ใครที่เป็นคอหนัง คอเกม ไซไฟ ระทึกขวัญ เชื่อว่าคงไม่มีใครไม่รู้จักกับแฟรนไชล์ อสูรกายที่มีชื่อว่า Alien ที่ได้ถือกำเนิดขึ้นครั้งแรกเมื่อปี 1979 โดย ริดลี่ย์ สก้อตต์ พร้อมขยายความยิ่งใหญโดย เจมส์ คาเมร่อน ใน Aliens เมื่อปี 1986 เมื่อกระแสภาพยนตร์ที่ออกมายอดเยี่ยม จนกลายเป็นตำนานมาถึงทุกวันนี้ แฟรนไชล์ชุดนี้ก็ถูกหยิบมาสร้างเป็นเกม บนหลาย ๆ แพลตฟอร์ม ซึ่งหนึ่งในเกมจากจักรวาลอสูรกายนอกโลกตัวนี้ ที่ถูกหยิบมาพูดเป็นกระแสอีกครั้งในตอนนี้ จากการวางจำหน่ายลดราคา ในช่วงเดือน เมษายนที่ผ่านมาหลาย ๆ คนได้โหลดกันอีกครั้ง ก็คงไม่พ้น Alien: Isolation หนึ่งในเกมภาคที่ยอดเยี่ยมที่สุดของแฟรนไชล์ชุดนี้ สำหรับ Alien: Isolation เป็นผลงานเกมจากค่าย SEGA ที่วางจำหน่ายเมื่อปี 2014 โดยเนื้อหาจะว่าด้วยเหตุการณ์หลังจากหนังภาคแรกเมื่อ อแมนดา ริปลี่ย์ ลูกสาวของ เอลเลน ริปลี่ย์ นางเอกของฉบับหนัง ได้ตัดสินใจออกเดินทางไปยังสถานีอวกาศ Sevastopol Station พร้อมกับลูกเรือ เพื่อไปตามหาข้อมูลของแม่ของเธอที่ได้หายไปอย่างลึกลับ แต่ทว่าเมื่อไปถึงเธอกลับพบว่าสถานีอวกาศได้กลายเป็นสถานที่แห่งความสยดสยอง เนื่องจากมีฝูงเอเลี่ยน ซ่อนตัว และไล่ฆ่าคนบนยานไปแทบหมดสิ้น ริปลี่ย์ จึงต้องออกตามหาความจริง พร้อมเอาชีวิตรอดจากฝูงอสูรกายร้ายในครั้งนี้เกมจะมาในแนว เอาชีวิตรอด ไซไฟ สยองขวัญ ที่เอาใจใครที่เป็นแฟนหนังเอเลี่ยนโดยเฉพาะ เพราะเกมนี้จะพาผู้เล่นเข้าไปร่วมผจญภัยในภาพยนตร์เรื่องนี้ ผ่านมุมมองของตัวละคร ริปลี่ย์ โดยจะมีการนำเสนอผ่านมุมมองของ บุคคลที่ 1 คือการใช้ภาพแทนสายตาของตัวละคร พร้อมมีการสร้างสรรค์ดีเทลล์ของยานอวกาศ ที่อ้างอิงมาจากฉบับภาพยนตร์เป็นส่วนใหญ่ ใครที่เป็นแฟนหนัง Alien โดยเฉพาะภาคแรก ๆ นั้นรับรองว่าจะฟินกับการเที่ยวชมยานอวกาศอย่างแน่นอนจุดขายของเกมนี้ คือการมอบความระทึก ความสยอง ที่เราจะไม่ได้เห็นในเกมไหน ๆ เนื่องจากหน้าที่ของตัวละครของเรา คือการค้นหา และเอาชีวิตรอดเป็นส่วนใหญ่ มากกว่าการถือปืนตะลุยศัตรู โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่เกมสร้างตัวเอเลี่ยน ออกมาได้สมจริง และน่ากลัว ไม่แพ้ในฉบับหนัง(เผลอ ๆ ฉบับเกมจะน่ากลัวกว่าด้วยซ้ำ) ไม่ว่าจะเป็นความดุ ความโหด ไปจนถึงการเคลื่อนไหวที่รวดเร็ว และคาดเดาไม่ได้ หลาย ๆ ฉากเอเลี่ยนจะใช่วิธีการ ซ่อนอยู่บนปล่องเพดาน และคอยเคลื่อนที่แบบตามติดเราทุกย่างก้าว ที่สำคัญ เอเลี่ยนในเกมนั้นเราจะไม่สามารถฆ่ามันได้ แต่ทำได้แต่เพียงไล่ให้พวกมันหนีไป