ปฏิเสธไม่ได้ว่านับตั้งแต่มีเริ่มสถานการณ์โรคระบาดอย่างโควิด-19 เกิดขึ้นตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว มาจนกระทั่งถึงตอนนี้ยังคงสร้างความหวั่นวิตกให้กับผู้คนจำนวนไม่น้อย หลายคนรู้สึกเหมือนเดินหลงทางอยู่ในป่า และไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะหาทางออกเจอ แต่เชื่อเถอะค่ะ ท่ามกลางสิ่งที่ทุกคนกำลังเรียกว่า ‘วิกฤต’ กำลังสอนอะไรเราอยู่ และหลายคนก็กำลังเรียนรู้จากสิ่งเหล่านี้ ภาพจาก pixabay ไม่มีอะไรมั่นคงและแน่นอน คำว่า ‘อะไร ๆ ก็เกิดขึ้นได้เสมอ’ ยังคงใช้ได้ดีทุกยุคทุกสมัย ในเมื่อชีวิตยังคงดำเนินต่อไป ไม่มีใครรู้ว่า หนข้างหน้าจะเจออะไร และบางครั้งมันก็ไม่คาดฝัน จนทำให้จิตใจเราต้องซวนเซ หรือบางคนอาจถึงขั้นล้มลงแบบไปต่อไม่ไหวกันเลยทีเดียว นาทีนี้คนมีสติเท่านั้นจึงจะสามารถประคองตัวเองให้ผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปได้ แต่คนที่ล้มลงก็ยังไม่สายนะคะ ขอเพียงตระหนักรู้ตั้งแต่ตอนนี้เลยว่าการมีสตินั้นสำคัญกว่าสิ่งใด และยังสามารถช่วยเหลือเราได้ทุกเรื่อง ดังนั้นเริ่มฝึกสติกันตอนนี้เลยนะคะ ภาพจาก pixabay อย่าผูกชีวิตไว้กับงานแค่งานเดียว ช่วงหลายปีมานี้ที่จริงมีหลายคนเริ่มไม่ไว้ใจงานประจำแล้วค่ะ จึงเลือกที่จะมี ‘งานข้างเคียง’ ที่ทำควบคู่กับงานประจำไปด้วย และหลายคนก็ออกมาเป็นนายตัวเอง แต่เรื่องอย่างนี้ก็ไม่ใช่จะทำกันได้ทุกคน เพราะบางคนก็อาจมีเหตุผลส่วนตัวที่ต้องยึดงานประจำเพียงงานเดียว แต่พอเกิดวิกฤตนี้น่าจะเป็นตัวเร่งให้เกิดความชัดเจนแล้วว่า เราไม่สามารถเอาชีวิตไปผูกติดกับงานใดงานหนึ่งเท่านั้น ในเมื่อไม่มีอะไรแน่นอน ก็ต้องคิดใหม่ทำใหม่กันตอนนี้เลย ภาพจาก pixabay รักแท้จะแพ้โควิดหรือไม่ นี่ก็เป็นเรื่องที่ได้วัดใจกันตอนนี้แหละค่ะ สำหรับคู่รักที่ยังไม่ได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน การต้องกักตัวอยู่บ้านอาจเป็นเรื่องทรมานใจ จะนัดเดทกันที่ไหนก็ไม่ได้ บางคู่เป็นรักทางไกลที่อยู่กันคนละจังหวัดหรือคนละประเทศ งานนี้ต้องดูกันยาว ๆ เลยล่ะค่ะ ถือเป็นบททดสอบที่ไม่ง่าย แต่ถ้าเคียงข้างกันจนผ่านไปได้ก็ถือว่าคุ้มสำหรับการพิสูจน์รักแท้นะคะ ภาพจาก pixabay อยู่คนเดียวให้เป็น คนมีคู่อาจจะวีดีโอคอลล์หากันได้ แต่คนโสดที่เหงาจับใจคงต้องหาอะไรทำแล้วล่ะค่ะ จากปกติที่เคยไปทำงานและได้เม้ามอยกับเพื่อนที่ออฟฟิศ ชวนกันไปช็อปปิ้ง ต่อด้วยกินชาบู ตบท้ายด้วยไปดริงค์ในผับทุกสุดสัปดาห์ ตอนนี้เส้นทางที่สามารถกลบเกลื่อนความเหงาได้ปิดลงทุกทางแล้ว แต่ก็ใช่ว่าชีวิตเราจะไปต่อไม่ได้นะคะ นี่เป็นช่วงเวลาดีที่เราจะได้ทบทวนตัวเอง และลองหากิจกรรมที่สามารถทำคนเดียวได้ เผลอ ๆ ทำไปทำมาเกิดติดใจ ต่อให้สถานการณ์โควิดจบไป ก็อาจไม่ต้องออกไปสังสรรค์ทุกสัปดาห์ให้เปลืองเงินก็ได้นะคะ ภาพจาก pixabay ใช้ประโยชน์จากโลกออนไลน์ เชื่อว่าเกือบทุกคนในเวลานี้คงจะต้องพึ่งโทรศัพท์มือถือเสมือนเป็นอวัยวะอีกอันหนึ่งของเราแน่ ๆ เพราะมีประโยชน์ทั้งด้านให้ความบันเทิง เหมาะกับช่วงสถานการณ์ตึงเครียดอย่างนี้ หลายคนต้องการผ่อนคลาย หรือแม้แต่การซื้อสินค้าหรือสั่งอาหาร ก็ต้องอาศัยแอพพลิเคชั่นต่าง ๆ และหากจะเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ มือถือก็ตอบโจทย์ให้เราได้ทุกอย่างอีกเหมือนกัน นับว่าเราโชคดีมากกค่ะที่เกิดมาในยุคที่มีมือถือไว้อำนวยความสะดวกอย่างนี้ ภาพจาก pixabay เพื่อนมนุษย์พร้อมช่วยเหลือเรา ในยามปกติเรามักจะเห็นเกรียนคีย์บอร์ดในโลกโซเชียล จนคิดว่าคนสมัยนี้เป็นอะไรกันไป แต่พอเกิดวิกฤตขึ้นมา แม้ว่าเกรียนคีย์บอร์ดอาจจะไม่ได้หมดไปซะทีเดียว แต่เราก็จะเห็นได้ว่าคนมีน้ำใจก็ผุดขึ้นมากมายเช่นกัน เป็นที่ประจักษ์ว่าที่จริงแล้วคนดีมีน้ำใจนั้นก็มีไม่ใช่น้อย เพียงแต่จะแสดงตัวออกมาตอนไหนเท่านั้นเอง เชื่อว่าตอนนี้หลายคนคงจะสัมผัสได้ถึงความสมัครสมานสามัคคีกันในสังคมได้ชัดเจนขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดีมากเลยค่ะ ชีวิตก็เป็นแบบนี้แหละค่ะ มีขึ้นมีลง มีความไม่เที่ยงแท้แน่นอน แต่นี่คือสัจธรรมที่อยู่คู่โลกเรามาแต่ไหนแต่ไร ไม่ใช่สิ่งใหม่แต่อย่างใด เราเพียงแค่เรียนรู้จากทุก ๆ เหตุการณ์ เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันทางจิตใจของเราให้เพิ่มขึ้น และต่อไปนี้ไม่ว่าจะเจออะไรชีวิตก็เดินต่อได้ไม่เสียศูนย์แล้วค่ะ ภาพปกจาก pixabay แฟนเพจนักเขียน https://www.facebook.com/dragonflydaysblogger/