อุปสรรคร่วมกันของเทคนิคการปรับปรุงพันธุ์พืชทั้งแบบดั้งเดิม (conventional breeding) และการปรับปรุงพันธุ์โดยชักนำให้เกิดการกลายพันธุ์ (induced mutation) คือ ในขั้นตอนการคัดเลือกลูกผสมจะต้องอาศัยการเก็บเมล็ดพันธุ์ที่ได้จากการผสมไปปลูก แล้วรอจนกระทั่งต้นลูกผสมนั้นเจริญเติบโต จนเข้าสู่ระยะที่สามารถประเมินคุณสมบัติที่ต้องการได้ เช่น การปรับปรุงพันธุ์ไม้ดอก ก็ทำการปลูกเลี้ยงจนกระทั่งต้นลูกผสมนั้นออกดอก แล้วจึงคัดเลือกต้นที่สามารถให้ดอกที่มีสีสันหรือลักษณะรูปทรงของดอกตามต้องการ ซึ่งขั้นตอนของการคัดเลือกและตรวจสอบลักษณะที่พึงประสงค์ของต้นลูกผสมนั้นมีอีกหลายขั้นตอน กว่าจะคัดเลือกจนกระทั่งได้เป็นเมล็ดพันธุ์ที่มีมาตรฐานปัจจุบันงานปรับปรุงพันธุ์พืชมีเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า จึงมีการพัฒนาสายพันธุ์พืช ทั้งไม้ดอกไม้ประดับและไม้ผล เป็นพันธุ์ใหม่ ๆ ออกมามากมายเทคนิคการช่วยชีวิตเอ็มบริโอ (embryo rescue) เป็นส่วนหนึ่งของงานด้านเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อในสภาพปลอดเชื้อ (in vitro culture) ที่กล่าวได้ว่ามีความสำคัญมากสำหรับงานปรับปรุงพันธุ์พืช หลักการคือ นำดอกหรือผลในระยะเยาว์วัยมาทำการฟอกฆ่าเชื้อ แล้วตัดแยกส่วนเอ็มบริโอออกมา จากนั้นนำไปเพาะเลี้ยงบนอาหารสังเคราะห์ในสภาพปลอดเชื้อ เมื่อได้รับสภาวะที่เหมาะสมเอ็มบริโออ่อนนั้นจะสามารถพัฒนาเป็นต้นกล้าที่สมบูรณ์ได้การปรับปรุงพันธุ์โดยการผสมพันธุ์ระหว่างพืชที่มีความแตกต่างทางพันธุกรรมมาก มักพบว่ามีปัญหาเกี่ยวกับการที่เอ็มบริโอของลูกผสมไม่สามารถเจริญพัฒนาเป็นต้นอ่อนที่สมบูรณ์ได้ เทคนิคการช่วยชีวิตต้นอ่อนพืชที่เรียกว่า embryo rescue นี้เป็นวิธีที่ช่วยลดอุปสรรคของการผสมพืชข้ามสายพันธุ์ จึงมีส่วนทำให้งานปรับปรุงพันธุ์พืชมีความเจริญก้าวหน้าได้อย่างน่าทึ่ง นักปรับปรุงพันธุ์สามารถผสมพืชที่อยู่ต่างสปีชีส์หรือต่างจีนัสได้ เพราะถึงแม้เอ็มบริโอจะไม่สามารถเจริญพัฒนา แต่ก็สามารถนำเอ็มบริโอระยะเยาว์วัย (young embryo) มาเพาะเลี้ยงให้พัฒนาเป็นต้นพืชได้ตัวอย่างเช่น บัวหลวง เมื่อติดผลแล้วก็สามารถนำเมล็ดอ่อนมาเพาะเลี้ยงในสภาพปลอดเชื้อ ได้โดยไม่ต้องรอจนกระทั่งเมล็ดแก่ เทคนิคการช่วยชีวิตเอ็มบริโอบัวหลวงนี้สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับงานปรับปรุงพันธุ์บัวได้ต่อไปเทคนิคการเพาะเลี้ยงเอ็มบริโอยังมีประโยชน์สำหรับการขยายพันธุ์พืชที่เพาะเมล็ดให้งอกตามธรรมชาติได้ยาก เช่น มะเม่า สามารถใช้วิธีพิเศษโดยผ่าและตัดเอาส่วนเปลือกหุ้มเมล็ดที่แข็งและหนาซึ่งเป็นอุปสรรคของการงงอกออกไป แล้วนำเอ็มบริโอไปเพาะเลี้ยงนอกจากนี้เทคนิค embryo rescue ยังมีประโยชน์สำหรับการขยายพันธุ์พืชที่มีลักษณะเอ็มบริโอไม่สมบูรณ์ตามธรรมชาติ รวมทั้งพืชที่มีโครโมโซมชุดเดียว (haploid plants) อีกทั้งยังช่วยลดขั้นตอนและระยะเวลาในการปรับปรุงพันธุ์พืชได้อย่างมากงานเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อพืชในส่วนเทคนิคการช่วยชีวิตเอ็มบริโอ นับได้ว่าเป็นเทคโนโลยีชีวภาพทางการเกษตรที่มีประโยชน์ในการสร้างสายพันธุ์พืชเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค สำหรับทั้งพืชผลทางการเกษตรและไม้ดอกไม้ประดับ จึงเป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีสำคัญที่มีส่วนส่งเสริมความก้าวหน้าทั้งในเชิงเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมเครดิตภาพ : ภาพปกและภาพประกอบทุกภาพ โดยผู้เขียน (SaltLegume)เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !