อื่นๆ

เตียงคุณย่า

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
เตียงคุณย่า

มีเรื่องเล่าประสบการณ์จากเพื่อนของผมเองชื่อคุณก้อยๆ มีคุณย่าชื่อว่าย่าเอียด  เป็นสาวแม่ม่ายตัวคนเดียวไม่มีลูก  ย่าเอียดมีโรคประจำตัวคือเบาหวานและอัลไซเมอร์ นอนติดเตียง ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้
สาวก้อยเธอเป็นคนดูแลในทุกๆอย่างให้กับป้าของเธอไม่ว่าจะเป็นอาหาร ยารักษาโรคประจำตัว เสื้อผ้า หรือแม้แต่เวลาไปหาหมอ ก้อยก็จะเป็นคนพาย่าเอียดไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลเป็นประจำ บ่อยครั้งในระหว่างที่ก้อยกำลังเช็ดตัวให้ย่าเอียดอยู่ ย่าเอียดมักจะบ่นอะไรพึมพำเหมือนกำลังคุยอยู่กับใครซักคนหนึ่งซึ่งในห้องนั้นมีแค่ย่าเอียดกับก้อยอยู่เพี่ยง2คนเท่านั้น บางที่แกมักจะเรียกชื่อคนที่แกคุยด้วย เป็นชื่อเพื่อนๆที่เสียชีวิตไปแล้วบอกว่ามาหามาคุยกับแก  ซึ่งตัวก้อยเองเป็นคนที่กลัวผีอยู่แล้วมักจะรู้สึกหลอนๆในบางเวลา แต่ก้อยก็พยายามคิดว่ามันน่าจะเกิดจากโรคอัลไซเมอร์ของย่าเอียด ถึงทำให้แกเพ้อคิดว่าคุยกับคนที่เสียชีวิตไปแล้ว

Advertisement

Advertisement

บ้านที่ย่าเอียดอาศัยอยู่นั้นเป็นบ้านสองชั้นครึ่งปูนครึ่งไม้ ชั้นล่างเป็นพื้นปูน และชั้นบนเป็นพื้นไม้ บ้านหลังนี้เป็นบ้านเก่าสร้างขึ้นตั้งแต่รุ่นคุณทวด ย่าเอียดจะนอนบนเตียงผู้ป่ายเหมือนตามโรงพยาบาลรัฐ อยู่ที่ชั้นล่างของตัวบ้านส่วนก้อยเองจะนอนอยู่ชั้นบนบ้านชั้นสอง วันหนึ่งก้อยเกิดปวดท้องปัสสาวะซึ่งก็จะต้องเดินเข้าลงมาห้องน้ำที่อยู่ชั้นล่าง ในขณะที่เดินลงมาในความมืด ก็เห็นย่าเอียดลุกขึ้นมาจากเตียงด้วยตัวเอง เหมือนว่าแกเป็นคนปรกติ ก้อยเห็นก็ได้แต่ตกใจแต่ไม่กล้าบอกใคร ก้อยเองก็ได้แต่สงสัยว่าแกลุกขึ้นมาเองได้อย่างไร ทั้งๆที่แกนอนยังขยับหรือกระดิกตัวไม่ได้และ 3เดือนหลังจากนั้น ย่าเอียดได้จากไปอย่างสงบด้วยโรคชราที่บ้านบนเตียงของแก ทางบ้านได้จัดงานศพให้ย่าเอียดที่บ้านอย่างเรียบง่าย
วันสุดท้ายหลังจากเสร็จงานเผาศพย่าเอียดที่วัดแล้ว ก้อยกลับมาที่บ้านและเดินผ่านเตียงที่ย่าเอียดเคยนอนอยู่ เธอได้กลิ่นควันธูปทั้งๆที่จริงแล้วไม่มีการจุดธูปเลยทั้งในบ้านและข้างบ้าน สร้างความขนหัวลุกให้แก่สาวก้อยเป็นอย่างมาก กลางคืนขณะที่เธอนอนอยู่ชั้นบนชั้นสอง ก็มักจะได้ยินเสียงเตียงดังเอี๊ยดๆจากเตียงชั้นล่างอยู่บ่อยๆ และเหมือนเดิมเวลาที่เธอจะเข้าห้องน้ำตอนกลางคืนก็ต้องผ่านเตียงที่ย่าเอียดเคยนอนอยู่ทุกวัน แต่ย่าเอียดไม่เคยมาแสดงให้เห็นเป็นตัวเป็นตน

Advertisement

Advertisement

สาวน้อยจึงทนไม่ไหวกับเหตุการขนหัวลุกจึงได้คุยกับพ่อและตกลงว่าให้เอาเตียงของย่าเอียดไปบริจาคให้คนอื่นแทนหลังจากนั้นเป็นต้นมา สาวก้อยก็ยังอยู่ที่บ้านหลังเดิม แต่ไม่ค่อยเจอเหตุการณ์น่าขนหัวลุกอย่างที่เคยเจอ ซึ่งปัจจุบันตัวเธอเองก็มักจะทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ย่าเอียดอยู่เป็นประจำ

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์