ถ้าพูดถึงเกาหลีใต้นอกจากสถานที่ท่องเที่ยว วัฒนธรรมและอาหารการกินแล้ว ใคร ๆ ก็ต้องนึกถึง “ ไอดอล ” หรือเหล่าศิลปิน K-POP ที่สร้างชื่อเสียงมากมายให้ประเทศเกาหลีใต้ พวกเขาเหล่านั้นต้องต่อสู้เพื่อความฝันและฝึกหนักเพื่อให้ได้เดบิวต์ แต่หลายคนอาจคิดว่าการเป็นไอดอลแค่เดบิวต์ก็ประสบความสำเร็จ แต่ไม่ใช่เลยพวกเขาเหล่านั้นต้องแข่งขันเพื่อพิสูจน์มากมายให้แฟนคลับได้เห็นถึงความสามารถของพวกเขาเหล่านั้น ไอดอลบางกลุ่มเดบิวต์มาก็ประสบความสำเร็จดังระดับโลกแต่บางกลุ่มก็ไม่ได้ประสบความสำเร็จตามที่หวัง เส้นทางไอดอลนั้นไม่ได้ปูด้วยกลีบกุหลาบ แต่เส้นทางสู่การเป็น King นั้นก็ไม่ได้ยากลำบากเช่นกันสวัสดีค่ะวันนี้เราจะมาพูดถึงรายการ ROAD TO KINGDOM ( 2020 ) เป็นรายการแนวเซอร์ไววัล ของช่อง Mnet ที่นำบอยแบร์ด K-POP ชื่อดัง มาแข่งขันเพื่อเฟ้นหาผู้ชนะ เพื่อเป็น King ซึ่งรายการนี้สานต่อมาจากรายการ QUEENDOM ( 2019 ) ที่เป็นการแข่งขันของเหล่า ไอดอลหญิงแนวหน้า อย่าง OH MY GIRl , MAMAMOO , G – IDLE ที่ได้รับความนิยมในปีที่ผ่านมา ซึ่งกลุ่มบอยแบรนด์ที่เข้าร่วมแข่งขันในครั้งนี้คือ PENTAGON, ONF, Golden Child, THE BOYZ, VERIVERY, Oneus และ TOO เป็นการรวมตัวกันของวงน้องใหม่และวงรุ่นพี่ที่มากประสบการณ์ ซึ่งแน่นอนว่ากติกาแตกต่างออกไปจาก QUEENDOM โดยการแข่งขันครั้งนี้คือมีการคัดออกถึง 2 รอบ คือใครได้อันดับสุดท้ายในแต่ละรอบต้องออกจากรายการนี้ไป ซึ่งมีความโหดร้ายกว่า QUEENDOM มาก ๆ เพราะ QUEENDOM มีกติกาว่ากลุ่มไหนได้อันดับสุดท้ายติดต่อกันสองครั้งถึงจะได้ออกจากรายการแต่ก็ไม่มีกลุ่มไหนได้ออกไปจากรายการจึงทำให้มีจุดแตกต่างกันตรงนี้ และการแข่งขันจะมีคล้าย ๆ กันอยู่บาง คือ การโชว์เพลงศิลปินบอยแบรนด์รุ่นพี่วงอื่นในธีม King , การโชว์เพลงของฉัน , การแสดงร่วมกับทีมอื่นและแสดงเพลงที่อีกทีมเป็นคนเลือก ซึ่ง Mnet ยังคงความเซอร์ไพรส์ซ่อนเซอร์ไรส์ไว้เหมือนเดิม และพิธีกรคู่ขวัญคู่เดิม อีดาฮีและจางซองกยู อีกเช่นเคยเนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ทำให้ในห้องส่งมีเพียงแค่เหล่าศิลปินและพิธีกรเท่านั้นทำให้เกณฑ์การให้คะแนนปรับเปลี่ยนจาก QUEENDOM นิดหน่อย คือ รอบแรกตัดสินจากการให้ศิลปินให้คะแนนกันเองโดยสามารถลงคะแนนได้แค่วงละ 6 คน ตามจำนวนสมาชิกวงที่น้อยที่สุด และรอบสองเพิ่มเติมมาคือใช้คะแนนจากผู้ชมออนไลน์ด้วย จากการที่เราติดตามต่อมาจาก QUEENDOM ซึ่งบอกตรง ๆ ว่าเราค่อนข้างคาดหวังคือ เรารู้จักวงที่เข้าแข่งขันน้อยมาก ทำให้เรารู้สึกมีความเป็นกลางในการชมมาก ๆ ( 555 ) และการที่เป็นวงผู้ชายคงต้องตื่นตากับการเรียบเรียงเพลง การโชว์ performance ที่แข็งแรงและเท่มากกว่าผู้หญิง อยากเห็นการโชว์เพลงตัวเองในแนวใหม่ การแข่งแยกยูนิต โวคอล แร็ป เต้น แต่เหมือนในครั้งนี้ไม่มี ซึ่งข้อจำกัดในบางเรื่องทำให้เห็นประสิทธิภาพของเหล่าไอดอลมากขึ้นเนื่องจากเวทีที่แตกต่างออกไปเป็นเทวียาวเหมือนทางเดินที่โชว์ได้ทั้งสี่มุม ทำให้ศิลปินนอกจากจะต้องใส่ใจในเรื่องการเต้นการร้องแล้วต้องใส่ใจในเรื่องของมุมกล้องอีกด้วย ทำให้เห็นการวางแผนและพัฒนาการมากมายทำให้เห็นว่าวงนี้ก็เก่งนะวงนี้ก็มีประสิทธิภาพซึ่งทำให้เห็นว่าประสบการณ์ก็ไม่ได้ตีค่าความสามารถของคนเสมอไป แต่เราก็แอบรู้สึกเสียใจกับวงที่ต้องตกรอบไปนะรู้สึกว่าเขายังมีอะไรที่ต้องการโชว์ให้เราดูอีกเยอะอ่ะ แต่ก็อย่างว่าเพราะชีวิตไอดอลคือการแข่งขัน หลังจากดูรายการนี้คือโดน ศิลปินตกเข้าดอมหลายวงมาก จากการชมโชว์ความสามารถของพวกเขา และรีแอคชั่นที่ตลกปนน่ารัก ทำเอาต้องตกหลุมความน่ารักของพวกเขาทั้ง 7 วงไปเลยและตอนนี้รายการจะเข้าสู้รอบไฟนอลแล้วสามารถไปติดตามชมและเชียร์ผู้ที่ผ่านเข้ารอบ 5 วงสุดท้ายได้ที่ แอพพลิเคชั่น VIU ได้เลย ลิ้งค์รายการ :เครดิตภาพภาพปก และขอบคุณภาพจาก Mnet ภาพ1 ภาพ2 ภาพ3 ภาพ4 ภาพ5 ขอบคุณภาพจากเพจ viu thailand