ใบชาเขียวที่ผ่านกรรมวิธีการต้มหรือชงขึ้นอยู่กับสูตรของร้าน แต่หลักๆ จะต้มหรือชงด้วยน้ำแรก ทำให้สี กลิ่น รสชาติมีความชัดเจนอย่างมาก ผู้ชงชาจะทำการใส่นมเพื่อคงสภาพสีที่สดว่าน้ำชาเขียวที่ผ่านการชงหลายๆ น้ำ แต่ถ้าตัดการใส่นมลงก็ไป แล้วเปลี่ยนเป็นเติมน้ำตาล หรือน้ำผึ้ง ก็จะกลายเป็นชาเขียวดำ แม้ว่าชาเขียว (Green Tea) จะเป็นเมนูหนึ่งในตัวเลือกเพื่อคนรักสุขภาพ และสามารถประยุกต์เมนูได้อย่างหลากหลาย ซึ่งหลายๆ คนคงจะคุ้นเคยกับเครื่องดื่มชาเขียวใส่นมกัน แต่เมนูชาเขียวอีกรูปแบบที่มีผู้คนนิยมดื่มไม่แพ้กันก็คือ 'ชาเขียวดำ' หรือชาเขียวไม่ใส่นม ชงสดๆ ร้อนๆ ใส่น้ำแข็งพร้อมดื่มได้เลย หลายๆ คนอาจจะไม่ชื่นชอบชาเขียวดำมากนัก เนื่องจากกมีความขมฝาดมาก และมีกลิ่นเหม็นเขียว แต่ถ้าหากเปิดใจลองชิมดูจะพบว่าตัวชาเขียวดำนั้นก็มีรสชาติที่สดชื่น และมีความหอมบริสุทธิ์ไม่แพ้ชาอื่นๆ เลย ประกอบกับการดื่มแบบไม่ใส่นมก็เป็นอีกทางเลือกของคนรักสุขภาพที่ดีเลยทีเดียว รู้จักกับชาเขียว ภาพประกอบโดย Mr. Leviathan ใบชาเขียว เป็นใบชาตากแห้งที่ไม่ผ่านการหมัก ใช้กรรมวิธีที่ไม่ซับซ้อน และเมื่อชงกับน้ำร้อนจะได้สีเขียวออกมาแทนสีน้ำตาล ประกอบกับใบชาเขียวมีสารประกอบฟีนอลหลงเหลืออยู่มากกว่า มีฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระ และยังมีสาร EGCG ที่ช่วยควบคุมการดูดซึมไตรกลีเซอไรด์และคอเลสเตอรอลในลำไส้ และช่วยในการเผาผลาญไขมันให้มากยิ่งขึ้นเมื่อคุณทำกิจกรรมและออกกำลังกาย แล้วพักดื่มชาเขียว นอกจากนี้ยังมีสารอาหารอื่นๆ อีกมากมาย และให้พลังงาน 0 แคลลอรี่ จึงทำให้ชาเขียว เป็นเครื่องดื่มยอดนิยมของคนรักสุขภาพ เพิ่มความสดชื่น และควบคุมน้ำหนัก ซึ่งหากได้ดื่มชาเขียวเพียวๆ ไม่ใส่นมหรือปรุงแต่งรสชาติใดๆ ก็จะช่วยให้เพิ่มประสิทธิภาพการดูดซึมสารอาหารจากชาเขียวได้ดียิ่งขึ้น แม้จะต้องแลกกับรสชาติที่อาจจะไม่ถูกปากก็ตาม ชาเขียวที่ไม่ใส่นม มีแบบไหนบ้าง? ภาพประกอบโดย Mr. Leviathan โดยชาเขียวไม่ใส่นมที่คนไทยนิยมทานจะมีด้วยกัน 2 แบบ ได้แก่ มัทฉะ (Matcha) เป็นชาเขียวญี่ปุ่นบดเป็นผงละเอียด เวลาทานจะรู้สึกสัมผัสของผงชา และอาจจะมีผสมข้าวคั่วเพื่อเพิ่มความหอม ส่วนมากจะพบได้ในร้านอาหารญี่ปุ่น กับใบชาเขียวที่ผ่านกรรมวิธีการต้มหรือชงขึ้นอยู่กับสูตรของร้าน