ในโลกยุคปัจจุบันของเรานั้นเต็มไปด้วยความน่ากลัว ทั้งเรื่องอาชญากรรม เรื่องสงคราม และอีกหนึ่งสิ่งที่น่ากลัวไม่แพ้กันนั่นก็คือ 'โรคร้าย' ที่สามารถทำให้ผู้คนหวาดกลัวและต้องเสียชีวิตกันไปมากมายหลายชีวิต ในปีที่ผ่านมาทุกคนคงจะได้รู้จักกับฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่ทำให้คนไทยนั้นเริ่มตระหนักถึงปัญหาสุขภาพที่เกิดจากการสูดฝุ่นพิษขนาดเล็ก ในช่วงเดือนมกราคมและเดือนกุมภาพันธ์หลายคนคงทราบถึงข่าวที่เป็นที่พูดถึงไปทั่วโลกนั่นก็คือข่าว 'ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019' หรือ 'ไวรัสโควิด 19'ที่ทำให้เมืองอู่ฮั่นนั้นถูกปิดชั่วคราวและผู้คนทั่วโลกต้องระมัดระวังตัวกันอย่างมากในการเดือนทางไปต่างประเทศ หรือการใช้ชีวิต หลายประเทศมีมาตรการป้องกันหลากหลายวิธีที่จะไม่ทำให้ไวรัสดังกล่าวแพร่ระบาดรุนแรงกว่าเดิม แต่หลายคนนั้นก็ยังไม่ทราบว่ามันคืออะไรกันแน่ แต่ไวรัสนี้เรียกได้ว่าเป็นภัยร้ายต่อผู้คนและเศรษฐกิจไทยรวมถึงเศรษฐกิจโลกอีกด้วย เครดิตรูปภาพ : pixabay.com ก่อนจะไปทราบอัปเดตสถานการณ์ไวรัสโควิด 19 เราอยากสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องเสียก่อน ไวรัสโควิด 19 หรือไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 นั้นเป็นการติดเชื้อจากสัตว์สู่คน ซึ่งไวรัสโควิด 19 หรือไวรัสโคโรนานั้นเป็นไวรัสที่เกิดจากการผสมสารพันธุกรรมระหว่างไวรัสโคโรนาของค้างคาวกับไวรัสโคโรนาของงูเห่า จึงทำให้เกิดไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือ โควิด 19 ซึ่งสามารถแพร่เชื้อข้ามสปีชีส์จากงูเห่ามายังคนได้ และจากการคาดการณ์คาดว่าเริ่มแรกจากคนงานและลูกค้าในตลาดเริ่มติดเชื้อก่อน และต่อมาเชื้อมีการกลายพันธุ์มากขึ้น จึงสามารถติดต่อจากคนสู่คน ซึ่งตลาดที่ว่านี้มีอยู่ที่เมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน และเริ่มมีการแพร่ระบาดไปยังประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกรวมถึงประเทศไทยของเราด้วย ซึ่งผู้คนทั่วโลกต่างให้ความสนใจกับการเกิดขึ้นของ 'โควิด 19' และเริ่มระมัดระวังและป้องกันตัวจากไวรัสด้วยวิธีการต่าง ๆ มากยิ่งขึ้น เช่น การใส่หน้ากากอนามัย เครดิตรูปภาพ : freepik.com สำนักสารนิเทศ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขได้รายงานสถานการณ์ของไวรัสโควิด 19 ในประเทศไทย ( 22 กุมภาพันธ์ 2563 ) ในช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์นี้ว่ามีผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรักษาในโรงพยาบาล 15 ราย กลับบ้านแล้ว 20 ราย รวมสะสม 35 ราย และผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรคต้องเฝ้าระวัง ตั้งแต่วันที่ 3 มกราคม - 21 กุมภาพันธ์ 2563 มีผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนต้องเฝ้าระวังสะสมทั้งหมด 