ในยุคที่ปัจจุบันมีผู้ป่วยด้วยอาการซึมเศร้าอยู่มากมาย แต่ก็ยังมีอีกหลายคนที่อยู่ในอาการเศร้า และคิดไปเองว่าป่วยด้วยโรคซึมเศร้า และกลายเป็นการเรียกร้องความสนใจจากคนรอบข้างแทน จนผู้ที่ป่วยด้วยโรคซึมเศร้าถูกมองเหมารวมไปหมด ดังนั้นจึงอยากให้ทุกคนเข้าใจกับผู้ที่อยู่กับอาการซึมเศร้าที่แท้จริง โรคซึมเศร้า ถือเป็นภัยเงียบด้านสุขภาพ เกิดจากความผิดปกติของสารสื่อประสาทในสมอง ซึ่งเกิดขึ้นได้กับทุกอาชีพ ทุกวัย ปรภ ในฐานะที่เป็นหนึ่งในผู้ที่มีอาการซึมเศร้าและพบแพทย์เป็นประจำ Photo by Christian Sterk on Unsplash ผู้ที่ป่วยด้วยโรคซึมเศร้าจะมีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมค่อนข้างมาก ทั้งในด้านอารมณ์ ความรู้สึก พฤติกรรม รวมไปถึงอาการทางร่างกายต่างอื่น ๆ เช่น นอนไม่หลับ กินน้อยหรือมากจนเกินไป เป็นต้น นอกจากนี้จากคนที่ชอบพูด ชอบคุย ชอบออกไปไหนมากไหนกับเพื่อน ดูหนัง ฟังเพลง ทุกอย่างจะค่อย ๆ เปลี่ยน หรือกับบางคนอาจจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เมื่อเปลี่ยนแล้วก็เรียกได้ว่าเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือโดยสิ้นเชิง อาการเหล่านี้หากรู้ตัวเองก็ต้องรีบปรึกษาแพทย์เพื่อปรับวิธีคิดและอยู่อย่างเข้าใจกับอาการซึมเศร้าของตัวเอง แต่หากคนสนิทมีอาการดังกล่าวไม่อยากให้นิ่งนอนใจ เพราะเขาอาจกำลังป่วยเป็นโรคซึมเศร้าอยู่ก็ได้ Photo by Tom Pumford on Unsplash อยากให้ทุกคนที่อ่านบทความนี้ใช้ชีวิตอยู่อย่างเข้าใจกับอาการซึมเศร้าของตัวเอง อย่ามองคนอื่นหรือนำคนอื่นมาเปรียบเทียบ เพราะแต่ละคนมีอาการที่แตกต่างกัน รวมไปถึงการรักษาที่จะต้องวินิจฉัยโดยแพทย์เท่านั้น อาการที่สังเกตผู้เป็นโรคซึมเศร้า มีอารมณ์เศร้า หดหู่ ท้อแท้ ซึม หงอย ทั้งที่ตัวเองรู้สึกหรือคนอื่นก็สังเกตเห็น เบื่อ ไม่อยากทำอะไร หรือทำอะไรก็ไม่สนุกเพลิดเพลินเหมือนเดิม เบื่ออาหาร หรือกินมากเกินไป หลับยาก หลับ ๆ ตื่น ๆ หรือนอนหลับมากไป คิดช้าพูดช้า ทำอะไรช้าลง สมาธิความคิดอ่านช้าลง หงุดหงิด กระวนกระวาย รู้สึกอ่อนเพลีย ไม่มีแรง รู้สึกตนเองไร้ค่า คิดไม่อยากมีชีวิตอยู่ หรืออยากทำร้ายตนเอง …เป็นต้น “…ผู้ป่วยแต่ละคนจะมีรายละเอียดและวิธีรักษาที่แตกต่างกัน แต่จะมีจุดร่วมที่สามารถทำความเข้าใจและช่วยให้บุคคลรอบข้างมีวิธีปฏิบัติเพื่อช่วยให้ผู้ป่วยมีกำลังใจดีขึ้น…” ติดตามผลงานจาก ปรภ ไม่ใช่ รปภ ได้ที่ Porraphat.com blockdit TrueID