ความเดิมตอนที่แล้ว ผมเดินตามโปรแกรม WALK TOUR ที่แนะนำโดยน้องจันทร์มา 3 โปรแกรมแล้วครับ ทำตัวเป็นชาวต่างชาติก้าวข้ามความคิดที่ว่าใกล้ตัว รู้ทุกเรื่อง วันนี้เป็นโปรแกรมที่ 4 เสาชิงช้า โลหะปราสาท ภูเขาทอง ไปกันเลยครับ 08.45 น.ผมเริ่มต้นจากริมคลองรอบกรุง ใช้ถ.เจริญกรุง ถึงแยกสี่กั๊กพระยาศรี เลี้ยวซ้ายถ.เฟื่องนคร ผ่านอาคารพานิชย์ 2 ชั้นเก่าแก่ถูกปรับปรุงทาสีใหม่งดงามสะอาดตา ถึงวัดราชบพิตร ฯ เป็นวัดที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเป็นวัดประจำรัชกาล นับเป็นพระอารามหลวงสุดท้าย ที่พระมหากษัตริย์ทรงสร้างตามโบราณราชประเพณีที่มีการสร้างวัดประจำรัชกาล มีลักษณะผสมระหว่างสถาปัตยกรรมไทยกับสถาปัตยกรรมตะวันตก คือ ลักษณะภายนอกเป็นสถาปัตยกรรมไทย ส่วนภายในออกแบบตกแต่งอย่างตะวันตกเป็นที่ประทับของสมเด็จพระสังฆราชหลายพระองค์ รวมถึงองค์ปัจจุบัน สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ เป็นวัดสำคัญที่สมเด็จพระสันตะปาปาสองพระองค์ในฐานะประมุขแห่งศาสนจักรโรมันคาทอลิกและประมุขแห่งนครรัฐวาติกัน คือ สมเด็จพระสันตะปาปายอห์น ปอลที่ 2 เมื่อเดือนพฤษภาคม 2527 และสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2562 เสด็จเยือนเพื่อเข้าเฝ้าสมเด็จพระสังฆราช นอกจากนั้นยังเป็นที่ตั้งของสุสานหลวง พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเป็นที่บรรจุพระอัฐิและพระสรีรางคาร ไว้เพื่อเป็นพระบรมราชูทิศพระราชกุศลแก่พระบรมราชเทวี พระราชเทวี เจ้าจอมมารดา พระราชโอรสและพระราชธิดาในพระองค์ มีรูปแบบสถาปัตยกรรมต่าง ๆ กันทั้งพระเจดีย์ พระปรางค์ วิหารแบบไทย แบบขอมและแบบโกธิค โดยตั้งอยู่ในสวนซึ่งมีต้นลั่นทมและพุ่มพรรณไม้ต่าง ๆ ปลูกไว้อย่างสวยงามออกจากวัดเดินไปตามถ.เฟื่องนครเลี้่ยวซ้ายเข้าถ.บำรุงเมือง เพื่อเข้าไปในย่านชุมชน "สามแพร่ง" อันประกอบด้วย แพร่งภูธร แพร่งนราและแพร่งสรรพศาสตร์ ทั้ง 3 ชุมชนเป็นอาคารเก่าแก่อายุกว่า 100 ปี นับเป็นชุมชนดั้งเดิม สืบเนื่องรุ่นต่อรุ่นมายาวนาน มีวิถีชีวิตที่สงบเรียบง่าย มีร้านอาหารและขนมไทยอร่อยเลื่องชื่อ มีอาชีพเก่าแก่ที่เคยรุ่งเรือง เช่น เย็บหมวกราชการ อู่ซ่อมรถคลาสสิค ร้านขายใบชา เครื่องหนัง ฯลฯ กลุ่มแรก คือ แพร่งภูธร ตรงนี้จะมีร้านไอติมชื่อดัง นัฐพรไอศครีมกะทิสด ต้อง 1 ถ้วยครับอร่อยสมคำร่ำลืออาคารใกล้ ๆ กันเป็นห้องพักแบบชิล ๆ Bangkok Forum เดินต่อไป ออกถ.แพร่งนรา ไปถ่ายภาพโรงเรียนเก่าแก่กันครับ โรงเรียนตะละภัฏศึกษา โรงเรียนเอกชน เดิมเป็นตำหนักไม้เก่าหลังเล็ก 2 ชั้น เคยใช้เป็นโรงละครปรีดาลัย โรงละครที่จัดแสดงละครร้องโดย พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์ ซึ่งได้รับความนิยมอย่างยิ่งในรัสมัยรัชกาลที่ 6 และรัชกาลที่ 7ต่อกันที่ถ.แพร่งสรรพศาสตร์ จะมีประตูวังสรรพสาตรศุภกิจตั้งอยู่ เนื่องจากเกิดเพลิงใหม้บริเวณวังทั้งหมดจึงเหลือเพียงประตูเท่านั้น ใกล้กันจะเป็น"วิวิธภูษาคาร"ร้านตัดเย็บเครื่องแบบเสือป่าและลูกเสือในสมัยรัชกาลที่ 6 ก่อนจะขยายกิจการเป็นร้านเครื่องแบบข้าราชการและเครื่องแบบนักเรียนใน พ.ศ. 2455 เป็นห้างร้านเดียวในประเทศที่ได้รับตราตั้งห้างแบบพิเศษ เป็นตราที่รัชกาลที่ 6 พระราชทานเป็นการส่วนพระองค์ พร้อมข้อความเบื้องล่างตราสัญลักษณ์ว่า “ได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตพิเศษ” ปัจจุบันร้านวิวิธภูษาคารเปลี่ยนเป็นโรงแรมชื่อ Vivit Hostel โดยที่มุมเล็กๆ มุมหนึ่งของโรงแรมยังรับตัดเสื้อด้วยช่างฝีมือรุ่นสุดท้าย และจัดโชว์ข้าวของเครื่องแบบสมัยก่อน เป้าหมายต่อไปศาลเจ้าพ่อเสือเป็นศาลเจ้าเก่าแก่ ว่ากันว่าศาลเจ้าพ่อเสือตั้งขึ้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว เดิมตั้งอยู่ริมถนนบำรุงเมือง ต่อมาเมื่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) โปรดให้ขยายถนนบำรุงเมือง ได้โปรดให้ย้ายศาลมาไว้ที่ทางสามแพร่งถนนตะนาว จนถึงปัจจุบัน ไปต่อกันที่วัดมหรรณพาราม สร้างในสมัยรัชกาลที่ 3 สถาปัตยกรรมภายในวัดมีทั้งแบบไทยและแบบที่ได้รับอิทธิพลมาจากจีน หลังคาของพระอุโบสถไม่มีช่อฟ้า ใบระกา พระวิหารมีขนาดเท่ากับพระอุโบสถ เป็นศิลปะแบบเดียวกัน มีพระพุทธรูปหล่อสมัยสุโขทัยนามว่า หลวงพ่อพระร่วงทองคำ เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ องค์พระเป็นทองคำ 60 เปอร์เซนต์ ออกจากวัดมหรรณฯ ใช้ ถ.มหรรณพ ย่านนี้ที่เห็นหนาตา คือ ร้านอาหารมากมายครับ มีอาหารทุกประเภททั้งที่มีชื่อเสียงเป็นที่ร่ำลือจนถึงร้านธรรมดาทั่ว ๆ ไป ผมเดินทะลุมาถึงถ.ดินสอตรงข้ามคือ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เลึ้ยวซ้ายจะออกไปอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เลี้ยวขวาจะไป โบสถ์พรามหณ์ เสาชิงช้า แถวนี้ร้านที่มีชื่อเสียง ก็ มนต์นมสดละครับ จบกันที่ร้านมนต์นมสดครับ โปรดติดตามภาค 2