ภาพปกโดย "Chi Chi" Run like a Girlสวัสดีค่ะ ชื่อชิชิค่ะ ช่วงนี้โควิด-19 เราก็ WFH (work from home) ตามนโยบายบริษัทค่ะ 😃 ทำให้มีเวลาว่างเพิ่มขึ้น เหมือนจะสบายที่ไม่ต้องตื่นเช้าไปเผชิญกับรถติดบนท้องถนน แต่ก็เป็นความสบายที่...ไม่อยากให้เกิดขึ้นเลยค่ะ 😷ว่างแบบนี้เราก็อยากมาแชร์ประสบการณ์ในการเริ่มต้นการวิ่งของเรา เผื่อบางคนที่คิดว่าทำไม่ได้ หรือกำลังจะเริ่มจะได้รู้ว่าคุณมีเพื่อนและมันไม่ได้ยากอย่างที่คิดเลย ✌🏻อย่างไรก็ตาม (เป็นทางการ ทำไม?? 😆😆) วันนี้ก็เลยอยากชวนทุกคนมาพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส มาออกกำลังกายกันค่ะ ... อ๊ะ อ๊ะ ห้ามนะคะ ห้ามพูดว่า "ไม่มีเวลา" จะตีมือเลยนะคะ++ขอเรื่มเล่าเรื่องของเราหน่อยค่ะ เรื่องมันเริ่มมาจากที่เราเป็นผู้หญิงตัวใหญ่ แถมช่วงหลัง ๆ ทานเก่ง..มากกกก (สูง 170 หนัก 60) อายุก็ 30+ แล้ว แถมยังมีความป้อแป้สูง ไม่ค่อย active แล้วค่ะสามีเราก็ดันเป็นแบบตรงกันข้าม เป็นคนชอบวิ่ง ชอบ cardio ทำอะไรเร็ว ๆ นางคงเป็นห่วง อยากเห็นเราแข็งแรง หรือไม่งั้นก็คงรำคาญความปวกเปียกไม่สมตัวของเราอ่ะค่ะ เลยชวนไปวิ่งด้วยกันมาตั้งแต่ 2-3 ปีที่แล้ว บอกว่าการวิ่งมันสนุกอย่างนั้นอย่างนี้ ได้ลองแล้วจะติดใจ แต่เราขี้เกียจอ้ะ กลัวเหนื่อย กลัวร้อน กลัวหกล้ม กลัวควันรถ กลัวรถชน โอยยย สารพัดจะอ้าง เราอิดออดมาตลอดแต่เพื่อความดูดีเราก็ได้ไปซื้อ Hulahoop กับ เครื่องเดินวงรี หรือ Elliptical มาเพื่อจะใช้ออกกำลังกายในบ้าน รับปากอย่างดีว่าจะใช้ตลอด เพื่อน ๆ เราก็ bully บอกว่าเดี๋ยวเราก็เบื่อ เอามาใช้ตากผ้าชัวร์ เถียงเลยค่ะ คอเป็นเอ็น ไม่รู้จักชิชิดีพอ เป็นเพื่อนประสาอะไร! แต่แล้วไม่นานมันก็เป็นจริงดังคำสาปแช่ง ซึ่งเราว่าก็ไม่เป็นไร เพราะมันช่วยให้ผ้าเปียกแห้งเร็วอยู่นา (ยิ้มอ่อน) จนเมื่อต้นปีที่แล้ว (2019) เราออกจากงานที่เก่าที่ทำมาหลายปี และมีช่วงว่างเป็นเดือนระหว่างที่รองานใหม่ เราเลยตัดสินใจขุดตัวเองขึ้นมาจากการนอนกลางวัน แล้วออกไปวิ่งในหมู่บ้านตามคำสั่งสามีค่ะ จุดประสงค์หลักของเราคืออยากมีสุขภาพแข็งแรง ส่วนจุดประสงค์รองก็ อยากหุ่นดี lean และ เพรียวกว่านี้ค่ะสามียังแอบกระซิบอีกว่า ถ้าวิ่งจะพาไปช้อปปิ้งรองเท้าวิ่ง ชุดวิ่ง หรือ sports bra เกร๋ ๆ เท่านั้นเลย น่าจะบอกตั้งนานแล้ว ตกลงสิคะ จะรออัลไล! ไปอย่างไวค่ะ ฮึบ!!!!ให้ดูสภาพร่างก่อนนะคะ ขออภัย ชุดแน๊นแน่นนน T_T ...