเรือด่วนเจ้าพระยาจากท่านี้ไปยังท่าราชวงศ์ ขณะที่เราอยู่ในเรือ ฉันมองดูสองฝั่งจ้าพระยาด้วยความเพลิดเพลิน คลื่นของแม่น้ำยามต้องแสงอาทิตย์ ช่างเหมือนดวงดาวเล็กๆ ส่องแสงระยิบระยับ ล่องลอยอยู่บนผืนน้้ำ ช่างสวยอะไรอย่างนี้ ความงามของมัน ทำให้แม่ของฉันตื่นตาตื่นใจ จนลืมว่าตัวเองกลัวเรือมากขนาดไหน นางยกกล้องถ่ายรูปไปตลอดทาง บางครั้งนางก็บอกให้ฉันไปเป็นนางแบบ (จำเป็น) "ถ่ายวิวสิแม่ ถ่ายหนูทำไม" ฉันพูดขึ้น “รีบไปนั่งสิลูก เดี๋ยวถ่ายรูปให้” แม่พูดขึ้น ทำให้ฉันต้องข่มความกลัว(เพราะเป็นโรค BPPV)หรือดรคหินปูนในหูเคลื่อน ฉันเดินข้าๆ พร้อมจับพนักพิงเก้าอี้ ไปนั่งเก้าอี้ที่แม่บอก ก่อนที่นางจะกดชัดเตอร์รัวๆ เราถ่ายรูปไปเรื่อยๆ ไม่นานก็มาถึงท่าราชวงศ์ ฉันนั่งสักครู่ ก่อนนำยาแก้วิงเวียนมากินเพื่อรอเรือ ของห้างไอคอนสยามเรารอเรืออยู่นาน ไม่นานเรือของห้างก็มา ก่อนนำเรามุ่งหน้าสู่ ห้างสุดสวยที่อยู่ทางด้านตรงข้าม เมื่อเข้าไปในห้างแล้วต้องขอบอกว่าที่นี้ไม่เหมือนห้างอื่นๆ ที่เคยไปช้อปมา ห้างแห่งนี้ข้างนอกที่ว่าสวยแล้ว ข้างในสวยยิ่งกว่า เมื่อเดินเข้าไปเราจะพบกับโซนแรก โซนสุขสยาม โซนนี้เป็นโซนที่แสดงของดี 77 จังหวัดเมื่อเดินเข้าไป ก็จะพบกับจอLED ที่แสดงรูปทุ่งหญ้า ทุ่งนาผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาทั้งชาวไทยและต่างชาติ มักจะหยุดเล่นกับจอ เพราะรูปของเราจะไปปรากฏบนนั้น เดี๋ยวก็มีหมวกมาครอบหัว เดี๋ยวมีผีเสื้อ ควาย และเป็ดไก่ เดินมาใกล้ๆ ไม่ใช่แค่จอนี้เท่านั้นชั้นนี้ทั้งชั้นจะมีมีการตกแต่ง เพื่อโชว์ความเป็นไทย มี ทั้งนางกวัก รถตุ๊กๆ ผีตาโขน และสะพานที่มีต้นไม้ผูกผ้าสามสี และยังมีน้ำตกสวยๆ ให้ได้ถ่ายรูป ใครที่ชอบถ่ายรูปเหมาะกับชั้นนี้ที่สุด นี่แค่ชั้นใต้ดินเท่านั้น ห้างแห่งนี้ยังมีมุมให้ถ่ายรูปมากมาย แต่ฉันรีบออกจากห้างเสียก่อนเพื่อไปยังอีกหนึ่งจุดหมายซึ่งก็คือ ล้ง 1919 พูดตรงๆ ลืมไปเลยว่าเป้าหมายคือล้ง ไม่ใช่ไอคอน ฯ เมื่อนึกได้ฉันจึงถามวิธีไปล้ง แต่ไม่ทันเสียแล้วเมือแม่ของฉันโชว์ฮาถามนักศึกษาสาวคนหนึ่งว่า "หนูๆ พอดีป้าจะไปเล้ง ไปยังไง" พอเห็นหน้างงๆ ของน้องเขา ฉันจึงบอกว่า"ไม่ใช่น้อง พี่จะไป ล้งไม่ใช่เล้ง" น้องสาวคนสวยก็ถึงบางอ้อ พร้อมแนะนำให้ไปขึ้นเรือ เมื่อออกจากห้าง แม่ของฉันก็โชว์ฮาถามทางไปเล้งอยู่เรื่อยๆ จนต้องถามขึ้น "แม่หิวหรอ" เราเดินไปเรื่อยๆ จนถึงซอยวัดทองธรรมชาติ ก่อนหันไปดูทางซ้ายมือเห็นโรงพยาบาลบ้านสมเด็จฯ อยู่ตรงข้าม “เรามาถูกแล้ว แม่ ฉันเอ่ยขึ้น” เราเดินไปเรื่อยๆ ไม่นาน ก็เดินมาถึงล้ง พ่อจึงบอกให้ฉันถ่ายรูปสาวจีนตรงทางเข้าข้างใน เมื่อเดินเข้าไปด้านในก็สะดุดตากับอาคารไม้สองชั้นตกแต่งสไตล์จีน มีโคมสีแดงแขวนอยู่เป็นแถว อาคารแห่งนี้จะเชื่อมต่อกันเป็นรูปตัวU นอกจากจะมีอาคารไม้สไตล์จีน ให้ได้ถ่ายรูปแล้วที่นี่ยังมีภาพเขียนสวยๆ ให้เราได้ถ่ายรูปอีกด้วย แต่ก็ถ่ายมาไม่หมด สิ่งแรกที่ทำเมื่อเข้ามาที่นี่ไม่ใช่การถ่ายรูปแต่อย่างใด แต่เป็นการสอดส่ายสายตา หาร้านอาหารเพราะว่าเรามาถึงที่นี่ก็เที่ยงพอดี เมื่อทานมื้อเที่ยงเรียบร้อยแล้ว จึงได้เวลาเดินชมและถ่ายรูป สถานที่ ตามรอยละคร จุดแรกที่เราชมคือ อาคารไม้สองชั้น ชั้นสองของอาคารทางทิศใต้จะแสดงภาพเขียนพร้อมคำบรรยายเป็นร้อยกรอง เราใช้เวลาด้านบ่นสักครู่ก่อนจะมานั่งพักเหนื่อยที่ม้านั่งยาวๆ หน้าอาคารด้วยความเหนื่อยและร้อน ทำให้ฉันนั่งตรงนี้นานพอสมควรก่อนชวนพ่อและแม่ไปเดินชมนิทรรศการการผลิตยาสามัญประจำบ้านที่ผลิตโดยบริษัทโอสถสภา ไม่ใช่แค่นิทรรศการนี้เท่านั้น ในห้องนี้ยังจัดแสดงนาฬิกาชีวิตตั้งแต่ตื่นนอนจนเข้านอน เกี่ยวกับการออกกำลังกาย และอวัยวะต่างของร่างกายเริ่มทำงานเวลาไหน ควรพักผ่อนเวลาไหน รับประทานอาหารเวลาไหนจึงจะเหมาะสม หลังจากชมนิทรรศการยาสามัญประจำบ้านแล้ว เรากลับมานั่งที่เก้าอี้ยาวอีกครั้งพ่อของฉันก็ปล่อยฮา “หวังว่า เราคงไม่เจอเว่ยต้ากู่นะ” ฉันก็ได้แต่หัวเราะเบาๆ ตายแล้ว พ่อติดละครกับเขาด้วย ฉันคิด เพราะไม่เคยเห็นจะสนใจดูละคร คนดูแต่ข่าว และรายการวิเคราะห์ข่าว อย่างพ่อของฉันมาติดละครเรื่องนี้ได้ไงเนี่ย แถมบอกได้เลยว่าฉากนี้ ตรงนี้ ตัวละครตัวไหนทำอะไร ความงามของที่นี่ทำให้เราอยู่ที่นี่นานพอสมควร ไม่นานก็ถึงเเวลากลับ เราตัดสินใจเดินกลับทางเดิม ก่อนจะไปขึ้นรถที่หน้าโรงพยาบาลบ้านสมเด็จฯ เพื่อไปลงที่โรงพยาบาลศิริราช และนั่งสองแถวประจำซอยกลับบ้าน ปล แนะนำให้มาเที่ยวชมในช่วงเช้าหรือช่วงเย็นจไม่ร้อนมาก แต่ถ้าอยากชมความงามสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาให้มาช่วงเช้า และควรออกจากบ้านแต่เช้าจะไม่ร้อนเกินไป การเดินทาง สามารถดูได้จากลิงค์นี้ https://www.facebook.com/lhong1919/posts/548358762180218/