หลังจากที่ผมได้เขียนบทความไปมากมายหลายหัวข้อแล้ว มันยังมีอยู่เรื่องหนึ่งที่ผมคิดจะเขียนมันมาตั้งนานแล้วแหละ แต่ยังไม่ได้ลงมือเขียนสักที ผมว่าตอนนี้คงถึงเวลาแล้วล่ะที่จะนำเรื่องนั้นมาเขียนบทความสักที เรื่องที่ว่าก็คือ การไม่ประสบความสำเร็จในการหางานทำในช่วงที่ผ่านมาของผมนั่นเอง ก่อนหน้านี้เนี่ยะ ผมใช้เวลาในการหางานทำหลังเรียนจบอยู่นานมากกว่าจะได้งานทำ โดยรวมเกือบ ๆ 8 เดือนแหนะ ซึ่งผมลองกลับมาคิดดูแล้วเหตุผลหลัก ๆ เลยที่ผมหางานไม่ได้ก็คือ "ประสบการณ์" ถึงแม้ว่าผมจะจบออกมาด้วยเกรดเฉลี่ยที่ดูดีเลยทีเดียว แต่ในเรื่องประสบการณ์นั้นบอกเลยว่าน้อยนิดจริง ๆ ผมมีเพียงงานพาร์ทไทม์เล็ก ๆ น้อย ๆ เท่านั้นที่ใส่ลงไปใน Resumeเชื่อว่าฟังถึงตอนนี้แล้วหลายคนอาจจะสงสัยได้ว่า ในเมื่อเรียนอยู่ แล้วจะไปเอาประสบการณ์การทำงานจากไหนมาใส่ในเรซูเม่ล่ะ ประสบการณ์ที่ผมกำลังจะพูดต่อนั้น ไม่ได้แค่ประสบการณ์ในการทำงานจริงเท่านั้นนะครับ ยังรวมถึงกิจกรรมต่าง ๆ ในรั้วมหาวิทยาลัยอีกด้วย เพราะมันสามารถพิสูจน์ได้เลยว่า ตัวคุณเป็นคนยังไง สามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้รึเปล่า มีผลงานที่โดดเด่นอะไรบ้างในรั้วมหาวิทยาลัย ผมมองว่าตรงนี้แหละคือสิ่งสำคัญที่จะใช้ในการตัดสินรับคน ๆ นึงเข้าทำงานมากกว่าเกรดเฉลี่ยเลยก็ได้นะครับ ฉะนั้นบทความนี้ผมเลยอยากจะนำกิจกรรมที่คุณควรทำในรั้วมหาลัยมาแชร์ เพื่อที่คุณจะได้ไม่ต้องเรียนจบมหาลัยออกมาแล้วเดินเตะฝุ่นเหมือนผมยังไงล่ะครับ ถ้าผมสามารถย้อนเวลากลับไปแก้ไขได้ ผมก็อยากจะย้อนไปแก้ไขส่วนนี้นี่แหละ1. ตั้งใจเรียนเริ่มกันที่เรื่องสำคัญที่สุดอย่างการเรียนนั่นแหละครับ ก่อนเปิดเรียนวันแรกในชีวิตมหาลัยของคุณ ผมอยากให้คุณตั้งเป้าหมายให้ชัดเจนว่า เรื่องเรียนต้องมาก่อนเป็นอันดับแรก ไม่ว่าอะไรก็ตามต้องเข้าเรียนทุกคาบ เพราะเนื้อหาต่าง ๆ ที่จะใช้ในการสอบส่วนใหญ่ก็มาจากที่อาจารย์สอนในห้องเรียนทั้งนั้นแหละครับ ถ้าคุณพยายามตั้งใจฟังขณะอาจารย์สอน แล้วจดโน้ตเล็ก ๆ น้อย ๆ พอใกล้เวลาสอบก็แค่อ่านทบทวน เชื่อผมเถอะว่าคุณจะสามารถพิชิตข้อสอบได้ทั้งหมดแน่นอน อีกอย่างเลยก็คืออย่าลืมทำงานส่งให้ครบทุกชิ้นด้วยล่ะครับ ไม่ว่าชิ้นงานจะเล็ก จะใหญ่แค่ไหน อย่ามองข้ามเชียวล่ะ เพราะทุกสิ่งทุกอย่างนั้นสามารถปรับเกรดของคุณให้ดีขึ้นได้ เชื่อว่าความอิสระ การได้พบเจอสิ่งใหม่ ๆ ในชีวิตมหาลัย จะสามารถทำให้คุณไขว้เขวไหลตามได้ง่าย แต่ถ้าคุณมีเป้าเหมายหลักที่ชัดเจนอยู่แล้ว มันก็เหมือนคุณมีเกราะป้องกันที่แข็งแรงยังไงล่ะครับ ผมไม่ได้บอกให้คุณเรียนอย่างเดียวโดยไม่ต้องสนใจเพื่อน ไม่ต้องไปเที่ยวอะไรแบบนั้นนะครับ คือคุณจะไปเที่ยวเตร่สนุกสนานแค่ไหนก็ได้ แต่อย่าลืมเรื่องการเรียนที่เป็นจุดประสงค์หลักแค่นั้นพอ2. หากิจกรรมทำในรั้วมหาวิทยาลัยหัวข้อนี้แหละที่ผมอยากกลับไปแก้ไขมากที่สุด ผมอยากให้คุณลองหากิจกรรมอะไรก็ได้ที่มีในมหาลัย ไม่ว่าจะเป็นการเข้าชมรม งานกีฬา เป็นผู้แทนของมหาลัย หรืออะไรก็ได้ที่เป็นการเพิ่มประสบการณ์ให้คุณนอกเหนือตำราเรียน เพราะกิจกรรมพวกนี้แหละมันจะทำให้คุณโตขึ้น และเรียนรู้ประสบการณ์จริงในการทำงาน