สัปดาห์นี้เกิดกระแสอันเชี่ยวกรากในสังคมไทยเรา โดยเฉพาะกลุ่มผู้ใช้งาน ว่าด้วยการปลุกกระแสความเท่าเทียมกันของคู่รักที่มีความหลากหลายทางเพศ หรือ LGBTQ เริ่มจากการผลักดันการแก้ไขประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ฯ (ป.พ.พ.) ของ ส.ส. พรรคก้าวไกล จาก #สมรสเท่าเทียม สู่ความเคลื่อนไหวของคณะรัฐมนตรี ซึ่งมีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติคู่ชีวิต หรือ มาตรการ พ.ร.บ.คู่ชีวิต ซึ่งเสนอโดยกรมคุ้มครองสิทธิฯ กระทรวงยุติธรรมดูเหมือนว่าความเคลื่อนไหวดังกล่าวถือเป็นการเปลี่ยนแปลงของสังคมไทยครั้งยิ่งใหญ่ แต่นั่นยิ่งทำให้เกิดกระแสอันร้อนระอุ วิพากษ์วิจารณ์ถึงความเท่าเทียมที่ไม่ครอบคลุม ความรู้สึกของกลุ่มคนที่เหมือนจะได้เฮ แต่ก็เฮได้ไม่สุด เราจึงต้องมาเจาะลึกร่างพระราชบัญญัติคู่ชีวิตฉบับล่าสุดกันว่า สิทธิ หน้าที่ และศักดิ์ศรีอะไรบ้างที่คู่ชีวิต LGBTQ สามารถทำได้ และยังมีประเด็นใดที่ยังไม่สามารถทำได้เฉกเช่นคู่สมรสเพศหญิงและชายเราจะเห็นได้ว่า ร่าง พ.ร.บ.คู่ชีวิต กำหนดให้คู่รัก LGBTQ สามารถแต่งงานและจด 'ทะเบียนคู่ชีวิต' ยังไม่ใช่ 'ทะเบียนสมรส' เมื่อทั้งสองฝ่ายมีอายุครบ 17 ปีบริบูรณ์ โดยทั้งสองฝ่ายจะเป็นบุคคลที่มีสัญชาติไทยด้วยกัน หรือบุคคลฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอาจเป็นบุคคลสัญชาติอื่นก็ได้ หรือหากทั้งสองฝ่ายยังมีอายุไม่ครบ 17 ปีบริบูรณ์ จะต้องให้บิดา มารดา ผู้ปกครอง หรือศาล ให้การยินยอมเสียก่อนจึงจะแต่งงานและจดทะเบียนคู่ชีวิตกันได้ ซึ่งประเด็นนี้ถือเป็นความเปลี่ยนแปลงระลอกแรกที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน แต่นั่นก็ยังไม่ใช่ความเท่าเทียมที่แท้จริงอยู่ดี เนื่องจากรายละเอียดที่เกิดจากการจดทะเบียนคู่ชีวิต ยังคงแตกต่างจากการจดทะเบียนสมรสระหว่างชายและหญิงอยู่ค่อนข้างมากประเด็นปลีกย่อยบางส่วนที่น่าสนใจจาก ร่าง พ.ร.บ.คู่ชีวิตของกระทรวงยุติธรรมก็มีอยู่หลายข้อ ไม่ว่าจะเป็นสิทธิ หน้าที่ และศักดิ์ศรีในการจัดการทรัพย์สินร่วมกันหลังจดทะเบียน การให้และได้รับมรดก การทำนิติกรรมร่วมกัน การดูแลอุปการะเลี้ยงดูซึ่งกันและกัน การทำหน้าที่เป็นผู้พิทักษ์หรือผู้อนุบาลหากคู่ชีวิตฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งกลายเป็นคนไร้ความสามารถหรือวิกลจริต และเรื่องสำคัญที่เกี่ยวข้องกับทายาท ที่ร่าง พ.ร.บ.คู่ชีวิตให้สิทธิรับบุตรบุญธรรมร่วมกันของคู่ชีวิตทั้งสองคนนั่นเองหลายคนรู้สึกว่าที่กล่าวมาก็เป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่เพิ่มเข้ามาให้คู่รัก LGBTQ แต่เราก็ต้องยอมรับว่าที่สุดแล้วก็ยังมีสิทธิอีกหลายข้อ ที่คู่ชีวิตเพศเดียวกันยังถูกจำกัดอยู่ดี โดยเฉพาะการหมั้นที่ยังไม่สามารถกระทำได้ เรื่องสวัสดิการทั้งภาครัฐและเอกชน สวัสดิการการรักษาพยาบาล กองทุนประกันสังคม บำเหน็จบำนาญข้าราชการ การลดหย่อนภาษี การเปลี่ยนสัญชาติมาเป็นสัญชาติไทยของคู่ชีวิตชาวต่างชาติ หรือแม้กระทั่งการอุ้มบุญที่หลายคนคาดหวังให้เกิดขึ้นอย่างถูกต้องก็ยังไม่สามารถทำได้ ทั้งหมดจึงกลายเป็นว่า ศักดิ์ศรีของคู่ชีวิต LGBTQ ก็ยังคงไม่เท่าเทียมกับคู่สมรสชายหญิงหลายฝ่ายวิพากษ์วิจารณ์ไปในทำนองเดียวกัน ตามหลักการความเท่าเทียมกันทางเพศและสิทธิมนุษยชน มุ่งหวังให้คู่รักไม่ว่าจะต่างเพศหรือเพศเดียวกัน สามารถแต่งงานและได้รับสิทธิ หน้าที่ และศักดิ์ศรีเท่าครอบคลุมเท่าเทียมกันทุกประเด็น ซึ่งขณะนี้ทางด้าน ส.ส. ธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ และคณะพรรคก้าวไกล กำลังเสนอร่าง พ.ร.บ. แก้ไขประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ป.พ.พ.) มาตรา 1448 อนุญาตให้บุคคลเพศเดียวกันทั้งสอง สามารถหมั้นและจด 'ทะเบียนสมรส' เป็น 'คู่สมรส' มีสิทธิ หน้าที่ และศักดิ์ศรีเท่าเทียมกับคู่สมรสชายหญิงทั่วไปซึ่งการเปลี่ยนแปลงไปสู่ความเท่าเทียมดังกล่าว ต้องอาศัยความคิดเห็นจากประชาชนเป็นสำคัญ โดยเราทุกคนไม่ว่าจะเพศใด จะแต่งงานแล้วหรือไม่ก็ตาม สามารถเข้าไปแสดงความคิดเห็นต่อร่างแก้ไข ป.พ.พ. 1448 เพื่อสมรสเท่าเทียมได้ที่เว็บไซต์ของรัฐสภา www.parliament.go.th ซึ่งระบุรายละเอียดต่าง ๆ เอาไว้อย่างครบถ้วน อยากให้ทุกคนได้ใช้เสียงของตัวเอง ไม่ว่าเราจะเป็นเพศใด แต่เราสร้างความเปลี่ยนแปลงให้สังคมไทยของเราเกิดความเท่าเทียมกันได้อย่างแท้จริงเครดิตรูปภาพ- ภาพหน้าปก โดย Cecilia Johnson : UNSPLASH- ภาพประกอบที่ 1 โดย Stavrialena Gontzou : UNSPLASH- ภาพประกอบที่ 2 โดย Jana Sabeth : UNSPLASH- ภาพประกอบที่ 5 โดย Jose Pablo Garcia : UNSPLASH