สวัสดีครับ วันนี้ผมมีหนังสืออยากจะแนะนำสำหรับผู้ที่สนใจการลงทุนผ่านกองทุนรวม โลกใบนี้มีอยู่หลายสินทรัพย์ที่ใช้เพื่อการลงทุนอยู่มากมาย หนึ่งในนั้นก็คือกองทุนรวม ซึ่งเป็นที่นิยมในหมู่นักลงทุนรายย่อยพอสมควร เพราะเริ่มต้นลงทุนได้ง่าย วงเงินลงทุนขั้นต่ำไม่สูง สามารถบริหารจัดการได้ง่าย ทุกสินทรัพย์มีข้อดี ข้อเสียอยู่ในตัว กองทุนรวมเองก็เป็นหนึ่งในนั้น ทั้งเรื่องการจัดการและเปอร์เซ็นต์ผลตอบแทน หนังสือเล่มนี้จะช่วยขยายความรายละเอียดต่างๆเกี่ยวกับกองทุนรวมได้ครับ ทั้งเรื่องรายละเอียดบางอย่างของกองทุน วิธีการเลือกการลงทุน รวมไปถึงการจัดพอร์ตการลงทุน หนังสือเล่มนี้เขียนโดย คุณธนัฐ ศิริวรางกูร ผู้มีประสบการณ์ด้านการเงินการลงทุนผ่านกองทุนรวมที่จะมาขยายความหมายของคำนิยามและข้อควรระวังต่างๆเรื่องกองทุนรวม หนังสือเล่มนี้แบ่งเนื้อหาออกเป็น 6 บทครับ ได้แก่บทที่ 1 เตรียมพร้อมก่อนลงทุนกับกองทุนรวม บทนี้จะพูดถึงเหตุผลที่เราจำเป็นต้องลงทุน โดยเฉพาะเรื่องเงินเฟ้อ การเก็บออมอย่างเดียว ผลตอบแทนไม่อาจชนะเงินเฟ้อได้ ค่าของเงินที่เก็บออมมีแต่จะลดลงเรื่อยๆจึงต้องมีความรู้เรื่องการลงทุนเพิ่มเติมด้วย พร้อมทั้งวางเป้าหมายว่าจะต้องการผลตอบแทนเพื่ออะไร เช่น เพื่อวางแผนเกษียณ ก็กำหนดเวลาลงทุน 40 ปี สะสมเงินลงทุน 1,500 บาทต่อเดือน เพื่อซื้อบ้านหลังใหม่ กำหนดเวลา 15 ปี สะสมเงินลงทุน 3,000 บาทต่อเดือน หรือจะตั้งเป้าหมายเพื่อซื้อรถยนต์ เป็นทุนการศึกษาของบุตร หรือเดินทางท่องเที่ยว เป็นต้นบทที่ 2 รู้จักว่าอะไรคือกองทุนรวม ในบทนี้จะอธิบายความหมายของกองทุนรวม ข้อดีที่จำเป็นต้องลงทุนกับกองทุนรวม จะซื้อกองทุนรวมได้ที่ไหนบ้าง การไปซื้อที่บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ธนาคาร บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) และบริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน (บลน.) แตกต่างกันอย่างไร รวมถึงรูปแบบการเปิดบัญชีทั้ง 2 แบบ คือ1.บัญชีแบบ Selling Agent Account2.บัญชีแบบ Omnibus Accountภายในเล่มก็จะอธิบายถึงความแตกต่างอย่างละเอียด อธิบายรวมไปถึงความหมายของกองทุนเปิด กองทุนปิด คืออะไรอีกด้วย กองทุนรวมที่แบ่งประเภทตามนโยบายการลงทุนมี 7 ประเภทนั้น ซึ่งได้แก่1.กองทุนรวมตลาดเงิน2.กองทุนรวมตราสารหนี้3.กองทุนรวมผสม4.กองทุนรวมผสมยืดหยุ่น5.กองทุนรวมหน่วยลงทุน6.กองทุนรวมตราสารทุน7.กองทุนรวมกลุ่มธุรกิจ ภายในเล่มก็จะอธิบายถึงความหมายและความแตกต่างให้เช่นกัน นอกจากนี้ยังมีกองทุนรวมแบบพิเศษอีกด้วย เช่น1.กองทุนรวมคุ้มครองเงินต้น2.กองทุนรวมแบบมีประกัน3.กองทุนรวมที่ลงทุนในต่างประเทศ4.กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และโครงสร้างพื้นฐาน5.กองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์6.กองทุนที่ลงทุนแบบซับซ้อนและเสี่ยงสูง7.กองทุนรวมเพื่อบริหารความเสี่ยง8.กองทุนรวมส่วนบุคคล9.กองทุนรวม ETF10.กองทุนรวมสินค้าโภคภัณฑ์11. กองทุน Trigger หรือ Target Fundภายในบทนี้จะแนะนำถึงความเสี่ยงของกองทุนแต่ละประเภทและวิธีจัดพอร์ตการลงทุนด้วยครับบทที่ 3 อะไรที่บ้างที่คุณต้องรู้จักถ้ารักจะลงทุนในกองทุนรวม เนื้อหาในบทนี้จะอธิบายศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับกองทุนรวมที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก เช่น NAV และค่าธรรมเนียม, ผู้จัดการกองทุน, Fund Fact Sheet, แหล่งข้อมูลกองทุนรวมที่แนะนำ บทที่ 4 วิธีเลือกกองทุนรวมด้วยตนเอง ด้วยหลักการของ 2S 2R 2F เพื่อใช้เปรียบเทียบแต่ละกองทุน2R คือ Return ผลตอบแทนย้อนหลัง Risk ความเสี่ยง ซึ่งมีทั้งค่าความผันผวน StdDev, Maximum Drawdown, Sharpe Ratio, Alpha2S คือ Style สไตล์การลงทุน Selective แนวทางการเลือกสินทรัพย์2F คือ Fund Manager ผู้จัดการกองทุน Fee ค่าธรรมเนียม บทที่ 5 กองทุนลดหย่อนภาษีและเรื่องภาษีกับกองทุนรวมที่ควรรู้ในบทนี้จะพูดถึงกองทุน SSF (Super Savings Fund) กองทุนรวมเพื่อการออม และ RMF(Retirement Mutual Fund) กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ ทั้งสองกองทุนมีเป้าหมายและเงื่อนไขการลงทุนที่ต่างกัน กองทุนรวม SSF ต้องลงเงินลงทุนนานต่อเนื่อง 10 ปีจึงจะขายหน่วยลงทุนได้ ส่วนกองทุนรวม RMF ต้องลงทุนต่อเนื่องจนถึงอายุ 55 ปี แต่ผลประโยชน์ของการลงทุนในกองทุนทั้งสองนี้เป็นไปเพื่อลดหย่อนภาษีเหมือนกัน บทที่ 6 เทคนิคการซื้อกองทุนรวมให้ได้ประโยชน์ผู้เขียนแนะนำมีอยู่ 3 เทคนิคด้วยกัน ดังนี้1.ลงทุนด้วยเงินก้อนใหญ่ครั้งเดียว (Lump Sum)2.Dollar Cost Average (DCA) วิธีเฉลี่ยต้นทุน3.Value Averaging (VA) วิธีควบคุมมูลค่าสุทธิให้เพิ่มขึ้นอย่างสม่ำเสมอรวมทั้งผลตอบแทนที่ได้ถึง 3 รูปแบบ1.Capital Gain กำไรจากการขายหน่วยลงทุน2.เงินปันผล3.การขายคืนอัตโนมัติ (Auto Redemption) และนี่คือหัวข้อภายในเล่มที่จะได้จากหนังสือเล่มนี้ ใครที่สนใจอยากศึกษาอย่างละเอียดเพิ่มเติมสามารถหาซื้อได้ที่ร้านหนังสือชั้นนำทั่วไปครับ ช่วงนี้ใกล้งานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 49 ที่จะจัดขึ้นวันที่ 17-25 เมษายนนี้ที่ฮอลล์ 98-99 ไบเทค บางนา ก็สามารถหาซื้อได้ที่งานนี้เช่นกันครับ เครดิตรูปภาพปก โดยผู้เขียนภาพที่ 1 ภาพที่ 2 โดยผู้เขียนภาพที่ 3 โดย pvproductions จาก Freepik.comภาพที่ 4 โดย macrovector จาก Freepik.comภาพที่ 5 โดย QuinceCreative จาก Pixabay.com