แต่หลักๆ จะต้มหรือชงด้วยน้ำแรก ทำให้สี กลิ่น รสชาติมีความชัดเจนอย่างมาก ผู้ชงชาจะทำการใส่นมเพื่อคงสภาพสีที่สดกว่าน้ำชาเขียวที่ผ่านการชงหลายๆ น้ำ แต่ถ้าตัดการใส่นมลงก็ไป แล้วเปลี่ยนเป็นเติมน้ำตาล หรือน้ำผึ้ง ก็จะกลายเป็นชาเขียวดำ เทคนิคดื่มชาเขียวดำไม่ให้รู้สึกขม แน่นอนว่า การดื่มชาเขียวดำเพียวๆ ไม่ใส่นมหรือปรุงแต่งรสชาติใดๆ จะมีความฝาดมากกว่า ซึ่งส่วนหนึ่งก็จะมาจากวิธีการชงว่าใช้ใบชาใหม่หรือเก่าซึ่งจะส่งผลต่อความหอม รูปแบบเป็นชงหรือต้ม ซึ่งหากใช้วิธีต้มจะมีความขมสูงมากกว่าการชง ซึ่งผู้ที่สนใจที่จะลองดื่มชาเขียวดำนั้นสามารถฝึกง่ายๆ ด้วยการใส่น้ำตาลลงไป 1 ช้อนชาหรือมากกว่า เพื่อปรับรสชาติ แล้วค่อยๆ ปรับระดับน้ำตาลลงจนสามารถดื่มได้โดยไม่ต้องใส่น้ำตาล อีกวิธีที่จะช่วยปรับรสชาติให้กลมกล่อม ลดความขมลง ด้วยการทานคู่กับน้ำแข็ง เมื่อน้ำแข็งละลาย จะช่วยเจือจางความเข้มข้นของชาเขียวดำได้เป็นอย่างดีทีเดียว และอีกวิธีก็คือ ใส่ใบเตยหอม ดอกมะลิ หรือน้ำผึ้ง หรือน้ำผึ้งมะนาว ซึ่งจะช่วยเพิ่มความหอม มีรสชาติดีขึ้น และให้คุณประโยชน์มากกว่าแค่ใส่น้ำตาลเพียวๆ หาทานที่ไหนได้บ้าง ? ภาพประกอบโดย Mr. Leviathan เครื่องดื่มชาเขียวดำนั้นหาได้ไม่ยากนัก ไม่ว่าจะเป็นร้านชาในห้าง ไปจนถึงร้านชากาแฟโบราณ ทั้งในตึก แผงลอย หรือรถเข็น ข้อดีอย่างหนึ่งก็คือราคาชาเขียวดำ จะมีราคาถูกกว่าราคาชาเขียวใส่นม หรือใส่น้ำผึ้ง และยังถูกกว่าชาเขียวใส่ขวดที่ในปัจจุบันนี้ได้มีการปรับภาษีน้ำตาลแล้วด้วย แต่อย่าลืมเวลาสั่งควรระบุด้วยว่าต้องการความหวานมากแค่ไหน หรือไม่ต้องใส่น้ำตาลเลยให้ชัดๆ และควรดูร้านที่มีสุขลักษณะที่สะอาด ตั้งแต่ภาชนะ อุปกรณ์ จนถึงน้ำแข็ง บทส่งท้าย ชาเขียวดำ เป็นเครื่องดื่มที่เปิดโลกทัศน์ใหม่ของการดื่มน้ำชาที่ทำให้คุณได้รู้จักชาเขียวมากยิ่งขึ้น และยิ่งหากดื่มชาเขียวดำไม่ใส่น้ำตาลเป็นเวลานาน ก็จะมีสุขภาพดี และสามารถปรับการรับรสชาติได้ดีขึ้นโดยไม่ต้องพึ่งความหวาน ชนิดว่าไหนๆ ทานชาเขียวดำไม่ใส่น้ำตาลมาแล้ว การดื่มชาอื่นๆ ก็ไม่มีปัญหาอีกต่อไป แต่ก็ต้องระวังปริมาณคาเฟอีนที่สูงกว่าใคร โดยเฉพาะผู้ที่เป็นโรคหัวใจ และผู้ที่นอนหลับยากจะได้รับผลกระทบเป็นพิเศษ ลองดื่มดู แล้วคุณจะติดใจ...