ตอนแรกเห็นหนังสือเล่มนี้ต้องยอมรับว่าสะดุดตาอย่างมาก กับชื่อหนังสือที่มีชื่อว่า Having it All ได้ทั้งหมด จากที่เป็นคนชอบอ่านหนังสือ How to อยู่แล้ว ทำให้อดใจไม่ไหวที่จะต้องซื้อมาอ่าน หลังจากอ่านจบยังไม่วายที่จะซื้อเป็นของขวัญให้เพื่อนอีกด้วย หนังสือ Having it All ได้ทั้งหมด เล่มนี้ผมอ่านจบมาแล้วหลายปี แต่ก็ยังจดจำหนังสือและเนื้อหาบางส่วนได้เป็นอย่างดี วันนี้เลยนึกอยากกลับมาอ่านอีกรอบ และอยากเล่าให้เพื่อน ๆ ฟังว่าหนังสือ Having it All ได้ทั้งหมด เล่มนี้มีดีอย่างไรบ้างภาพโดย Dome หนังสือ Having it All ได้ทั้งหมด เล่มนี้เขียนโดย John Assaraf (จอห์น แอสซาราฟ) และแปลเป็นไทยโดย พันโทอานันท์ ชินบุตรโดยเนื้อหาในหนังสือเกี่ยวกับหลักจิตวิทยาการพัฒนาตนเอง การมีเป้าหมาย การสร้างความเชื่อ และการสร้างภาพในจิตใจให้เห็นชัดเจน เพื่อส่งผลให้เกิดการกระทำ และนำไปสู่ผลลัพธ์ได้ตามที่หวังไว้ ซึ่งในหนังสือ Having it All ได้ทั้งหมด เล่มนี้นั้นบางเรื่องก็เป็นเรื่องที่เข้าใจ และทำตามได้ง่าย ๆ มองเห็นเป็นรูปธรรม เช่น ถ้าเราอยากประสบความสำเร็จและร่ำรวย ก็ต้องเอาตัวเองเข้าไปใกล้ ไปเรียนรู้จากผู้ที่ประสบความสำเร็จและร่ำรวยแล้ว ซึ่งกฎข้อนี้ไม่ว่าใคร ๆ ก็เข้าใจได้ดี และเป็นสิ่งที่จะส่งผลให้เราประสบความสำเร็จได้จริง ๆแต่ก็ยังมีเรื่องที่ละเอียดอ่อนอย่างเช่น การเขียนเช็คหรือจำนวนเงินที่เราอยากได้ แล้วพกติดตัวตลอดเวลา แล้วในวันหนึ่งเราก็จะได้เงินจำนวนนั้นมาจริง ๆ และการที่เราเขียนเป้าหมายลงกระดาษ การทำบอร์ดเป้าหมาย โดยการตัดรูปบ้าน รถ สมุดบัญชีธนาคาร รวมถึงแฟนที่เราอยากได้มาแปะไว้ เพื่อให้เราเห็นภาพได้ชัดเจนมากขึ้น ซึ่งผู้เขียนได้เล่าว่า การทำแบบนี้ทำให้ผู้เขียนได้บ้าน หลังที่ทำการติดไว้ที่บอร์ดเป้าหมายและเฝ้าดูมันทุก ๆ วัน หลังนั้นเลยภาพโดย Domeซึ่งสำหรับคนที่อ่านหนังสือ แนวจิตวิทยาการพัฒนาตนเองมาพอสมควรอย่างผม ก็จะไม่สงสัยกับวิธีการข้างต้น เพราะเคยอ่านเจอนักเขียนหลายคนที่พูดถึงเรื่องนี้ และผมเชื่อว่าเป็นวิธีการสร้างภาพในใจ เพื่อปลูกฝังจิตใต้สำนึกของเรา และเมื่อจิตใต้สำนึกของเราได้รับภาพที่ชัดเจน และเชื่อว่าเรามีทุกอย่างได้ทั้งหมดจริง ๆ แล้ว กระบวนการทำงานของจิตใต้สำนึก ก็จะกระตุ้นให้เราคิดและทำทุกอย่างที่มันสอดคล้อง ที่จะทำให้เราได้สิ่งนั้นมาจริง ๆ ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน ซึ่งบางคนอาจจะไม่เชื่อ และคิดว่าแค่คิดและจินตนาการมันจะได้มาอย่างไร โดยที่ไม่ได้เข้าใจกระบวนการทำงานของมันอย่างลึกซึ้ง แต่หนังสือ Having it All ได้ทั้งหมด เล่มนี้ก็อธิบายให้เราเข้าใจได้ว่ากระบวนการทำงานของมันเป็นอย่างไร ที่สำคัญอยู่ที่การปฏิบัติตามให้ได้เท่านั้นเองซึ่งหลังจากที่อ่านหนังสือ Having it All ได้ทั้งหมด แล้วก็เข้าใจได้ไม่ยาก แต่มีสิ่งที่เราต้องปฏิบัติตามอย่างสม่ำเสมอ เป็นประจำจนกว่าจะประสบความสำเร็จ เช่น การเขียนเป้าหมาย เขียนสิ่งที่เราอยากได้ อยากมี และการประกาศเจตจำนงของเราทุก ๆ วัน เพื่อปลูกฝังจิตใต้สำนึก ซึ่งตรงนี้แหล่ะเป็นสิ่งที่ยาก ซึ่งส่วนใหญ่ทำได้แค่ช่วงแรก ๆ แล้วก็ล้มเลิกไป อย่างที่ผมเองก็เป็น เลยคิดที่จะกลับมาอ่านและปฏิบัติตามใหม่อีกครั้งสรุปแล้วหนังสือ Having it All ได้ทั้งหมด เล่มนี้ถือเป็นหนังสือที่ดีมากเล่มหนึ่ง เป็นหนังสือที่ชี้ทางให้เราได้รู้จักกับวิธีในการที่จะประสบความสำเร็จ และได้ในสิ่งที่เราปรารถนาทั้งหมด ด้วยการปฏิบัติตามกฎ 12 ข้อในหนังสือ กฎ 12 ข้อมีอะไรบ้างนั้นอยากให้เพื่อน ๆ ได้อ่านเอง และอยากชวนเพื่อน ๆ มาอ่าน ทำความเข้าใจ และปฏิบัติตามไปพร้อม ๆ กันเลยครับ สำหรับบทความนี้ต้องขอลาไปเพียงเท่านี้ครับ แล้วพบกันใหม่ในบทความหน้าครับ สวัสดีครับ...ภาพโดย Dome