อื่นๆ

เว็บไซต์หาเงิน ผ่านการขายของออนไลน์

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
เว็บไซต์หาเงิน ผ่านการขายของออนไลน์

วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับเว็บไซต์หาเงินผ่านการขายของออนไลน์ ที่เรียกว่า อีคอมเมิรซ์ (e-commerce) หรือ ตลาดนัดออนไลน์ (marketplace) สำหรับเว็บไซต์ในประเทศไทยก็มีอยู่หลายเจ้า แต่ที่เป็นที่นิยมและมีคนใช้งานกันมากที่สุดเห็นจะเป็น Shopee และ Lazada​ ที่เป็นคู่แข่งที่สูสีกันมาก ซึ่งทั้งสองเจ้านี้จริง ๆ แล้วมีบริษัทแม่อยู่ที่ในต่างประเทศ การซื้อของออนไลน์เป็นที่นิยมมากขึ้นตั้งแต่ช่วงที่มีการระบาดของโควิด-19 จนถึงช่วงปัจจุบันที่เป็นช่วง new-normal ทำให้หลาย ๆ คนหันมาหารายได้พิเศษ หรือเป็นรายได้หลักจากการเปิดร้านขายสินค้าออนไลน์

หากเราต้องการขายสินค้าออนไลน์เราไม่จำเป็นต้องเลือกแค่แพลตฟอร์มเดียว เพราะทั้ง Shopee และ Lazada นี้เราสามารถเข้าไปเปิดร้านได้โดยไม่มีค่าบริการ คือไม่ต้องเสียค่าสมัครเป็นสมาชิกหรือเพื่อการเปิดร้าน และทั้งสองแห่งก็มีจุดเด่นและกลุ่มเป้าหมายที่ต่างกันออกไป แต่เราต้องมีเวลาเข้าไปอัพเดตสินค้า ตอบคำถามลูกค้า และทำโปรโมชั่นอยู่เสมอ เพื่อให้คะแนนร้านค้าของเราอยู่ในเกณฑ์ที่ดี

Advertisement

Advertisement

ในวันนี้เราจะมาพูดถึงวิธีการสมัครเป็นสมาชิกเพื่อเปิดร้านของบน Shopee ซึ่งมีขั้นตอนที่ไม่ยุ่งยากเลย

Shopeeโดยก่อนที่เราจะเปิดร้าน หรือสมัครสมาชิกเพื่อเป็นผู้ขาย เราควรเตรียมตัวคร่าว ๆ ดังนี้ค่ะ

  • ตั้งชื่อร้าน โดยเลือกชื่อที่โดดเด่น ง่ายต่อการจดจำ และช่วยให้ลูกค้าค้นหาร้านเราได้ง่าย รวมถึงต้องสะท้อนให้เห็นถึงสินค้าที่เราขาย
  • ตรียมรูปภาพ และวีดีโอ ของร้านค้า และสินค้าที่เราจะขาย หรือจะออกแบบโลโก้ร้านด้วยก็จะทำให้ดูน่าเชื่อถือมากขึ้น
  • คำอธิบายร้านค้า ว่าร้านเราขายอะไร จะใส่เรื่องราวประวัติร้านค้าไว้ด้วยก็จะทำให้ดูน่าเชื่อถือและน่าสนใจมากขึ้น รวมทั้งใส่เบอร์โทรศัพท์ และอีเมล์ที่สามารถติดต่อได้ไว้ด้วย

Shopeeนอกจากนั้นแล้วเราควรจะต้องเข้าไปอ่านกฎระเบียบในการขายสินค้าว่าสินค้าอะไรขายได้ ขายไม่ได้ เช่น ห้ามขายสินค้าเลียนแบบ, สินค้าผิดกฎหมาย เป็นต้น

Advertisement

Advertisement

เมื่อเรามีข้อมูลทุกอย่างแล้วเราก็เข้าไปสมัครได้เลยค่ะ https://shopee.co.th/m/sell-on-shopee โดยกรอกข้อมูลต่าง ๆ และใส่เบอร์โทรศัพท์ในการลงทะเบียนและเพื่อรับ SMS สำหรับยืนยันตัวตน สำหรับคนธรรมดาที่ไม่ได้มีสินค้าเป็นแบรนด์ของตัวเอง หรือไม่ใช่ผู้ผลิตเราสามารถเปิดเป็นร้านค้าทั่วไปได้ หากเมื่อเวลาผ่านไปและเราได้คะแนนดี ๆ เราก็สามารถปรับระดับขึ้นไปเป็นร้านค้าแนะนำได้ แต่หากเรามีสินค้าเป็นของตัวเอง เราก็จะสามารถสมัครเป็นร้านค้าอย่างเป็นทางการได้ค่ะ

