จากผลการระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้หลาย ๆ มหาวิทยาลัยต้องยกเลิกการจัดงาน open house และค่ายแนะแนวการศึกษาเพื่อลดการระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 ทั้งนี้จึงเป็นโอกาสอันดีที่ทางผู้เขียนจะมาทำการรีวิวคณะสหเวชศาสตร์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยที่ตัวผู้เขียนกำลังศึกษาอยู่ คณะสหเวชศาสตร์มักไม่เป็นที่รู้จักของคนทั่วไปมากเท่าที่ควร คณะสหเวชศาสตร์เป็นการศึกษาเกี่ยวกับสหวิชาชีพอื่นที่ทำงานในสถานพยาบาลและมีหน้าที่ในการสนับสนุนการรักษาของแพทย์ โดยคณะสหเวชศาสตร์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยนั้นมีการแบ่งย่อยออกเป็น 4 สาขาวิชา ประกอบไปด้วย สาขาเทคนิคการแพทย์ วาขากายภาพบำบัด สาขาภชนาการและการกำหนดอาหาร และสาขารังสีเทคนิค ซึ่งในแต่ละสาขาจะแยกการเรียนตามความจำเพาะของสาขานั้นนั้น แต่จะเรียนรวมกันเกือบทุกสาขาในช่วงปี 1 เพราะเป็นการเรียนในหมวดวิทยาศาสตร์ทั่วไปที่สหวิชาชีพจำเป็นต้องใช้ เช่น general biology, general chemistry, Physics1, organic chemistry, calculus1, Eng1-2 และนอกจากนี้ทุกคนก็จะได้เรียนแลปทำการทดลองเพื่อเพิ่มความเข้าใจให้มากยิ่งขึ้นอีกด้วย หลังจากนั้นพอปี 2 ก็จะเริ่มแยกกันเรียนไปตามสาขา แต่อาจจะยังมีบางวิชาที่ยังต้องเรียนรวมกัน ในช่วงปี 2 นี้เราจะได้ออกไปศึกษาดูงานตามโรงพยาบาลทั้งของรัฐและเอกชนอีกด้วย ต่อมาในช่วงปี 3 นี้จะเริ่มแยกเรียนแต่ละสาขาอย่างชัดเจนไปเรียนวิชาเฉพาะของแต่ละสาขานั้น ๆ เริ่มจากสาขาเทคนิคการแพทย์ก็จะอยู่ในห้องแลป ฝึกการเจาะเลือดและเพาะเชื้อเสมือนตรวจคนไข้จริง สาขากายภาพบำบัดก็จะมีการเรียนรู้และฝึกฝนการใช้เครื่องมือต่าง ๆ เพื่อช่วยผู้ป่วยที่ต้องเข้ารับการทำกายภาพบำบัด สาขาโภชนาการก็จะได้เรียนรู้การทำอาหารสำหรับผู้ป่วย ผู้ป่วยแบบไหนควรกินอาหารแบบไหนโดยการลงมือทำจริงในห้องครัวของคณะ และสาขาสุดท้ายคือสาขารังสีเทคนิคก็จะได้เรียนรู้เกี่ยวกับการใช้เครื่องมือทางรังสีในการตรวจรักษาคนไข้ การจัดท่าเอ็กซ์เรย์ให้คนไข้ และการควบคุมเครื่องมือทางรังสี โดยในปี 3 นี้ ทุกสาขาจะต้องออกไปฝึกงานที่โรงพยาบาลเป็นเวลา 1 เดือน สุดท้ายในปี 4 จะมีการฝึกงานนานกว่าตอนปี 3 และปิดท้ายด้วยการทำวิจัยก็เป็นอันจบพร้อมทำงาน สำหรับการเตรียมตัวเพื่อสอบเข้าในคณะสหเวชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยนั้น ควรเน้นหนักไปทางวิชาวิทยาศาสตร์ ก็คือฟิสิกส์ เคมี และชีววิทยา เพราะว่าเกณฑ์ในการคัดเลือกนั้นมีน้ำหนักของวิชาวิทยาศาสตร์มากที่สุด และควรเน้นภาษาอังกฤษ และคณิตศาสตร์เพิ่มเติมด้วย ในส่วนของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยนั้นในรอบรับตรงจะใช้เกณฑ์คะแนนจากการสอบ GAT-PAT เหมือนกับในรอบแอดมิชชั่น ซึ่งเป็นข้อดีในการอ่านหนังสือสำหรับน้องที่มีความตั้งใจอยากเข้าคณะสหเวชศาสตร์ จุฬาฯ คือน้อง ๆ จะได้มุ่งอ่านและฝึกทำข้อสอบเก่าในส่วนของสนาม GAT-PAT เท่านั้น และวิชาที่นำมาใช้เป็นเกณฑ์ในการสอบในส่วนของรอบรับตรงร่วมกันก็คือ GAT PAT1 PAT2 และเพิ่มเติม คะแนน O-net และ GPAX ในรอบแอดมิชชั่น คณะสหเวชศาสตร์ของเรานี้เหมาะกับคนที่ชื่นชอบทางวิทยาศาสตร์ชีวภาพ และมีใจรักในงานบริการเพราะในการบริบาลผู้ป่วยจริงนั้นค่อนข้างเป็นงานที่หนักและต้องมีความรอบควอบ ความรับผิดชอบที่สูง อย่างไรก็ตามอยากฝากน้อง ๆ ไว้ว่าเราควรรู้ตัวเองว่าเราชอบอะไร เราอยากเป็นอะไร ควรค้นหาตัวเองให้ไวเพราะตัวเราเองรู้จักตัวเองดีที่สุด น้องไม่จำเป็นต้องอยากมีหรืออยากเป็นตามคนอื่น เรียนในสิ่งที่เราชอบ ทำในสิ่งที่เราชอบ เราถึงจะมีความสุข เพราะในการศึกษาระดับมหาวิทยาลัยนั้นทุกคณะ ทุกภาควิชาเรียนหนักเหมือนกันหมด แต่การที่เราได้เลือกเรียนในสิ่งที่เราชอบจริง ๆ ถึงจะทำให้น้อง ๆ มีความสุขได้ ภาพโดยผู้เขียน