อื่นๆ

เพื่อนร่วมหอ

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
เพื่อนร่วมหอ

ห้องใครใครก็รัก ห้องใครใครก็หวง!

ก่อนที่เราและรูมแมทที่ชื่อปู จะย้ายมาอยู่ด้วยกันตอนปี 2 เราต่างก็เคยอยู่หออื่นมาแล้ว ตลอดระยะเวลาก่อนที่เราจะย้ายมาอยู่กับปู ก็ไม่มีปัญหาอะไร เพราะเราอยู่หอคนเดียว อาจจะเหงาบ้างแต่มีเพื่อนมาเล่นมาคุยด้วยตลอด จนปี 2 แม่เราขอให้ย้ายไปอยู่หอกับเพื่อน เพราะเป็นห่วงเวลาไม่สบายหรือมีปัญหาอะไร จะได้ช่วยกันดูแล ดีกว่าอยู่คนเดียว เราเลยหาแมทโดยเลือกถามเพื่อนที่เรียนเอกเดียวกันรูป

ขอบคุณภาพจาก https://www.tnews.co.th/region/416368/

โชคดีที่มี ปู ติดต่อมาเพราะแมทเก่าของปูซิ่วไปเรียนพยาบาล ก่อนเปิดเทอมเราช่วยกันย้ายของและทำความสะอาด นอนหลับสนิท โดยไม่มีปัญหาอะไร เราสังเกตุใบหน้าของเพื่อนว่าพอย้ายมาอยู่ที่นี้รู้สึกมีความสุขขึ้น หน้าตาดูสดใส เพื่อนเราถอนหายใจเบา ๆ แล้วยิ้ม

Advertisement

Advertisement

  • ก่อนที่จะพูดออกมาว่า 'แก ขอบคุณมากนะ เราสบายใจมากที่อยู่นี้ มีหอดีมันรู้สึกดีอย่างนี้นี่เอง '
  • เรายิ้มและถามกลับไปว่า 'หอเก่าแกมันทำไมหรอ ? หรือแมทเก่าแกไม่ดี
  • ปูส่ายหัวแล้วหันซ้ายหันขวาก่อนพูดว่าง' เรื่องนี้มีแต่เรากับแมทเก่ารู้ เราทนอยู่ห้องเดิมเหมือนเราอยู่กันสามคน' ใช่ค่ะ ปูเล่าว่าห้องเดิมของมันมีผี ที่มาร่วมใช้ชีวิตในห้องนั้นเพราะมันรู้สึกว่าจะทำอะไรก็อยู่ในสายตาใครบ้างคนที่จ้องมองอยู่ตลอดเวลา ไม่เหมือนอยู่กับแมทกันแค่สองคน กลัวจนหายกลัวและกลับมากลัวจนสุดขีดรูป

ขอบคุณภาพจาก https://www.hongpak.in.th/rooms/

พอเกินจะทนไหว ปูจึงย้ายออก ประจวบเหมาะกับแมทอีกคนซิ่วไปเรียนพยาบาลพอดี เลยได้มาอยู่กับเรา ปูเล่าว่า หอเก่าของมัน เป็นหอพักที่ติดกับตลาด ดูครึกครื้นไม่เงียบเหงา มีการทาสีใหม่อยู่ตลอดเวลาดูไม่เก่า จึงเลือกที่นั้นชั้น 4 เป็นห้องว่างอยู่แค่ห้องเดียว หลังจากที่ตกลงเรื่องมัดจำต่าง ๆ เสร็จเรียบร้อย ปูก็ย้ายเข้าไปอยู่ก่อนแมทที่นั้นเลย ไม่มีลางบอกเหตุหรือความรู้สึกแปลก ๆ

Advertisement

Advertisement

  • จนคืนที่สามประมาณตี 1 ได้ยินเปิดประตู และเสียงน้ำไหลจากในห้องน้ำ ปูก็นึกว่าแมทกลับมาจากต่างจังหวัดเลยไม่สนใจอะไร จนเช้าตื่นมาคุยกัน ปูก็พูดขึ้นมาว่า 'พึ่งกลับหรอขยันนะแกเนี้ย ก็มาอาบน้ำตอนเลยเราได้ยินตอนตีหนึ่ง' เพื่อนอีกคนตกใจและรีบตอบกลับไปว่า 'แกจะบ้ารึไง ใครมันจะอาบน้ำตอนตีหนึ่ง เรากลับมาจากบ้านก็ตีห้าละ' ปูชะงักอยู่สักครู่ และพยายามหาเหตุผลให้ตัวเองว่าเสียงเปิดประตู อาจจะมาจากห้องอื่น และสียงน้ำอาจจะมาจากรางน้ำในห้องน้ำ