Shopeeเมื่อเราสมัครแล้ว เราก็จะต้องเข้าไปจัดการข้อมูลต่าง ๆ ที่หลังบ้านหรือเรียกว่า Seller Center โดยเราต้องใส่ข้อมูลต่าง ๆ ให้มากที่สุด ถูกต้องครบถ้วนที่สุดเพื่อประโยชน์ในการค้นหา การลงสินค้า เลือกวิธีการส่ง เมื่อเราเปิดร้านใหม่ ๆ เราควรจะเข้าร่วมกับ Shopee ในการทำโปรโมชันต่าง ๆ เพื่อทำให้สินค้าของเราได้รับการแนะนำในหน้าแรก ๆ โดยที่เราต้องรู้จักวิธีการตั้งราคา ที่จะต้องหักโปรโมชันส่วนลดต่าง ๆ ที่เราจะเข้าร่วม รวมถึงเปรียบเทียบกับราคาที่คู่แข่ง โดยเราสามารถเลือกโปรโมชันที่เราต้องการเข้าร่วมได้จากหน้า Market Center ซึ่งแต่ละโปรโมชันก็จะมีส่วนลดไม่เท่ากัน

Advertisement

Advertisement

Shopeeสำหรับในเรื่องของรายได้ เมื่อเราขายสินค้าได้แล้วและลูกค้ากดปุ่มตรวจสอบและยอมรับสินค้าพร้อมยืนยันการโอนเงินให้กับร้านค้าแล้ว รายได้จากการขายสินค้าก็จะถูกส่งเข้าไปใน Seller balance โดยเงินที่เราจะได้รับนั้นจะถูกหักพวก Transaction Fee หรือค่าดำเนินการต่าง ๆ เช่น ส่วนลดโปรโมชัน, Shopee Coin, ค่าธรรมเนียมการใช้บัตรเครดิตหรือค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมทางการเงินและภาษีมูลค่าเพิ่ม เป็นต้นค่ะ

ส่วนการรับเงินเราก็สามารถเลือกรับเงินได้สองวิธี คือ

วิธีที่ 1 ตั้งให้ระบบการถอนเงินอัตโนมัติ

โดยสามารถเลือกได้ว่าจะให้ระบบการถอนเงินอัตโนมัติเข้าบัญชีอาทิตย์ละครั้ง ซึ่ง Shopee จะโอนให้ทุก ๆ วันพุธ หรือ เดือนละครั้ง ทุกวันที่ 1 ของเดือน เราสามารถเข้าไป ตั้งค่าได้ในหน้า Seller Balance

วิธีที่ 2 คือการถอนเงินด้วยตนเอง ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2563 เป็นต้นไป เราสามารถถอนเงินเองกี่ครั้งก็ได้ไม่จำกัด จำนวนเงินขั้นต่ำครั้งอยู่ที่ 100 บาท และถอนฟรีได้ 1 ครั้งต่อสัปดาห์ หลังจากนั้นจะคิดรายการถอนเงินละ 10 บาท

Shopee

ปัจจุบันนี้การขายสินค้าออนไลน์มีการแข่งขันกันสูงมาก บางครั้งสินค้าเหมือน ๆ กัน ราคาต่างกันไม่มาก ผู้ซื้อจะเลือกซื้อสินค้าจากปัจจัยอื่น ๆ นอกจากความคุ้มค่าและโปรโมชัน เช่นยอดรีวิวในเชิงบวกจากคนที่เคยซื้อหรือใช้สินค้ามาก่อน หรือคะแนนรีวิวร้านค้า ดังนั้นแล้วเราต้องมีการโปรโมทให้ผู้ที่เคยซื้อสินค้าของเรารีวิวสินค้าและร้านค้าเยอะ ๆ และตอบคำถามอย่างรวดเร็วเวลาที่มีผู้สนใจเข้ามาในร้านของเรา หากใครที่มีสินค้าที่ต้องการขายและยังลังเลว่าจะเริ่มต้นตรงไหนดี เราแนะนำให้เข้าไปลองศึกษาหาข้อมูลเพิ่มเติมได้จากศูนย์การเรียนรู้ผู้ขาย ของ Shopee ที่ https://seller.shopee.co.th/edu/home ซึ่งจะมีคำแนะนำตั้งแต่เริ่มต้นให้ช่วยเปิดร้านได้ง่ายขึ้น, การจัดแต่งร้าน, การลงสินค้า, ไปจนถึงการเพิ่มยอดขาย, การวิเคราะห์ข้อมูลต่าง ๆ เพื่อเป็นประโยชน์ในการเพิ่มยอดขายของร้านเรา

Shopee

ข้อมูลจาก Shopee

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์