เด็ก 6 เดือนในท้องแม่สามารถได้ยินทุกสรรพเสียง แต่เสียงที่เด็กอยากได้ยินมากที่สุดคือเสียงที่อ่อนโยนของพ่อและแม่ที่มีเพียงผนังท้องกั้นเอาไว้ หากพ่อแม่อ่านหนังสือให้เด็กฟังตั้งแต่ยังอยู่ในท้อง เด็กก็จะเติบโตมาอย่างสมบูรณ์ มีจิตใจที่อ่อนโยน Photo by Annie Spratt on Unsplash “การอ่านถือเป็นอิฐก้อนแรกของการวางรากฐานกระบวนการเรียนรู้ทั้งหมด การฟูมฟักให้เกิดการอ่านในเด็กปฐมวัยจะช่วยเสริมสร้างความเกื้อกูล เมตตา เข้าใจตนเอง เห็นศักยภาพและคุณภาพของตนเองและผู้อื่น” นางสุดใจ พรหมเกิด ผู้จัดการแผนงานสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน สสส. บอกถึงความสำคัญของการอ่านต่อว่า การอ่านไม่ใช่แค่การอ่านอีกต่อไป แต่เป็นการดูแล การเยียวยา การประคับประคองชีวิตและนำไปสู่กระบวนการเรียนรู้ที่สร้างสรรค์ “การอ่านมันบ่มเพาะในทุก ๆ เรื่อง เช่น การแก้ไขปัญหาเรื่องของสุขภาพฟันของเด็ก โดยอาศัยหนังสือนิทานที่ช่วยให้เด็กกลับมาเช็คสุขภาพฟันของตัวเอง” นางสุดใจ เล่าถึงประโยชน์ของหนังสือนิทานว่า การลงทุนในเด็กปฐมวัยเป็นสิ่งที่คุ้มค่าที่สุด ไม่ใช่แค่ทางด้านเศรษฐกิจเพียงอย่างเดียว แต่การลงทุนด้วยการบ่มเพาะความเป็นมนุษย์ เป็นหัวใจ Photo by Annie Spratt on Unsplash นอกจากนี้หนังสือนิทานเด็กจะใช้บอกเล่าเรื่องของสุขภาพร่างกาย เพื่อให้เด็กเข้าใจ เรียนรู้ รู้จักเมตตา มีน้ำใจ รู้จักให้อภัยคนอื่น ฯลฯ เพราะหนังสือเด็กเป็นวรรณกรรมที่ใกล้ตัว เพียงแค่พลิกฝ่ามือเด็กก็สามารถเรียนรู้ได้ หนังสือจึงเป็นพิพิธภัณฑ์แหล่งเรียนรู้ที่ใกล้ตัวเด็กมากที่สุด พลังของการอ่านจะบ่มเพาะความเป็นมนุษย์ให้กับเด็กเติบโตมาพร้อมกับสุขภาวะจิตใจที่อ่อนโยน ไม่ทิ้งรากเหง้า ไม่ทิ้งครอบครัว พ่อแม่ของตัวเอง Photo by Picsea on Unsplash การสร้างสังคมแห่งการอ่าน คือ การลงทุนเพื่ออนาคต เพื่อให้เกิดการพัฒนาศักยภาพสู่การเรียนรู้ตลอดชีวิต ‘การอ่าน’ จึงเป็นกุญแจไขประตูสู่โลกแห่งความรู้ หากไม่มีทักษะการอ่าน ประตูแห่งความรู้จะถูกปิดตาย พ่อแม่เป็นแบบอย่างที่ดีที่จะช่วยส่งเสริมให้เด็กรักการอ่านมากขึ้น แต่ยังมีบางครอบครัวที่ผู้ปกครองไม่สามารถเป็นต้นแบบได้ การสนับสนุนให้เกิดการพัฒนาการอ่านคือการเสริมสร้างสุขภาพจิตใจที่ดีให้กับเด็ก และสามารถพัฒนาเด็กเพื่อให้เติบโตไปพัฒนาประเทศชาติต่อไป ติดตามผลงานจาก ปรภ ไม่ใช่ รปภ ได้ที่ Porraphat.com blockdit TrueID