วันแรกที่เริ่มต้นออกไปวิ่ง.. ไม่ค่ะ ที่ออกไปกึ่งเดินกึ่งวิ่ง คือแค่รอบซอยบ้านนะคะ ระยะทาง 1 กิโลเมตรแบบไม่โกง เหนื่อยมากกกก จะขาดใจ เลือดฉีดขึ้นหัว หน้าแดงจนจะดำไปถึงหลังหูเลยค่ะ สามีก็ขำ บอกว่าเป็นหมูเนื้อแดงชั้นดี (อ้ะ ก็คงราคาแพงแหละ ไม่โกรธ) เอาจริงก็ไม่ใช่แค่วันเดียวหรอกนะคะที่ 1 กิโลเมตรแทบไม่รอด เป็นอย่างนั้นอยู่เกือบเดือนนั่นแหละค่ะ กลับถึงบ้านก็นอนปวดขาทั้งคืนเลยค่ะ เป็นเอาเยอะ 😓พอเดือนต่อมา สามีเลยพาไปวิ่งที่สวนสาธารณะแถวบ้าน ระยะทางรอบสวนประมาณ 2 กิโลเมตร อากาศดี วิวดี เราได้เพิ่มระยะทางไปโดยปริยาย ไม่ใช่เพราะมุ่งมั่นว่าต้องวิ่งให้รอบสวนหรอกค่ะ แต่เพราะถ้าจะกลับบ้านก็ต้องวิ่งให้ครบรอบเพื่อไปเจอทางออกไปลานจอดรถน่ะสิคะ เจ็บปวดแท้...แต่ก็ต้องขอบคุณคุณสามีนะคะที่ช่วยบังคับขู่เข็ญทำให้เราวิ่งได้เยอะขึ้นและนานขึ้น เราว่าการที่เราได้ไปวิ่งที่สวนสาธารณะที่มีคนมากมาย ตั้งแต่วัยรุ่นจนถึงรุ่นใหญ่ ทั้งหญิง ทั้งชาย และเพื่อนสาวมันดีมาก มันเป็นการช่วยผลักดันให้เราพยายามมากขึ้น อดทนมากขึ้น เพราะเมื่อเราหันไปทางซ้ายเราก็จะเห็นคุณป้าอายุ 50+ วิ่งรอบสวนรอบที่สอง หันขวาก็จะเห็นสาว ๆ ตัวเล็กดูบอบบางน่ารักวิ่งที่ pace 4 มันทำให้เรารู้สึกว่า โห..คนอื่นทำได้ ทำไมเราจะทำไม่ได้ล่ะ เราดูแมนกว่าตั้งเยอะ แล้วมันก็สนุกนะ ได้เจอคนมากมาย พอไปวิ่งบ่อย ๆ ก็มีเพื่อนเพิ่มขึ้น คอยเชียร์กันให้วิ่งอีก วิ่งอีก!! สนุกดี..มั้ง 😅พอเราเริ่มวิ่งได้มากขึ้น เราเริ่มรู้สึกสนุกขึ้นจริง ๆ แหละ อยากไปวิ่งบ่อย ๆ เราก็เริ่มเพิ่มระยะทางจาก 3 กิโล เป็น 5 เป็น 8 จนตอนนี้เราไปได้ถึง 10 กิโลเมตรแล้วค่ะ แต่เราไม่ใช่คนที่วิ่งเร็ว เราก็วิ่งได้อยู่ที่ pace 7-8 เท่านั้น เร็วกว่านี้ไม่ไหวแล้วจ้า หอบแดดจ้า... สำหรับคนอื่นมันอาจจะดูธรรมดามากกับการวิ่งเท่านี้ แต่สำหรับเรามัน amazing มากที่เราสามารถทำได้ เพราะเราไม่ชอบการวิ่งเลย สมัยเด็กเรียนพละก็วิ่งช้าเกือบที่โหล่ แม้แต่สามีเรายังบอกเลยว่าไม่น่าเชื่อว่าเราจะมาถึงจุดนี้ได้...เค้าคงชมแล้ว ใช่มะ ตลอด 1 ปีที่เราวิ่งมา เราไม่เคยลงงานวิ่งที่ต้องไปสนามจริงเลยนะคะ ทำไม ยังใง ก็ขี้เกียจอีกแล้วค่ะ...ขี้เกียจตื่นเช้า เราเคยลงแต่งาน Virtual Run มา 2 งานค่ะ คืองาน Sky Runner 2019 (19km) ของ 365-run.com กับงาน Asean Together Run 2019 - 100km ของ checkrace.com ค่ะ เราเลือกลงงานวิ่งแบบ virtual run เพราะเราอยากได้หรียญวิ่งกับเค้าบ้างอ่ะค่ะ 🥰งาน Virtual Run มันช่างดีต่อใจเราจริง ๆ ตรงที่เราจะวิ่งที่ไหนก็ได้ เมื่อไหร่ก็ได้ เพียงแค่ต้องวิ่งให้เสร็จภายในระยะวันและเวลาที่กำหนด โดย virtual run จะมีทั้งแบบวิ่งครั้งเดียวจบ หรือแบบวิ่งเก็บระยะไปเรื่อยๆ แล้วแต่กติกา การสมัครและการจ่ายค่าสมัครก็ทำผ่าน online ได้เลย เมื่อวิ่งครบระยะและส่งผลวิ่งเรียบร้อยแล้ว ก็นอนรอเหรียญและรางวัลต่าง ๆ ที่เราเลือกไว้ ที่จะถูกส่งมาทางไปรษณีย์ได้เลย มันสบายอะไรจะขนาดน้านนนแต่เราก็คิดไว้แล้วแหละว่าถ้าทุกอย่างดีขึ้น ปลายปีนี้ หรือต้นปีหน้าเราจะลง fun run สักงานให้สมกับฐานะเราสักที สาธุ ขอให้ทุกอย่างดีขึ้นไว ๆ 🙏🏻🙏🏻🙏🏻มาถึงตรงนี้ คิดว่าทุกคนคงอยากรู้แล้ว (ถ้าไม่เบื่อกันซะก่อน 😚) ว่าสรุปแล้ว จากการวิ่งแบบมือใหม่มาเป็นเวลา 1 ปี มีอะไรเปลี่ยนแปลงกับร่างกายของเราบ้าง ฮี่ ฮี่ ขอขำแก้เขินก่อน 😓เราจะบอกว่าในเรื่องของน้ำหนัก เราลดไปได้แค่เกือบ 3 กิโลกรัม รูปร่างก็ยังดูยิ่งใหญ่เหมือนเดิม นั่นคงเป็นเพราะว่า เราไม่เคยลดอาหารเลย และเราเป็นคนติดน้ำอัดลม ของทอด ของที่เป็นแป้ง และของหวาน ๆ ค่อนข้างมาก เราจะต้องทานของหวานหลังมื้ออาหารเสมอ (ของหวานที่ไม่ใช่ผลไม้) ซึ่งเป็นนิสัยที่ไม่ดีเลย เราคิดว่านั่นเลยทำให้น้ำหนักของเราไม่ค่อยลดลงมากทั้งที่เราวิ่ง (แบบไม่เร็ว) เกือบทุกวันแต่ในเรื่องของสุขภาพทั้งกายและใจ เรารู้สึกเลยว่าเราแข็งแรงขึ้น เครียดน้อยลง ไม่ค่อยป่วย และนอนหลับง่ายขึ้น ที่ทำงานใหม่ถึงกับให้ฉายาเราว่า"บึกบึน" เพราะเราเป็นผู้หญิงคนเดียวที่สามารถช่วยพวกผู้ชายย้าย furniture ช่วงที่ที่ทำงานใหม่เราย้าย office ได้โดยไม่มีบ่น...หมดกันกับ look บอบบางที่เราเคยสร้างภาพไว้ 😓แล้วสำหรับสาว ๆ ที่กังวลและกลัวว่าการวิ่งจะทำให้ขาใหญ่ น่องโต ส่วนตัวแล้วเราขาเราขนาดปกติเท่าเดิม ช่วงน่องเฟิร์มขึ้นกว่าเดิมด้วยซ้ำ เราคิดว่าน่าจะอยู่ที่การลงเท้าเวลาวิ่งค่ะ เราจะลงเต็มฝ่าเท้าเสมอ ไม่ลงด้วยส้นเท้า หรือปลายเท้าค่ะเราอยากแนะนำสำหรับคนที่อยากจะลองเริ่มวิ่งนะคะ มันไม่ยากเลย แต่ขอออกตัวก่อนว่าเราไม่ได้รู้เยอะเกี่ยวกับเรื่องการวิ่ง ส่วนมากก็จะเรียนรู้มาจากคุณสามีหรือดูมาจาก youtube ของทั้งไทยและต่างประเทศ สำหรับคนที่ไม่เคยวิ่ง ไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย หรือมีน้ำหนักตัวค่อนข้างเยอะ เราอยากให้เริ่มจากการเดินก่อน เดินเป็นเวลา 15 จนถึง 60 นาที แต่ไม่ใช่เดินแบบที่เราเดินปกติเวลาไปห้างช้อปปิ้งนะคะ อยากให้เดินแบบเร่งความเร็วขึ้นมากว่านั้นสักหน่อย เดินแบบหาของหายอ่ะค่ะ ให้เดินแบบนี้เป็นประจำ อย่างน้อยทำให้ได้สัก 3 วันต่ออาทิตย์ จนรู้สึกว่าเดินเร็ว ๆ นาน ๆ และยังหายใจสะดวก พอจะวิ่งได้แล้ว ก็ค่อยเริ่มวิ่งช้า ๆ ค่ะการ warm up หรือ stretching ทั้งก่อนและหลังการออกกำลังกายทุกชนิดก็สำคัญมาก