เหตุการณ์แบบนี้จะเกิดขึ้นทุกคืนประมาณตอนตี 1 ซ้ำไปซ้ำมาจากความกลัวเป็นความเคยชิน จนมีเหตุการณ์อื่น ๆ เกิดขึ้นและรุนแรงเรื่อย ๆ เช่น ปกติมหาวิทยาลัยจะมีการทำงานเป็นกลุ่ม และเรามันจะเลือกหอใครคนใดคนนึงเป็นสถานที่ทำงาน เลยเลือกหอปู เพราะกว้าง ใกล้ตลาดสามารถลงมาหาของกินและอุปกรณ์ได้สะดวก ก็อตจิ หนึ่งในสมาชิกกลุ่มมาตามนัดถึงหน้าหอประมาณ 8 โมงของวันเสาร์ แต่เข้าหอไม่ได้เพราะใช้คีร์การ์ดเลยให้ปูลงมาเปิดประตูให้ ขึ้นลิฟต์ไปพอถึง ชั้น 4 กำลังจะเข้าห้องปู

Advertisement

Advertisement

  • ก็อตก็สังเกตเห็นเงาดำ ๆ เป็นเงาของผู้หญิงผมยาว ไม่มีรูปพรรณสันฐานที่ชัดเจน แต่น่ากลัว และทำท่าเหมือนไล่ให้ก็อตกลับไป ไม่ต้องเข้ามา ก็อตกลัวทำอะไรไม่ถูก มือไม้สั่นไปหมด แต่ตั้งสติขึ้นได้จึงทำเป็นแกล้งบอกปูว่า ขอกลับหอก่อนเพราะพ่อแม่มาเยี่ยมกระทันหัน งานเดี๋ยวจะทำส่วนของตัวเองมาแล้วส่งให้ค่ำ ๆ ปูก็ตอบตกลงแบบงง ๆรูป

ขอบคุณภาพจาก https://www.hongpak.in.th/rooms/

สรุปวันนั้นก็อตเล่าให้เพื่อนทั้งกลุ่มฟังยกเว้นปู ทุกคนเลยลงมติกันว่าจะเปลี่ยนสถานที่ทำงานจากหอปูเป็นห้องสมุด โดยปูมารู้ทีหลังเมื่อไม่นานมานี้ ปูเป็นคนที่มีรูปร่างอวบ ๆ ค่อนไปทางอ้วน เวลานอนจึงเป็นตระคริวและเหน็บอยู่บ่อยครั้ง เลยไม่ได้คิดว่าจะเป็นเรื่องของผีอำ แต่คิดว่าเป็นเรื่องของสุขภาพซะมากกว่า วันนึงขณะที่นอนอยู่รู้สึกขยับตัวไม่ได้และหายใจไม่ค่อยออก พยายามขยับเท่าไหร่ก็ทำไม่ได้ ลืมตาก็ไม่ขึ้น จากนั้นได้ยินเสียงผู้หญิง พูดที่ข้างหูว่า 'ไม่ต้องพยายามหรอก มึงว่าแย่งที่กูมึงก็ต้องโดน' หัวเราะเดินไปรอบ ๆ ตัวของปู จากนั้นก็ค่อย ๆ แรงขึ้น ๆ และหยุดไปเองประมาณครึ่งชั่วโมง ปูลุกขึ้นได้แล้วปลุกแมทอีกขึ้น จากนั้นก็พากันไปนอนที่หอของเจนที่อยู่ชั้น 2 ของตึกเดียวกันจนเช้าจึงกลับห้องมา

