อื่นๆ

ศพสยอง

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
ศพสยอง

ตุ่นกับเต๋าเพิ่งแต่งงานได้ไม่นานนัก...ทั้งคู่อยากใช้ชีวิตร่วมกันโดยไม่ต้องพึ่งพาผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย จึงเริ่มมองๆ หาซื้อบ้านไว้เป็นสมบัติของตัวเองและลูกหลานในอนาคต แต่การหาซื้อบ้านสักหลังไม่ใช่เรื่องเล่นๆ ด้วยสนนราคาที่สูงมาก ในแต่ละที่ที่ได้เดินทางไปดูกันมา ตุ่นกับเต๋าเลยเริ่มเบนเข็มไปสู่ชานเมือง อย่างน้อยมีรถเป็นพาหนะก็ไม่น่าลำบากเกินไปในการเดินทางของทั้งคู่

ชานเมืองในฤดูหนาว อากาศดีกว่าความแออัดในเมืองที่เผชิญกันอยู่ทุกวัน ตุ่นและเต๋ารู้สึกเช่นนั้น เมื่อขับรถเข้าไปในหมู่บ้านแห่งหนึ่งแถบชานเมือง เราเลือกหาซื้อบ้านที่เจ้าของประกาศขาย มากกว่าซื้อตรงกับโครงการ เพราะราคาจะถูกกว่าและการเจรจาจะไม่ยากจนเกินไป  เต๋าขับรถเข้าไปลึกจนสุดท้าย เพิ่งได้เจอป้ายแขวนหน้าบ้านเป็นหลังแรกในหมู่บ้านแห่งนั้นว่า "บ้านว่างให้เช่า"

Advertisement

Advertisement

บ้านหลังหลังตั้งตระหง่านอยู่ภายในรั้วรอบขอบชิด มีต้นไม้ใหญ่ปลูกไว้หน้าบ้าน บ่งบอกถึงความมีอายุของเจ้าของ เพราะต้นไม้ที่เห็นไม่ได้ปลูกให้เติบโตได้ในเวลาอันรวดเร็วแน่ๆ เต๋าหันไปมองหน้าภรรยา เหมือนจะถามว่า สนใจหรือไม่อย่างไร ที่หน้าบ้านมีป้ายบ้านให้เช่าพร้อมเบอร์โทรศัพท์ติดอยู่ด้วย เมื่อตุ่นพยักหน้าเห็นด้วย เต๋าก็ไม่รอที่จะเมมเบอร์เอาไว้ ด้วยการยิงเบอร์เข้าไป แต่เพียงกดไม่นาน เสียงปลายสายกลับรับทันท่วงที รวดเร็ว และเสียงยังฟังดูเยือกเย็น แหบแห้ง จนเขาประหลาดใจ อะไรไม่สำคัญเท่ากับ คำพูดเชื้อเชิญราวกับรู้ว่าเขายืนอยู่หน้าบ้านทั้งที่ยังไม่ได้เอ่ยปากบอกสักคำ อะไรบางอย่างทำให้เขาเลื่อนมือไปกุมมือของภรรยาเอาไว้ ตั้งใจว่า ใกล้ค่ำแล้ว กลับบ้านก่อนค่อยมาใหม่น่าจะดีกว่า แต่จู่ๆ ประตูรั้วบ้านก็เปิดกว้างออก ทั้งที่ก่อนหน้านี้ล็อกกุญแจไว้ด้วยซ้ำ เราต่างหันมาสบตากัน  ตุ่นว่ามาแล้วเข้าไปดูหน่อยก็คงไม่เป็นไร เราจึงจูงมือเข้าไปในบ้าน และทันทีที่ประตูบ้านเปิดออก กลิ่นสาปสางรุนแรงก็ทำให้แทบพากันเดินถอยหลังออกมา

Advertisement

Advertisement

"ผมว่า เรากลับกันก่อนเถอะตุ่น !"

แค่เอ่ยปากถาม เสียงประตูบ้านก็ปิดลงดังปัง ทั้งที่ไม่มีลมพัดแรงจากทางไหน เราสองคนเผลอเบียดตัวเข้าหากัน ใจคอไม่ดี อยากจะกลับออกไปมากกว่าเข้าไปดูบ้านนั่นแล้ว ถ้าไม่มีใครบางคนโผล่ออกมาจากประตูห้องนั่น

"เข้ามาดูในห้องก่อนได้ ไม่ชอบ ไม่เป็นไร"

เสียงนั้นไม่ผิดแน่ เสียงเยือกเย็นจับขั้วหัวใจ เสียงแหบแห้ง ที่เจ้าของเสียงเป็นลุงชรา ตัวสูงใหญ่ เขาอ้าปากจะปฏิเสธ จู่ๆ หันไปอีกที คุณตาเจ้าของเสียงก็หายไปทางไหนแล้วไม่รู้ มือของตุ่นและเต๋า เย็นเฉียบพอกัน เมื่อประตูห้องนอนเปิดกว้าง ตาของเราก็เบิกกว้างไม่ต่างกันด้วย นั่นมันอะไรกัน !

ในห้องนอนนั่น ปรากฎร่างของคุณตาเมื่อครู่ก่อน นอนร่างอืดเนื้อตัวปริแตก เลือดไหลซึมออกมาจากแนวปริแตก น้ำหนองสีเหลือง ไหลนองเต็มพื้นห้องไปหมด ที่หลอนไปกว่านั้น คือดวงตาเหลือกถลนออกมานอกเบ้าตา เส้นผมที่หงอกขาวหลุดร่วงไม่มีที่ยึด จนเต็มหมอนที่แกหนุนนอนเต็มไปหมด

Advertisement

Advertisement

"ผะ...ผีหลอก ตุ่น...เผ่นเถอะ !"

เราสองคนจูงมือกันออกวิ่ง ไม่สนเสียงเรียกจากด้านหลัง ไม่สนว่าจะต้องเผชิญอะไรจากด้านหน้า เราต่างรู้ว่า  เราต้องเอาตัวรอดออกไปจากบ้านหลังนี้อย่างปลอดภัยให้ได้ ไม่คิดเลยว่าจะได้มาเจอสภาพศพสยองแบบนี้  หรือว่านี่จะเป็นศพของเจ้าของบ้าน ที่แหนหวงบ้านจึงมาแสดงตนให้เห็น แบบนี้อย่าว่าแต่จะขายหรือให้เช่าเลย ต่อให้อยู่ฟรี ก็เห็นที่จะไม่เอาด้วยคนแน่ๆ เชียวครับ !

ภาพประกอบ: Jay Natt

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์