ดังนั้นการเอาตัวรอดในเกมนี้คือห้ามส่งเสียง และห้ามวิ่ง หากผู้เล่นส่งเสียงแม้เพียงเล็กน้อยอาจกลายเป็นการเรียกความตายเข้ามาสู่ตัวเองโดยไม่รู้ตัวนอกจากเอเลี่ยนแล้ว ศัตรูในเกมนี้ก็ยังมีกลุ่มคนอีกกลุ่มที่เข้ามายึดยานอวกาศ พร้อมอาวุธครบมือ และหุ่นแอนดรอยด์ ที่คอยตามล่าเราอย่างไม่ลดละ ซึ่งด้านของสองศัตรูดังกล่าวผู้เล่นสามารถฆ่าได้ แต่ก็ต้องระวังพอสมควร เพราะเมื่อศัตรูสองกลุ่มนี้มองเห็น จะทำร้ายเรา ให้เสียเลือดครั้งละกว่าครึ่งหลอด อาจทำให้เราตายได้ง่าย ๆ ดังนั้นวิธีการชนะศัตรูสองกลุ่มนี้ ก็คือการใช้ความเงียบเช่นเดียวกันแต่กระนั้น สิ่งที่เป็นไฮไลท์ของเกมนี้ที่เป็นทั้งจุดดี และจุดเสียของเกมนี้คือ ความยาก และความสยองขวัญที่เกมจัดเต็มใส่คนเล่นแบบไม่ยั้ง อย่างที่กล่าวไปก่อนหน้านี้ ว่าเกมได้มีการสร้างบรรยากาศของยานอวกาศออกมาได้สมจริง ซึ่งในช่วงแรกเกมได้พาเราพบกับยานอวกาศที่ตระการตาสวยงาม แต่เมื่อถึงฉากที่เกมต้องขายความสยองขวัญ ก็กลับทำออกมาได้น่าสะพรึง แบบสมจริงไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็นเสียงประกอบจากสิ่งต่าง ๆ ในตัวยาน และดนตรีประกอบที่สร้างความหลอน ความระทึกให้กับผู้เล่น พร้อมทั้งความกดดันจากเสียงเอเลี่ยนที่คลานรอบตัว และหากถูกมันเจอ คือเท่ากับความตายของเรา ทำให้เกมนี้ค่อนข้างยากสำหรับหลาย ๆ คน และต้องตายบ่อยครั้งกว่าจะผ่านแต่ละฉากมาได้ นอกจากนี้เนื้อหาของเกมก็บีบอารมณ์ตลอดทั้งเรื่อง จากการพาคนเล่น และตัวละคร เผชิญกับความโชคร้ายตลอด 5-6 ชั่วโมงของการเล่นเกมนี้ ที่ตัว ริปลี่ย์ แทบจะไม่ได้มีฉาก หรือช่วงเวลาที่ดูมีความหวังในการเอาชีวิตรอดครั้งนี้เลย ซึ่งด้วยความยากระดับมหาโหด และเนื้อหาที่ชวนดิ่งนี้เอง ทำให้เกมนี้เป็นอีกเกมที่หลาย ๆ คนไม่กล้าเล่น และเลือกที่จะดูผ่านเหล่านักแคสท์เกมแทน โดยรวม Alien: Isolation ถือว่าเป็นอีกหนึ่งเกมสยองขวัญ เอาชีวิตรอดชั้นดี ที่ทำมาเพื่อคนที่เป็นแฟนหนังชุด Alien โดยเฉพาะ ตัวเกมอาจไม่เหมาะสำหรับคนทุกคนที่จะเล่นได้ เนื่องจากมีฉากบีบอารมณ์ที่ค่อนข้างเยอะ โดยเฉพาะช่วงท้าย ๆ ที่จัดเต็มความระทึกจนผู้เล่นหายใจไม่ทั่วท้อง แต่หากใครที่อยากหาประสบการณ์ความตื่นเต้นแบบใหม่ ๆ ที่ท้าทาย ชวนลุ้นราวกับเล่นสวนสนุก เกมนี้ถือว่าไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่งสามารถเข้าไปดาวน์โหลดเกม Alien: Isolation ได้ ที่นี่ Cr. ภาพหน้าปก และภาพประกอบ https://store.steampowered.com/app/214490/Alien_Isolation/