อื่นๆ

เมื่อเพื่อนเจอผี

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
เมื่อเพื่อนเจอผี

เรื่องเล่าชวนผวานี้เกิดขึ้นเมื่อตอนเรียนอยู่ปีสามที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง  จำได้ว่าตอนนั้นมีงานนิทรรศการที่ชั้นปีต้องรับผิดชอบ  ทุกคนในเอกเดียวกันต้องช่วยกันจัดนิทรรศการอยู่เกือบหนึ่งสัปดาห์  แทบจะทุกวันหลังจากเลิกเรียนก็ต้องมารวมตัวกันเพื่อจัดทำสิ่งต่าง ๆ เพื่อเตรียมงาน  มีหลายครั้งที่อยู่กันจนถึงดึกดื่นหรืออยู่จนเวลาล่วงเลยไปถึงเวลาของอีกวันก็บ่อยครั้งเลยทีเดียว

มหาวิทยาลัยตอนกลางคืนนั้นน่ากลัวและมีประวัติหรือเรื่องเล่าลือเหมือนกับหลาย ๆ มหาวิทยาลัย  นอกจากตึกที่เรากับเพื่อน ๆ ช่วยกันจัดอุปกรณ์และตกแต่งสถานที่แล้ว  ตึกรอบข้างเมื่อไม่มีคนใช้งานก็พากันปิดไฟมืดครึ้มกันไปหมดและพาให้จินตนาการถึงสิ่งน่ากลัวได้ไม่หยุดหย่อน

แน่นอนว่าเมื่อต้องทำงานก็ย่อมมีความรู้สึกเหนื่อยและหิว  ตอนนั้นจำได้ว่าเป็นเวลาเกือบจะสี่ทุ่ม  เรากับเพื่อนอีกสามคนตัดสินใจเดินออกจากตึกที่จัดนิทรรศการเพื่อเดินไปโรงอาหารที่อยู่อีกฝั่ง  ด้วยความที่เป็นเวลาดึกพอสมควรแม้จะมีไฟฟ้าเปิดให้ความสว่างตลอดเส้นทาง...แต่ความมืดย่อมมีชัยชนะเหนือกว่า  อย่างหมู่ตึกที่อยู่ไกลออกไปบางแห่งก็ถูกความมืดปกคลุมจนดูน่ากลัว  ไม่มีแสงไฟส่องสว่าง  และไม่มีผู้คนเดินสัญจรไปมาให้เห็นแม้แต่น้อย

Advertisement

Advertisement

ขาไปทุกอย่างเรียบร้อยไม่มีปัญหา  เรากับเพื่อนเดินไปพูดคุยไปอย่างสบายอารมณ์  แต่ขากลับหลังจากไปซื้อของกินที่โรงอาหารกลับมีเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้น

เพื่อนคนหนึ่งในกลุ่มเกิดปวดท้องอยากเข้าห้องน้ำกะทันหัน  ด้วยความที่ไม่ไหวแล้วและปวดมาได้สักระยะหนึ่ง  เพื่อนจึงมองหาห้องน้ำที่ใกล้ที่สุดที่ยังคงเปิดให้ใช้อยู่โดยไม่รอไปถึงตึกที่จัดนิทรรศการ

ทุกคนตัดสินใจพากันไปเข้าห้องน้ำที่อาคารเรียนรวมที่ใกล้ที่สุด  ที่ใต้อาคารยังมียามเฝ้าและแสงไฟที่เปิดอยู่ชั้นบนของตึก  ทีแรกทุกคนจะพาเพื่อนไปเข้าห้องน้ำที่ใต้ตึกนั้นเองแต่กลับพบว่ามันปิดแล้ว  เราและเพื่อนจึงตัดสินใจขึ้นไปใช้ห้องน้ำบนตึกแทน

ลิฟต์เป็นทางผ่านเดียวที่สามารถขึ้นไปยังชั้นบนของตึกได้เพราะบันไดนั้นถูกปิดทางขึ้นลงไปแล้ว  เรากับเพื่อนขึ้นไปยังชั้นสองของตึกเรียนรวม  ภายในตึกมีการเปิดไฟตามมุมต่าง ๆ แต่ก็มีบรรยากาศวังเวงน่ากลัวอยู่พอสมควร  เพื่อนให้นามสมมุติว่าเอเดินไปเข้าห้องน้ำและมีเพื่อนอีกคนให้นามสมมุติว่าบีตามไปด้วย  เรากับเพื่อนอีกคนก็ยืนรออยู่ข้างหน้าห้องน้ำ  เวลาผ่านไปไม่นานเพื่อนทั้งสองคนก็เดินออกมา

Advertisement

Advertisement

ทั้งสองดูท่าทางปรกติดีจนกระทั่งพวกเราทั้งหมดเดินออกจากตึก

“แกก็ได้ยินใช่ปะ ?”

