เคล็ดลับในการรับมือกับหนี้สินท่วมหัวอย่างไรกับสถานการณ์โควิด อย่างที่ใครหลายคนรู้กันดีอยู่ว่าโลกเรากำลังเผชิญสถานการณ์การระบาดของไวรัสโคโรนา หรือ COVID-19 ที่แพร่ระบาดไปทั่วโลก ทำให้ส่งผลกระทบมากมายให้กับหลายประเทศ โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจที่กลายเป็นปัญหาระดับโลก และประเทศไทยเองก็กำลังเผชิญกับเศรษฐกิจที่กำลังตกต่ำ ทำให้ประเทศต้องถูกปิด นักท่องเที่ยวต่างชาติไม่สามารถเดินทางมาเที่ยวเมืองไทยได้ เจ้าของกิจการหลายแห่งต้องปิดตัวลง ส่วนมนุษย์เงินเดือนหลายคนก็ต้องกลายเป็นคนตกงาน มีทั้งคนที่ไม่ทันตั้งตัว และบางคนก็โดนบอกเลิกจ้างแบบฟ้าผ่าเลยก็มี หรือบางคนที่มีงานทำก็อาจจะถูกลดเงินเดือนลงไปบ้าง เช่นเดียวกันคนเขียนเลยที่จากเมื่อก่อนต้องทำงานสัปดาห์ละ 6 วัน พอเกิดสถานการณ์โควิดทำให้บริษัทมีการปรับเปลี่ยนวันทำงานให้เหลือเพียงสัปดาห์ละ 5 วัน และวันที่ให้หยุดเพิ่มนั้นก็หักเงินจากเงินเดือน ก็เหมือนกับว่าลดเงินเดือนไปโดยปริยายนั้นเอง ทำให้เงินจากที่เคยได้ก็ได้ไม่เหมือนเดิม แน่นอนว่ามันย่อมส่งผลกระทบไม่มากก็น้อย เพราะถ้าใครที่เป็นหนี้ก็คงจะรู้ดี และเราก็เชื่อว่ายังมีอีกหลายคนก็ต้องกลุ้มใจกับปัญหาหนี้สินที่เข้ามารุมเร้า วันนี้เราเลยอยากจะมาแบ่งปันวิธีรับมือกับหนี้ในช่วงสถานการณ์โควิด เพื่อให้ทุกคนได้ผ่านเหตุการณ์นี้ไปด้วยกัน 1. วางแผนการใช้เงินและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้เงิน สิ่งแรกที่ควรทำในการรับมือกับหนี้สินในช่วงสถานการณ์โควิดเลยก็คือ “การวางแผนการเงิน” ปัจจุบันมีรายรับเข้ามาแต่ละเดือนเท่าไร และมีรายจ่ายอะไรบ้างที่จะจ่าย ไม่ว่าจะเป็นหนี้ก้อนเล็กจนไปถึงหนี้ก้อนใหญ่ เพื่อที่จะสำรวจว่าเงินที่เข้ากระเป๋ากับเงินที่ต้องออกจากกระเป๋ามันสมดุลกันหรือไม่ เมื่อสำรวจตรวจสอบแล้วก็เริ่มมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการจ่ายเงินของตัวเราเองเพื่อให้สมดุลกัน รายจ่ายในส่วนไหนที่ไม่จำเป็น เช่น กินข้าวในร้านอาหารแพง ๆ ก็เปลี่ยนมาทำอาหารกินเองบ้าง และหันมาทำบันทึกรายรับรายจ่ายในแต่ละเดือน ซึ่งวิธีนี้จะช่วยทำให้มองเห็นเส้นทางการเงินได้กว้างมากขึ้น มองเห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่ารายจ่ายส่วนไหนที่ไม่จำเป็น ช่วงแรก ๆ ในการทำบันทึกรายรับรายจ่าย อาจจะยุ่งยากไปสักหน่อย แต่เชื่อเถอะว่าวิธีนี้เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยทำให้รอดพ้นวิฤกตนี้ไปได้ ไม่เชื่อลองดูนะคะ 2. เจรจากับเจ้าหนี้ต่าง ๆ เพื่อให้ประนีประนอม หรือชะลอการจ่าย จากผลกระทบทางเศรษฐกิจที่ส่งผลให้หลายคนได้รับผลกระทบทั้งรายได้และหนี้สิน ซึ่งเรื่องนี้เองก็ทำให้มีนโยบายจากหลายธนาคารเพื่อช่วยเหลือลูกหนี้ ทั้งการปรับลดดอกเบี้ย ลดยอดการผ่อนในแต่ละเดือน หรือบางธนาคารก็พักชำระหนี้ให้ไว้ก่อนประมาณ 3 – 6 เดือน ฉะนั้นใครที่กำลังผ่อนค่างวดบ้าน รถยนต์ หรือจ่ายหนี้พวกสินเชื่อส่วนบุคคล บัตรเครดิต บัตรกดเงินสด ก็ลองเข้าไปติดต่อกับธนาคารที่เป็นเจ้าหนี้กันดูนะคะ อย่างของผู้เขียนเองก็มีหนี้กับธนาคารออมสิน ซึ่งก็พักชำระในการจ่ายได้ไปก่อนเลย 6 เดือน ทำให้ผู้เขียนเองมีสภาพคล่องทางการเงินที่ดีขึ้น อย่างไรก็ตามแม้ว่าหนี้จะถูกพักชำระไว้ก็ใช่ว่าหนี้เราจะหมด ยังไงเสียเป็นหนี้ก็จะต้องใช้คืนค่ะ 3. มองหาช่องทางสร้างรายได้ การหารายได้เสริมเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการรอดตายให้กับทุกคน แม้ว่ารายได้หลักของเราจะไม่มีหรือว่าถูกลดลง ก็ใช่ว่าเราจะหมดหนทางไปเสียทุกอย่าง เหมือนกับผู้เขียนเองที่รายได้หลักลดลง ก็มองหารายได้เสริม เลือกงานที่คิดว่าตัวเองถนัด อย่างงานเขียนบทความทางออนไลน์ เป็นต้น แม้ว่าเงินที่ได้รับอาจจะไม่ได้เยอะมากมาย แต่ก็บอกเลยว่าสามารถนำเงินเหล่านี้มาช่วยแบ่งเบาภาระที่เป็นอยู่ได้เลย นอกจากนี้แล้วก็ยังมีอีกหลายงานที่เกิดขึ้นใหม่ มีพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์หน้าใหม่หลายคนที่สร้างเนื้อสร้างตัวได้เลย พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส ฉะนั้นบอกเลยว่าโอกาสมีให้สำหรับทุกคน แหละนี้ก็คือวิธีในการรับมือกับหนี้สินของผู้เขียน หวังว่าวิธีนี้อาจจะมีประโยชน์ให้สำหรับทุกคนที่ได้เข้ามาอ่าน หรือใครที่อยากจะแนะนำวิธีอื่น ๆ หรือได้นำวิธีนี้ไปปรับใช้กับตัวเองแล้วได้ผลก็อย่าลืม Comment เล่าสู่กันฟังบ้างนะคะ ขอบคุณรูปจาก Pixabay : ภาพหน้าปก ภาพที่ 1 ภาพที่ 2 และภาพที่ 3