[วัคซีน] สำคัญใกล้ตัว [ที่อาจหลงลืม] เวลานี้ไม่มีอะไรที่โลกต้องการมากไปกว่าวัคซีน COVID-19 เพื่อให้โลกดำเนินต่อไปอย่างปกติสุข แม้จะเป็นปกติสุขในวิถีชีวิตใหม่ที่ทำให้พฤติกรรมคุ้นเคยบางอย่างต้องถูกปรับเปลี่ยน แต่ทุกคนคงยินดีปฏิบัติเพื่อไม่ให้ไวรัสร้ายกลับมาได้อีกในขณะรอคอยวัคซีนและส่งกำลังใจให้ทีมวิจัยทั่วโลกขอให้ประสบความสำเร็จเร็ว ๆ ผมก็รื้อ All Magazine ที่ได้รับแจกฟรีจากร้าน 7-11 ฉบับเก่า ๆ มาเปิดอ่านระหว่างพักสายตาจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ จนพบเข้ากับบทความเกี่ยวกับวัคซีนที่น่าสนใจใน All Magazine ฉบับเดือนตุลาคม 2019 คอลัมน์สุขภาพ ที่เขียนโดย นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์ มีพาดหัวคอลัมน์ว่า [วัคซีนสำหรับผู้ใหญ่] ลองอ่านดูก็คิดว่าตัวเราเองได้รับครบหรือยัง ขาดอะไรบ้าง สมองนึกย้อนกลับไปเพื่อทบทวนหาคำตอบ ปรากฏว่านึกออกไม่ครบถ้วน แต่ถึงอย่างนั้นบทความนี้ก็ทำให้ฉุกคิดว่าตอนนี้เราทุกคนที่กำลังรอคอยวัคซีน COVID-19 ที่ยังไม่มี จนหลงลืมวัคซีนที่มีอยู่แล้วหรือไม่ โดยเฉพาะวัคซีนสำหรับผู้ใหญ่ที่ นพ.สันต์ นำมาบอกกล่าวนพ.สันต์ กล่าวถึงวัคซีนซึ่งมาตรฐานสากล (ACIP) แนะนำให้ฉีดในผู้ใหญ่ แล้วแนะนำดังนี้[1] วัคซีนปอดอักเสบแบบรุกล้ำ คนที่อายุ 65 ปีขึ้นไปควรฉีดทุกคน โดยฉีดสองเข็มห่างกัน 6-12 เดือน เพื่อให้มีภูมิคุ้มกันตลอดชีวิต นพ.สันต์ อธิบายต่อว่าโรคนี้ก็คือโรคติดเชื้อในกระแสเลือด ที่เป็นปัญหากับคนสูงอายุ โดยเฉพาะผู้ที่เจ็บป่วยเรื้อรังที่นอนโรงพยาบาลนาน ๆ[2] วัคซีนป้องกันงูสวัด ควรฉีดทุกคนเมื่ออายุ 60 ปีขึ้นไป เข็มเดียวคุ้มกันตลอดชีวิต คนที่เคยเป็นแล้วก็แนะนำให้ฉีด นพ. สันต์ กล่าวว่ามีงานวิจัยที่ระบุว่าวัคซีนจะช่วยลดการติดเชื้อซ้ำซากได้[3] วัคซีนไข้หวัดใหญ่ นพ.สันต์ แนะนำว่าควรฉีดทุกคนปีละครั้ง จะป้องกันการเป็นไข้หวัดใหญ่ได้ 50-60% และใครที่เคยได้รับวัคซีนมาก่อนก็ช่วยให้ความรุนแรงลดลง[4] วัคซีนตับอักเสบจากไวรัสบี ทุกคนควรฉีดเพื่อให้มีภูมิคุ้มกัน แม้เป็นโรคที่มีความรุนแรงแต่ก็ป้องกันได้ และต้องฉีดชุดละ 3 เข็ม เพื่อคุ้มกันตลอดชีพ ผู้ที่แน่ใจว่าวัยเด็กเคยได้รับวัคซีนนี้แล้วไม่จำเป็นต้องตรวจภูมิคุ้มกัน หรือกรณีที่ตรวจแล้วไม่เจอภูมิคุ้มกัน แต่มั่นใจว่าเคยได้รับวัคซีนมาแล้วแน่ ๆ ก็ไม่ต้องฉีดซ้ำ นพ.สันต์ กล่าวว่างานวิจัยพบว่าคนที่เคยได้รับวัคซีนนี้แล้ว แม้ตรวจไม่พบภูมิคุ้มกัน แต่เมื่อติดเชื้อ ระดับภูมิคุ้มกันจะขึ้นมาเอง[5] วัคซีนกระตุ้นบาดทะยัก นพ.สันต์ กล่าวว่าคำว่ากระตุ้นหมายความว่าคนไทยทุกคนได้รับวัคซีนนี้มาแล้วตอนเป็นนักเรียน แต่วัคซีนนี้ควรได้รับการฉีดกระตุ้นหนึ่งเข็มทุกสิบปี เพื่อให้ภูมิคุ้มกันยังอยู่ และยังกล่าวต่อว่าในผู้หญิงตั้งครรภ์ โรงพยาบาลจะฉีดวัคซีนนี้ทุกครรภ์ ครรภ์ละ 3 เข็ม หรือผู้ป่วยที่มีบาดแผลต้องเข้าห้องฉุกเฉินก็จะได้รับวัคซีนนี้จนครบเช่นกัน[6] วัคซีนหัดเยอรมัน นพ.สันต์ กล่าวว่าเฉพาะผู้หญิงที่วางแผนจะมีบุตรทุกคนควรตรวจภูมิคุ้มกันหัดเยอรมัน หากไม่มีควรฉีดวัคซีนหัดเยอรมันก่อนตั้งครรภ์ เพราะหากเป็นโรคนี้ตอนตั้งครรภ์จะมีอาการกำเริบส่งผลให้ทารกพิการได้อ่านจบก็นึกขอบคุณบทความสั้น ๆ แต่มีประโยชน์ยาว ๆ ที่ทำให้นึกถึงวัคซีนใกล้ตัวที่มีอยู่แล้ว หากต้องการหรือมีเหตุให้ต้องได้รับวัคซีนก็แค่ไปติดต่อโรงพยาบาล เท่านี้ก็เรียบร้อยสบายใจ ส่วนวัคซีน COVID-19 ก็ร่วมกันรอคอยต่อไป ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานก็จะได้พบกันขอบคุณรูปจาก Pixabay รูปปก / รูป 3 / รูป 4[รูป 1 / รูป 2 โดย f i l e b y N o r]