บีเอ่ยถามขึ้นมา  เรากับเพื่อนที่ไม่ได้เข้าห้องน้ำก็รู้สึกสนใจ  เอพยักหน้าและทำท่าทางลูบแขนไปมา  ขนแขนของเอลุกชันจนเรากับเพื่อนคนอื่นเห็นได้อย่างชัดเจน

บีเล่าว่าตอนที่เข้าห้องน้ำไปพร้อมกับเอ  ด้วยความที่บีปวดเบา  ขณะที่กำลังทำธุระส่วนตัวอยู่นั้นก็ได้ยินเสียงคนเข้าใช้ห้องน้ำทางซ้ายมือของตัวเอง  ทีแรกก็ไม่ได้แปลกใจคิดว่าเป็นเพื่อนคนที่เหลือตามมาเข้าห้องน้ำด้วย  ส่วนห้องทางขวามือก็เป็นเอที่เดินเข้าห้องน้ำไปพร้อมกัน

เมื่อบีทำธุระเสร็จก็เดินออกมาจากห้องน้ำ  เห็นห้องน้ำที่ประตูปิดอยู่สองห้องก็ไม่ได้คิดอะไร  เมื่อล้างมือเสร็จแล้วก็เดินออกมาจากห้องน้ำ...บีถึงกับชะงักไปเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าทั้งเราและเพื่อนอีกคนยืนคอยอยู่ข้างหน้า  ตอนนั้นบีรู้สึกประหลาดใจแต่ไม่ได้พูดอะไรออกมา

Advertisement

Advertisement

ในขณะที่เอซึ่งปวดหนักเข้าห้องน้ำนานกว่า  เอเล่าว่าเจอมาหนักกว่าบี  เอเองก็ได้ยินว่ามีคนเดินมาเข้าห้องน้ำห้องถัดไปจากบีเหมือนกันและคิดว่าคงเป็นหนึ่งในเพื่อนที่มาด้วยกัน  ขณะที่นั่งทำธุระอยู่นั้น  เอก็ได้ยินเสียงคนเปิดน้ำล้างมือและเดินออกไปซึ่งเจ้าตัวก็คาดเดาว่าเป็นบีนั่นเอง...แต่เหตุการณ์น่ากลัวก็เกิดขึ้นเมื่อห้องน้ำห้องถัดไปก็ค่อย ๆ เกิดประตูออกมาเหมือนกัน

เอเห็นจากช่องข้างใต้ประตูที่เว้นว่างไว้  เท้าคู่นั้นสวมรองเท้าผ้าใบ  จังหวะที่ค่อย ๆ เดินออกมาก็เดินปรกติดีแต่สักพักเท้าคู่นั้นก็ยกเขย่งและค่อย ๆ เดินคล้ายกับคนที่กำลังจะลอยขึ้น!

ปลายเท้าของคนปริศนาค่อย ๆ ลากและหันเหทิศทางมาทางห้องน้ำที่เอใช้อยู่  ตอนนั้นเอรู้แล้วว่าเจ้าของเท้าต้องไม่ใช่หนึ่งในเพื่อนของตัวเองและย่อมต้องไม่ใช่คนแน่ ๆ ไม่มีทางเลยที่คนปรกติธรรมดาที่ไหนจะเดินเขย่งปลายเท้า  และบางครั้งเอก็เห็นด้วยว่าปลายเท้านั้นแทบจะไม่ติดพื้นเลยด้วยซ้ำ!

ตอนนั้นเอเล่าว่าทำอะไรไม่ถูก  ไม่กล้าแม้กระทั่งส่งเสียงร้อง  ได้แต่นั่งชะงักอยู่กับที่  ไอ้ที่ปวดอยู่ก็หายเป็นปลิดทิ้งมีแต่ความรู้สึกราวกับถูกแช่แข็งอยู่กับที่เท่านั้น  ขณะที่สายตาจับจ้องอยู่ที่ปลายเท้าปริศนา  ปลายเท้านั้นยังคงลากเลื่อนไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งผ่านหน้าห้องน้ำที่เอใช้อยู่ก่อนที่จะค่อย ๆ หายลับเข้าไปในห้องน้ำที่เกือบท้ายสุด

เสียงประตูปิดตามหลังดังปัง!

ตอนนั้นเอได้สติและรีบจัดการตัวเองลวก ๆ ก่อนจะรีบเดินออกมาโดยไม่มองกลับไปข้างหลัง  เมื่อลงมาข้างล่างทั้งเอและบีจึงได้กล้าเปิดปากเล่าสิ่งที่เจอให้เพื่อนที่เหลือฟัง

เราและเพื่อนอีกคนชำเลืองมองไปทางอาคารเรียนรวมด้วยความรู้สึกขนลุก  เงาเงื้อมของตึกสูงใหญ่ที่ดูวังเวงกลับดูน่ากลัวขึ้นไปอีกเท่าตัวเมื่อเพื่อนได้เล่าว่าเจอเหตุการณ์อะไรมา!

ภาพปก  : Michal Jarmoluk จาก Pixabay

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์