ถูกจับตามองทุกครั้งที่กลับมา สำหรับ Nike Pegasus ตำนานรองเท้าวิ่งตระกูลม้าบินจากค่าย Nike ซึ่งวางจำหน่ายรุ่นล่าสุดคือ Nike Pegasus 37 แล้วอย่างเป็นทางการในบ้านเรา (4 มิถุนายน 2563) นักวิ่งทุกคนโดยเฉพาะสาวกของแบรนด์นี้คงจะคุ้นเคยกับรองเท้ารุ่นนี้เป็นอย่างดี โฉมใหม่ของรองเท้าระดับตำนานมีความเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง สมกับที่ไนกี้ปลุกปั้นรองเท้ารุ่นนี้มาอย่างต่อเนื่องยาวนาน โดยยังคงยืนยันว่า นี่คือการพัฒนาทางเทคโนโลยีที่ตั้งใจให้รองเท้ารุ่นนี้ตอบโจทย์ให้กับนักวิ่งทุกคน และทุกเพศ ความเปลี่ยนแปลง 1. พื้นรองเท้า เพกาซัสรุ่นที่ผ่านมา มีการใช้พื้นรองเท้าที่เรียกว่า "Zoom Air" ที่มีผลทำให้เด้งขึ้น ดีดขึ้นเวลาวิ่ง รวมถึงข้อดีด้านความทนทาน และน้ำหนักเบา "Zoom Air" ของเพกาซัส 37 ถูกปรับให้มาอยู่ที่ปลายเท้า เพื่อให้ยกเท้าได้มากขึ้นเวลาวิ่ง และขนาดของมันใหญ่กว่ารุ่นก่อนหน้าถึง 2 เท่า จะช่วยส่งคืนพลังงานให้นักวิ่งได้มากขึ้น พื้นกลางเสริมด้วยโฟม "React" ที่เบาและทนทาน 2. กลางเท้า-หน้าผ้า มีการเปลี่ยนโครงสร้างในส่วนนี้ให้ส่วนกลางของเท้ากระชับมากขึ้น ส่วนหน้าผ้าโปร่งขึ้น เบาขึ้นกว่ารุ่นที่ผ่านมา ทำให้รู้สึกสบาย ไม่อับ และระบายอากาศได้ดีมากขึ้น ส่วนตัวยอมรับว่าเพกาซัส 2 รุ่นก่อนหน้าแม้จะมีข้อดีเรื่องความนุ่มของหน้าผ้า แต่ในความหนานุ่มทำให้รู้สึกร้อนและอบเท้ามาก จุดนี้ถูกแก้ไขในเพกาซัส 37 3. คุณสมบัติที่ยังคงเดิม - คอลลาร์ (ช่วงตาตุ่มของรองเท้า) ยังคงเว้าต่ำกว่าตาตุ่มตามคำแนะนำของนักวิ่งอาชีพว่าช่วยทำให้รู้สึกคล่องตัวมากขึ้น ในระยะแรกถ้ายังไม่เคยเจอคอลล่าร์แบบนี้อาจยังไม่ชิน จะรู้สึกเหมือนรองเท้าจะเลื่อนหลุดตลอดเวลา มีวิธีแก้คือผู้เชือกให้มาถึงรูสุดท้ายจะกระชับขึ้น - พื้นด้านล่างสุด ยังเป็นโครงสร้างแบบวาฟเฟิล (Waffle Rubber) ที่มีจุดเด่นเรื่องความทนทาน ซึ่งโครงสร้างนี้ถูกนำมาใช้ในรุ่นที่ผ่านมาเป็นพื้นรองเท้าที่ใช้วิ่งได้ทั้งในลู่ ลู่วิ่งไฟฟ้า และถนน ประวัติเล็กน้อยเกี่ยวกับ Nike Pegasus 1. วางจำหน่ายครั้งแรกตั้งแต่ปี ค.ศ.1983 (37 ปีมาแล้ว) ถูกโปรโมตในฐานะ "รองเท้าสำหรับนักวิ่งทุกคน" 2. "เพกาซัส" หมายถึงม้ามีปีกในตำนานกรีกโบราณ ไนกี้นำมาตั้งชื่อรุ่นรองเท้าเพื่อสื่อถึงความว่องไว เหมือนกับกำลังบินอยู่ 3. ไนกี้เคยหยุดผลิตรองเท้ารุ่น "เพกาซัส" ในปี 1997 และกลับมาผลิตใหม่ในปี 2000 4. "เพกาซัส" ถูกพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการสร้างจุดแตกต่างระหว่างรองเท้าสำหรับเพศชายและหญิง 4. มีนักกรีฑาอาชีพระดับโลกหลายคนใส่ "เพกาซัส" ในการซ้อมรวมถึง "เอลีอุด คิปโชเก้" ผู้ทำสถิติวิ่งมาราธอนต่ำกว่า 2 ชั่วโมง 5. เพกาซัสคือรองเท้ารุ่นที่ "มาร์ก พาร์กเกอร์" ประธานกรรมการไนกี้ออกแบบดีไซน์และเทคโนโลยีวิศวกรรมด้วยตนเอง *ข้อแนะนำเพิ่มเติม ปัญหาร้อนเท้า - มีหลายคนปรึกษาว่า ใส่รองเท้าไนกี้แล้วรู้สึกอึดอัด คิดว่าส่วนกลางของรองเท้าแคบเกินไป บางคนรู้สึกร้อนเท้าเวลาวิ่ง สามารถแก้ไขได้ง่ายมาก คือ เมื่อได้รองเท้ามา (ไม่ว่ารุ่นใดก็ตาม) ให้ถอดเชือกออกให้หมด สวมเท้าเข้าไป แล้วเริ่มผูกใหม่ตั้งแต่รูแรก เพราะเชือกรองเท้าที่ผูกมาแต่แรกไม่ได้พอดีกับเท้าของทุกคน ปัญหาเชือกหลุดง่าย - รองเท้าบางคู่เชือกจะแบน เพื่อความเบาหรือดีไซน์ต่างๆ มันจะหลุดออกง่ายมากถ้าผูกแบบปกติ มีวิธีแก้ คือ ก่อนผูกโบว์รองเท้า ให้ผูกปมแบบสองชั้นไขว้กัน และปมของโบว์ให้ผูกด้านละครั้ง ไม่ผูกพร้อมกัน ถ้าความยาวเหลือผูกปมของโบว์ทับซ้ำไปอีก (คำแนะนำจากทีมชาตินำมาใช้แล้วไม่หลุดอีกเลย) Nike Air Zoom Pegasus 37 วางจำหน่ายแล้ว ทาง Nike.com และร้าน Nike บางสาขา ราคา: 4,600 บาท เรื่องและภาพโดย: Sandtar