เราเป็นคนที่มั่นใจตัวเองมาตลอดว่า ฟันเราสวย เพราะพ่อของเราเป็นคนที่พิถีพิถันในเรื่องของช่องปากมาก เราและน้องมีฟันเก ฟันเขี้ยว พ่อจับถอนหมด พ่อบอกว่าไม่สวยและดูแลยาก และมีแต่คนบอกว่าบ้านเราฟันสวยทุกคน มันยิ่งสร้างความมั่นใจให้เราขั้นสุด และพอเราเริ่มทำงาน เราได้งานที่บริษัทฯ ญี่ปุ่นแห่งหนึ่ง ซึ่งวัฒนธรรมญี่ปุ่นคือต้องดื่มน้ำชา และทุกครั้งที่แม่บ้านชงชาให้เจ้านายญี่ปุ่น เจ้าจะให้เอามาให้เราซึ่งอยู่ออฟฟิศข้าง ๆ 1 กาทุกวัน ทำให้เราดื่มน้ำชาทุกวัน ขอบคุณเจ้านายมาก จากคนที่ไม่ชอบดื่มน้ำชาจนชอบมากด้วย แถมวันไหนแม่บ้านไม่เอากาน้ำชามาให้ เราต้องเดินไปถามเองว่า วันนี้ไม่ชงชาแล้วเหรอ เครดิตภาพ : gadost0 จาก Pixabay แล้วพอครบรอบที่ต้องไปพบหมอฟัน หมอบอกว่า ฟันมีคราบสีน้ำตาลทั้งปาก แล้วเหงือกก็คล้ำด้วย หมอยิงคำถามได้ตรงมาก ดื่มชาหมักใช่รึเปล่า เราก็งงเพราะเราไม่รู้จักชาหมัก เอาเป็นว่าเราไม่รู้จักชาเลยดีกว่า หมอบอกว่า เอาง่าย ๆ ชาหมักคือพอชงแล้วน้ำชาจะเป็นสีน้ำตาล ถึงบางอ้อละ ใช่เลย เจ้านายมอมเมาเราด้วยน้ำชาทุกวันวันละ 1 กา เครดิตภาพ : เจ้าของบทความ sakanaj. หมอบอกว่า เหมือนช่องปากเรารับอาหารที่มีความเป็นกรดได้ค่อนข้างต่ำโดยเฉพาะพวกชาหมัก ถ้าต้องดื่มชาจริง ๆ แนะนำให้ดื่มชาเขียว หมอบอกอีกว่า เอาง่าย ๆ นะ เวลาไปทางอาหารญี่ปุ่นแล้วชาที่เราสั่งมามันจะเป็นน้ำสีเขียว ก็นั่นแหละชาเขียว มันดีต่อสุขภาพช่องปากของเรามากกว่า ถ้าต้องดื่มระหว่างทำงานจริง ๆ ก็ไปซื้อตามห้างฯ ดูที่เป็นชาเขียวญี่ปุ่นไปก่อน เพราะเรายังไม่รู้จัก เครดิตภาพ : Kevin bölling จาก Pixabay หลังจากคุณหมอแนะนำ เราก็เลิกดื่มชาจากเจ้านาย บอกเจ้านายตามความจริงแหละว่าช่องปากเรามีปัญหา หลังจากเลิกดื่มชาหมัก ปรากฏว่าอีก 6 เดือนเราไปหาหมอ หมอชมเลยว่า ฟันสวยไม่มีคราบน้ำตาล เหงือกสวยเป็นสีชมพูแล้ว เครดิตภาพ : Gerd Altmann จาก Pixabay เราอยากให้เพื่อน ๆ ลองสังเกตสุขภาพช่องปากตัวเองดู เพราะแต่ละคนมีธรรมชาติที่ไม่เหมือนกันบางคนดื่มชาหมักแบบเราก็ไม่เป็นไร แต่ถ้ามีปัญหาแบบเรา เราขอแนะนำแบบที่คุณหมอแนะนำ แล้วเพื่อน ๆ จะมีฟันขาว เหงือกสวย เหมือนเรา เครดิตภาพปก : Gerd Altmann จาก Pixabay