ๆๆๆๆๆ ค่ะ มันช่วยทำให้กล้ามเนื้อและข้อต่อต่าง ๆ ของเรามีความยืดหยุ่น ลดการบาดเจ็บจากการออกกำลังกาย อย่ามองข้ามเป็นอันขาดเลยนะคะ stretching exercise ต่าง ๆ สามารถหาดูได้จาก youtube เลยค่ะ สะดวก ใช้เวลาไม่นานและมีประโยชน์มากเลยค่ะ อุปกรณ์การวิ่งก็สำคัญนะคะ ใช่ค่ะ ทุกคนคงเคยได้ยินว่า การวิ่งแค่มีรองเท้าผ้าใบคู่เดียวก็ออกไปวิ่งได้แล้ว ซึ่งนั่นก็ถูกค่ะ แต่สำหรับเราแล้ว เราคิดว่า ถ้าเริ่มจะวิ่งมากขึ้นก็ควรซื้อรองเท้าสำหรับวิ่งโดยเฉพาะซึ่งไม่จำเป็นต้องใช้ยี่ห้อดังราคาเป็นหมื่นหรอก เเค่เริ่มจากแบบธรรมดา หรือเเบบที่ลดราคาก็ได้ ดี ๆ มีเยอะแยะค่ะ แค่ขอให้เป็นรองเท้าที่เป็นสำหรับวิ่งจริง ๆ ที่เราใส่แล้วรู้สึกเบา กระชับ สบาย ไม่บีบเท้าก็พอ เพราะก็อีกนั่นแหละค่ะ มันจะช่วยรองรับการกระแทกของฝ่าเท้าและข้อต่อเพื่อป้องกันการบาดเจ็บทั้งปัจจุบันและในระยะยาว และยังช่วยเสริมการวิ่งของเราให้ดีขึ้นด้วยค่ะ กรุรองเท้าวิ่งตอนนี้ค่ะโดยส่วนตัวนะคะ พอเริ่มวิ่งมากขึ้น option ของเราก็เพิ่มมากขึ้นค่ะ ไม่ได้ตามแฟชั่นนะคะ แต่รู้สึกว่าของเหล่านี้เป็นสิ่งที่จำเป็นต่อการวิ่งของเรามากจริงๆค่ะ คือนอกเหนือจากเสื้อวิ่งที่ระบายอากาศได้ดีกับ sports bra แล้ว เราต้องใส่กางเกงขาสั้นรัดกล้ามเนื้อ, หมวก visor กันแดด กันเหงื่อไหลเข้าตา กันหัวเถิก, ผ้าบัฟเช็ดเหงื่อ, ถุงเท้า, นาฬิกาวัดระยะทางและระดับการเต้นของหัวใจ, และกระเป๋าคาดเอวไว้ใส่กุญแจรถกับพกเงินซื้อน้ำค่ะ ซึ่งจริงๆแล้ว option ของแต่ละคนก็อาจจะมีมากหรือน้อยกว่านี้ ก็แล้วแต่ความจำเป็นและความสะดวกของแต่ละคนเลยค่ะ สุดท้ายนี้เราก็อยากให้ทุกคนที่ต้องทำงานอยู่ที่บ้านก็ดี หรือยังทำงานที่ทำงานตามปกติก็ดี หรือไม่ทำก็ดี โดยเฉพาะคนที่ไม่เคยได้ออกกำลังกายเลย อยากให้ลองหักดิบ (ขนาดนั้นเลย) แล้วลองมาออกกำลังกายกันดูค่ะ ไม่จำเป็นต้องเข้า fitness ไม่จำเป็นต้องไปวิ่งเหมือนเราก็ได้ กิจกรรมสำหรับการออกกำลังกายในช่วง social distance มีมากมายเลยค่ะ เช่นการออกไปเดิน ไปปั่นจักรยาน ไปตีแบด ทำonline fitness ตาม youtube ต่าง ๆ อยู่บ้าน หรืออะไรก็ได้ตามสะดวกที่ยังคงมีการรักษาระยะห่างทางสังคมอยู่ เพราะถ้าร่างกายของเราแข็งแรงมันก็ช่วยป้องกันเราจากโรคต่าง ๆ ได้ในระดับหนึ่ง และนอกจากสุขภาพกายจะดีแล้ว สุขภาพใจก็จะดีตามไปด้วยค่ะ ไม่ต้องนั่งเบื่ออยู่แต่กับบ้านคนเดียว เรายังสามารถ stay active while social distancing ได้ จริงมั้ยคะ เชื่อเราเถอะค่ะ ว่ามันดียยยยยยยย 😊เรื่องโดย "Chi Chi" Run like a Girlภาพถ่ายโดยผู้เขียน