ผีตนนี้มาหลอกเป็นประจำแล้วแต่ว่าจะหนักช่วงไหน จนเหตุกาณร์ที่ทำให้ปูตัดสินใจย้ายออก คือคืนหนึ่งที่แมทของปูกลับบ้าน ปูต้องนอนคนเดียวเพราะแม่จะมารับพรุ่งนี้ ในใจก็ไม่อยากนอนเพราะรู้ดีว่าตัวเองต้องโดนหลอกอีกแน่ ๆ แต่ก็ไม่อยากรบกวนเพื่อนคนอื่น เลยสวดมนต์และข่มตานอน นอนไปได้สักพัก เหมือนเหตุการณ์จะปกติดี แต่พอกำลังจะเคลิ้มหลับปูได้ยินเสียงร้องไห้อยู่ปลายเตียง หรี่ตาขึ้นมองเห็นผู้หญิงคนเดิม หันหลังร้องไห้อยู่ แต่ก็พยายามไม่สนใจหลับต่อ เสียงก็ดังเรื่อง ๆ เพียงแต่เปลี่ยนจากเสียงร้องไห้เป็นเสียงหัวเราะ

  • 'ออกไป !! นี่ห้องกู' เสียงตะโกนข้างหู ปูก็ทำเฉยๆ ไม่ลืมตาไม่ตอบโต้ ในใจก็กลัว แต่เหมือนมีคนเอามือมาง่างเปลือกตาให้มองไปตรงพัดลมเพดาน

สิ่งที่ปูเห็นคือร่างของผู้หญิงอึดช้ำเลือดช้ำหนอง ลิ้นจุกปาก เนื้อตัวสีดำห้อยหัวลงมาเหมือนผูกคอกับพัดลมแขวนเพดาน

รูป

ขอบคุณภาพจาก http://www.9horpak.com/AP0320.htm

  • ปูกรี๊ดดด เสียงดังที่สุดเท่าที่จะทำได้ รีบวิ่งไปลงห้องเจนที่ชั้นสอง แล้วขอนอนด้วย จากนั้นก็ไม่กลับไปห้องนั้นอีกเลย ตอนย้ายออกก็ขอให้พ่อแม่ช่วยจัดการเรื่องนี้ให้ ประจวบเหมาะกับที่แมทอีกคนซิ่วไปเรียนพยาบาลพอดี จึงได้ย้ายมาอยู่กับเรา แต่เพื่อนอีกคนไม่ค่อยโดนหลอก เพราะห้อยพระที่ย่าให้มาติดตัวไว้ตลอด แต่ก็เจอดีบ้างในรูปแบบกลิ่น และเสียง หลังจากที่ย้ายออกเจนเพื่อนหอเดียวกันที่อยู่ชั้น 2 เล่าให้ฟังว่า

เจนสงสารปูที่ต้องคอยเจอเรื่องแบบนี้ จึงไปเค้นหาความจริงจากเจ้าของห้องแต่เขาบอกปฏิเสธว่าไม่มีอะไร จนพี่ข้างห้องที่รู้จักกันเล่าให้ฟังว่า จริงๆแล้วห้องนั้นมีประวัติ ซึ่งเป็นข่าวลงหนังสือพิมพ์อยู่ประมาณ 6-7 ปีก่อน ว่ามีผญ.วัยทำงานคนนึงผูกคอตายในห้องนั้น เนื่องจากที่มีปัญหาเรื่องโดนไล่ออกจากที่ทำงาน กว่าจะพบศบก็ขึ้นอึดอยู่ในห้องประมาณ 5-6 วันแล้ว หลังจากที่จัดการเรื่องศพ ก็ได้มีการทำบุญที่ตึกพร้อมเปิดห้องนั้นให้เช่า แต่กี่คนที่มาเช่า ก็ทนความเฮี้ยนไม่ไหว ออกไปไม่รู้กี่รายต่อกี่ราย จากนั้นก็เปิดเป็นห้องพักรายวัน มีคนแวะเวียนมาเช่าบ้าง และปีล่าสุดเปิดให้เช่ารายเดือนก็มีปูกับเพื่อนนี่แหละที่มาเป็นลูกค้ารายแรกในรอบปี จนตอนนี้ปูย้ายมาอยู่กับเราได้หนึ่งปีแล้ว แต่ก็ไม่มีปัญกาอะไร อาจจะเพราะห้องใหม่เราไม่มี ผีหวงห้อง ก็เป็นไปได้


  • ⭐ จบแล้วกับเรื่องราวสยองขวัญที่เรานำมาแบ่งปันให้เพื่อน ๆ ได้อ่านกัน เป็นยังไงบ้างคะ กลัวกันรึเปล่า !? สำหรับเราสิ่งที่น่ากลัวกว่าผีก็คนนี่แหละค่ะ แล้วเจอกันใหม่บทความหน้านะคะ :)

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์