Photo by Anthony Fomin on Unsplash กักตัวอยู่บ้านนาน ๆ หลายคนคงเริ่มมีอาการปวดเมื่อยเนื้อตัว เหนื่อยล้าตามร่างกายเพราะไม่ค่อยได้ขยับ อาจทำให้หลายคนน้ำหนักขึ้นโดยไม่รู้ตัว (แย่ล่ะสิ) แต่การออกกำลังกายก็ยากเสียเหลือเกิน เพราะความขี้เกียจเป็นมารที่คอยฉุดรั้งเราให้อยู่แต่บนเตียง โซฟา แต่รู้หรือไม่ วิธีการออกกำลังกายง่าย ๆ สามารถทำได้เพียงแค่ “กระโดด” Photo by Clem Onojeghuo on Unsplash โดยเฉลี่ยแล้วคนเราจะหายใจโดยไม่รู้ตัวประมาณ 15-18 ครั้งต่อนาที แต่ในขณะที่นอนหลับอัตราการหายใจจะลดลงเหลือประมาณ 10-13 ครั้งต่อนาทีเท่านั้น เมื่อคำนวณแล้วจะพบว่าในหนึ่งวันเราหายใจกันถึง 20,000-25,000 ครั้งเลยทีเดียว ซึ่งในการหายใจกว่า 20,000 ครั้ง ถ้าเราหายใจเข้าลึกๆ ให้ได้สัก 50 ครั้ง อวัยวะต่าง ๆ ในร่างกายจะดีตามไปด้วย เคล็ดลับการทำให้ร่างกายสุขภาพดี อาจจะไม่ได้อยู่ที่การออกกำลังกายอย่างเดียว แต่อยู่ที่การหายใจของเราที่จะต้องหายใจให้ถูกขั้นตอน ซึ่งการกระโดดเป็นการขยับร่างกายเพื่อให้ปอดและหัวใจได้ทำงานมากขึ้น Photo by Edu Lauton on Unsplash การกระโดดยังไม่มีข้อจำกัดด้านสถานที่ จึงสามารถทำได้ทั้งในห้องนอน ห้องนั่งเล่น หรือสวนหลังบ้านก็ได้ นอกจากนี้เวลาที่กระโดดกระเพาะอาหารและลำไส้จะสั่น ซึ่งช่วยกระตุ้นให้ทางเดินอาหารหดและคลายตัว ยิ่งไปกว่านั้น การกระโดดยังทำให้กระดูกเท้าได้รับแรงกระตุ้นส่งผลให้ระบบประสาทอัตโนมัติทำงานได้ดีขึ้นอีกด้วย Photo by Jennifer Bedoya on Unsplash การออกกำลังกายด้วยการกระโดด 500 ครั้ง เทียบเท่ากับการที่นักกีฬาลงแข่งรักบี้หนึ่งเกมเลยทีเดียว ดังนั้นการกระโดดจึงเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการช่วยให้การไหลเวียนของเลือดดขึ้น นอกจากนี้การส่งแรงจากต้นขาจะเพิ่มความแข็งแรงให้กับร่างกาย และทำให้หัวใจกับปอดทำงานได้ดีขึ้น การฝึกกระโดดเป็นวิธีในการช่วยให้อวัยวะในร่างกายได้ออกกำลัง เพราะกระโดดหนึ่งครั้ง อวัยวะภายในของเราจะสั่นไหว มีการขยับตัวของลำไส้ กระเพาะ หัวใจและปอด ซึ่งจะทำให้ร่างกายเราแข็งแรงขึ้นจากภายใน เพราะหากเรานั่งอยู่กับที่ทั้งวัน ไม่มีการขยับร่างกายเลยจะทำให้ทุกอย่างนิ่ง ไม่สั่นไหว และเสียสุขภาพได้ Photo by Alex Iby on Unsplash เทคนิคการกระโดดเพื่อสุขภาพ ไม่จำเป็นต้องกระโดดให้สูง แค่กระโดดให้เท้าลอยจากพื้นไม่กี่เซนติเมตรก็พอแล้ว ขณะลงมาแตะพื้น ควรย่อเข่าลงเล็กน้อยเพื่อให้ร่างกายรองรับน้ำหนักได้ ไม่ควรกระโดดไปข้างหน้าหรือข้างหลัง เพราะอาจทำให้หน้าทิ่มได้ ถ้าเป็นการกระโดด เราก็ไม่จำเป็นต้องไปฟิตเนสหรือหาเวลาเพื่อออกกำลังกายโดยเฉพาะ เพราะแค่เวลาสั้นๆ ในช่วงพักกลางวันก็สามารถทำได้แล้วครับ นอกเหนือจากการกระโดด การวิ่งจ๊อกกิ้งก็ช่วยให้อวัยวะภายในเคลื่อนไหวได้เช่นกัน แต่แทนที่จะวิ่งบนทางราบเหมือนกับการวิ่งบนสายพานในฟิตเนส ขอแนะนำให้วิ่งบนทางที่เป็นเนินจะดีกว่าเพราะมันจะช่วยกระตุ้นอวัยะภายในและทำให้เราต้องคอยทรงตัวตลอดเวลา ดังนั้น การเดินขึ้นเขาจึงเหมาะที่จะทำเป็นกิจกรรมยามว่างเป็นที่ซู้ดดด