1,252 ราย คัดกรองจากสนามบิน 60 ราย มารับการรักษาที่โรงพยาบาลเอง 1,192 ราย อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้วและอยู่ระหว่างติดตามอาการ 1,006 ราย ส่วนใหญ่เป็นไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล ยังคงรักษาในโรงพยาบาล 246 ราย ซึ่งนับได้ว่าจำนวนของผู้ติดเชื้อนั้นลดลงและภาพรวมความเสี่ยงของผู้ติดเชื้อในประเทศไทยยังค่อนข้างต่ำ แต่ก็ยังไม่ควรนิ่งนอนใจ นอกจากนี้กระทรวงสาธารณะสุขยังขอความร่วมมือประชาชนให้ปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข ด้วยวิธีการ “กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ” หมั่นล้างมือให้สะอาดอยู่เสมอด้วยน้ำ และสบู่ หรือแอลกอฮอล์เจลล้างมือ ไม่นำมือมาสัมผัสตา จมูก ปาก โดยไม่จำเป็น สวมหน้ากากอนามัยแบบผ้าที่สะอาดเมื่ออยู่ในสถานที่ที่มีคนอยู่รวมกันจำนวนมาก ผู้ป่วยและผู้ที่มีอาการ ไอ จาม ควรใช้หน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ และถ้าหากมีการเดินทางไปในสถานที่หรือประเทศที่เสี่ยงก็อยากให้พิจารณาให้ถี่ถ้วนก่อนออกเดินทาง ประเมินสุขภาพของตนเองว่าเสี่ยงต่อการเกิดอาการเจ็บป่วยหรือติดเชื้อหรือไม่ และถ้าหากจำเป็นต้องไปในประเทศที่มีความเสี่ยงก็ขอให้ระมัดระวังตัวเองเป็นพิเศษเพื่อป้องกันการติดเชื้อ เครดิตรูปภาพ : เจ้าของบทความ ซึ่ง 'โควิด 19' หรือ 'โคโรนาสายพันธ์ุใหม่ 2019' ไม่ได้ส่งผลร้ายต่อแค่เศรษฐกิจแต่ยังส่งผลร้ายต่อเศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศซึ่งเกิดจากผลกระทบต่อเศรษฐกิจที่เกิดจากการชะลอตัวของจีน ทำให้การนำเข้าและส่งออกสินค้าชะลอตัว และที่สำคัญคือเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวนั้นเงียบเหงา เพราะนักท่องเที่ยวที่เคยเป็นรายได้หลักของประเทศอย่างนักท่องเที่ยวชาวจีนนั้นลดลงเป็นอย่างมาก จากการสอบถามร้านอาหารที่เคยเป็นร้านอาหารที่คับคั่งไปด้วยนักท่องเที่ยวจีนอย่าง 'ร้านป้าพรรณ แม่สะเรียงเจ้าเก่า' จังหวัดแม่ฮ่องสอน เผยว่าจำนวนลูกค้านั้นลดน้อยลงและหายไปเกือบหมดหลังจากช่วงที่เริ่มมีการประกาศเตือนภัยและเฝ้าระวังโรคโควิด 19 ซึ่งทำให้ทางร้านนั้นมีรายได้ลดน้อยลงเป็นอย่างมาก รวมถึงการค้าขายของจังหวัดที่เคยเป็นที่นิยมของชาวจีนอย่าง จังหวัดเชียงใหม่ ก็เงียบเหงาและนักท่องเที่ยวน้อยลงมากซึ่งคาดว่าเป็นผลจากการระบาดของโรคโควิด 19 นั่นเอง ซึ่งจากสถานการณ์ไวรัสโควิด 19 หรือโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ที่เกิดขึ้นก็สร้างความหวาดกลัวให้กับประชาชนและสร้างผลกระทบต่อเศรษฐกิจเป็นอย่างมาก ดังนั้นหากทุกคนสามารถที่จะป้องกันตัวเองด้วยวิธีการต่าง ๆ ดังที่กระทรวงสาธารณสุขแนะนำ ก็จะช่วยให้โรคร้ายนั้นไม่แพร่ระบาดไปมากกว่าเดิมและหวังว่าสถานการณ์จะดีขึ้นในเร็ววัน เครดิตรูปภาพปก : freepik.com