ที่ไม่สามารถหาได้จากบทเรียนในห้องเรียน และคุณก็จะสามารถนำกิจกรรมเหล่านี้ไปใส่ใน Portfolio ได้อีกด้วย เชื่อผมเถอะว่าต่อให้คุณจบมาด้วยเกรดเฉลี่ยที่ไม่สูงมากนัก แต่ถ้าอัดแน่นไปด้วยกิจกรรม ผมว่าหนทางของคุณก็จะสว่างกว่าหลาย ๆ คนเลยนะครับ นอกจากนี้การเข้าร่วมกิจกรรม มันยังให้คอนเน็คชั่นกับคุณอีกด้วย เชื่อผมเถอะว่าไอคอนเน็คชั่นนี่แหละคือสิ่งที่สำคัญที่สุดในโลกแห่งการทำงานจริง มันจะคอยฉุดคอยลากคุณไปพบกับโอกาสที่ดีเหนือกว่าคนอื่นแน่นอน3. ทำงานพาร์ทไทม์ถ้าคุณมีเวลาว่างมากพอ ผมแนะนำให้ลองหางานพาร์ทไทม์ทำดูนะครับ ไม่ว่าจะเป็นพวกงานบริการ ตามร้านกาแฟ คาเฟ่ หรือร้านขายเสื้อผ้าตามห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ เพราะร้านเหล่านี้จะเปิดรับพนักงานพาร์ทไทม์อยู่เป็นประจำ หรือจะรับงานพวกแปลเอกสาร สอนพิเศษ คีย์ข้อมูล ก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน ซึ่งงานพาร์ทไทม์ที่ว่านี้มันจะช่วยฝึก ช่วยพัฒนาคุณให้ทำงานเป็น และเมื่อเรียนจบออกไปสามารถนำงานพาร์ทไทม์เหล่านี้ไปใส่ใน Resume ได้อีกด้วย ซึ่งการทำงานเหล่านี้มันก็มีส่วนในการพิจารณาของฝ่ายHR ตอนคุณไปสมัครงานอีกด้วยนะครับ นอกจากนี้คุณยังได้เงินค่าขนมเพิ่มเติมเล็ก ๆ น้อย ๆ ไว้สำหรับซื้อของที่อยากได้ หรือจะเป็นเงินเก็บสะสมก็ได้ด้วยนะครับ4. ออกค่ายอาสาสุดท้ายแล้วในชีวิตมหาลัยนั้น ผมอยากให้คุณได้ลองออกค่ายอาสาดูสักครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการไปสอนหนังสือชาวเขา อย่างค่ายครูบ้านนอก ที่จะให้ชาวค่ายได้ไปอาศัยคลุกคลีกับชาวบ้านจริง ๆ ช่วยสอนหนังสือเด็ก ๆ ในหมู่บ้าน ตลอดจนสร้างโรงเรียน สร้างบ้านเลยล่ะครับ ผมว่าการออกค่ายอาสาเนี่ยะ มันเหมือนเป็นการเปิดโลกอีกใบที่คุณน่าจะไม่เคยพบเจอมาก่อนเลย แล้วผมก็เชื่อว่ามุมมองการใช้ชีวิตของคุณก็จะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นตามไปด้วยนะครับ ผมยังนึกเสียดายไม่หายเลยว่าตอนเรียนนั้นมีเพื่อนชวนไปค่ายอาสา แต่ผมไม่ได้ตัดสินใจไปกับพวกมัน ผมว่าถ้าคุณได้ทำสิ่งที่ผมแนะนำทั้งหมดครบทุกข้อในรั้วมหาวิทยาลัย เวลาคุณเรียนจบออกมา การหางานจะไม่ยากอย่างที่ผมเป็นแน่นอนครับ ลองคิดดูสิครับว่าถ้าคุณจบออกมาด้วยเกรดเฉลี่ยที่สวยงามจากการตั้งใจเรียน แล้วเป็นเด็กกิจกรรม เข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ของมหาลัยเป็นอย่างดี แถมยังทำงานพาร์ทไทม์เสริมระหว่างเรียนอีกด้วย ไม่พอแค่นั้นยังเคยทำความดีเพื่อสังคมด้วยการออกค่ายอาสาอีก ซึ่งถ้าคุณมีคุณสมบัติพวกนี้ครบในเรซูเม่แล้วล่ะก็ ไม่ว่าคุณจะจบจากที่ไหนมา ผมว่าคุณก็จะอยู่เหนือแคนดิเดตรายอื่น ๆ แน่นอนครับ เพราะมันเหมือนเป็นการพิสูจน์ยืนยันมาขั้นหนึ่งแล้วว่าคุณเป็นคนที่มีความสามารถหลากหลายรอบด้าน ที่จะนำพาองกรค์ให้มีความก้าวหน้าและประสบความสำเร็จได้ในอนาคต เห็นแบบนี้แล้วฝ่าย HR ก็คงจะปล่อยให้คุณหลุดมือไปไม่ได้แน่นอนครับ แถมคุณยังสามารถเรียกเงินเดือนได้สูงกว่าคนอื่นอีกด้วยนะเครดิตภาพจาก Unsplashภาพปกภาพประกอบที่1 ภาพประกอบที่2 ภาพประกอบที่3 ภาพประกอบที่4 ภาพประกอบที่5