รีวิว ภาพยนตร์ญี่ปุ่น Destiny : The Tale of Kamakura (มหัศจรรย์โลกหลังความตาย) เรื่องนี้เป็นแนวแฟนซี ดูสบายคลายเครียด แต่มีเนื้อหาน่าสนใจ มีการวางปมเล็ก ๆ ให้ลุ้นสนุก ๆ และอิ่มใจกับความรักของพระนางในเรื่อง เป็นภาพยนตร์ที่เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย อีกทั้งภาพกราฟฟิก CG ต่าง ๆ ก็ทำได้สวย ตัวละครที่เป็นแฟนตาซีก็ทำได้ดี ภาพยนตร์เรื่องนี้เคยเข้าฉายในบ้านเราเมื่อ มีนาคม 2018 หลาย ๆ คนอาจจะเคยชมแล้ว แต่หากใครที่ยังไม่เคยชมภาพยนตร์ญี่ปุ่น เรื่องนี้ก็เป็นการเริ่มต้นที่ดีในการเปิดใจรับชม เค้าโครงเรื่องหลัก เนื้อหาหลักของ Destiny : The Tale of Kamakura จะเป็นการเล่าถึงคู่สามีภรรยาที่เพิ่งแต่งงานใหม่ เป็นคู่รักต่างวัย โดยสามีเป็นนักเขียนนิยาย และเป็นที่ปรึกษาหน่วยคดีที่เกี่ยวกับวิญญาณ ภรรยาเป็นแม่บ้าน ทั้งคู๋อาศัยอยู่ในเมืองคามาคุระ จังหวัด คานางาวะ ซึ่งในเนื้อเรื่องนั้นเมืองนี้จะมีความพิเศษที่ มนุษย์และปิศาจอยู่ร่วมกันได้ เหมือนที่นี่จะเป็นสถานที่เชื่อมโยงสองโลกเข้าด้วยกัน มีหน่วยดูแลผู้คนหลังความตาย มียมฑูตประจำเขต และมีสถานีรถไฟไปยมโลก รวมทั้งปิศาจ และ เทพ ต่าง ๆ สามารถพูดคุยสื่อสารกับมนุษย์ได้ เรื่องราวเกิดขึ้นเพราะ นางเอก โดนปิศาจทำให้วิญญาณหลุดจากร่าง แล้วนำไปยมโลก ทำให้พระเอกต้องตามไปช่วยกลับมา เรื่องราวทุกซีนสนุก มีความน่าสนใจ พร้อมแง่คิดดี ๆ ความน่าสนใจของ Destiny : The Tale of Kamakura1.สร้างจาก มังงะ Kamakura Monogatari ผลงานของ Ryohei Saigan ตีพิมพ์ครั้งแรกในปี 1984 และได้รับกระแสนิยมมาก 2.การเดินเรื่องไม่ซับซ้อนดูเพลิน เนื้อหากระชับ สนุกทุกซีน แต่แอบซ่อนปมเล็ก ๆ ของพระเอก พร้อมซ่อนสัญลักษณ์เล็ก ๆ ในซีนให้ได้ติดตาม แต่มีการเฉลยตอนท้าย3.พล๊อตแฟนตาซีตามความเชื่อเรื่องปิศาจ และ เทพของญี่ปุ่น ในเรื่องจะมีปิศาจตามความเชื่อของคนญี่ปุ่นเช่น กัปปะ เทพยาจก และอื่น ๆ ทำให้เนื้อหาสนุก มีความเป็นการ์ตูนแฝงมายิ่งทำให้เข้าถึงตัวหนังได้ง่าย 4.โลเคชั่น แม้ว่าจะเป็นแฟนตาซี แต่โลเคชั่นสวยหลายซีนในพาร์ทโลกมนุษย์ ที่มีกลิ่นไอย้อนยุคแนว ๆ 60-70 ซึ่งข้อมูลภาพยนตร์ไม่ได้ระบุไว้แต่จากการรับชม บรรยากาศดูวินเทจ รถยนต์ รถไฟ การให้แสง สี ในธีมของหนังทำได้สวย อีกทั้งบ้านเรือน ถนนหนทาง ก็ดูธรรมชาติ อบอุ่น บรรยากาศแบบสบาย ๆ 5.เทคนิคพิเศษ กราฟฟิก CG ทำได้สมราคาความเป็นญี่ปุ่น เพราะสวยมากแม้พาร์ทโลกความตายจะดูเป็นการ์ตูน สร้างให้เราเห็นตามจินตนาการพระเอก แต่ให้อารมย์ญี่ปุ่นมาก ๆ แต่ละฉากละเอียด สวย ดูแล้วเหมือนหลุดตามตัวละครเข้าไปในโลกนั้น รวมถึงตัวปิศาจต่าง ๆ ทำได้ดีตอนปิศาจแปลงร่างก็ทำได้เนียนเหมือนนั่งดูอนิเมะ6.วิถีชีวิตแบบญี่ปุ่น มีแทรกมาผ่านคู่พระนางที่ภรรยาเป็นแม่บ้าน การดูแลงานบ้าน การปรนิบัติต่าง ๆ ตามค่านิยมบ้านเขา มีสื่ออกมาผ่านตัวละคร กับค่านิยมเรื่องอาชีพที่มักจะโดนพ่อแม่เลือกทางให้ แอบแทรกมานิด ๆ ก็ทำได้ดี 7.ความเข้ากันของพระนาง แม้บทจะเป็นคู่รักต่างวัย แต่นักแสดงหลักเล่นดีมาก ๆ ดูแล้วไม่ขัดตาทำให้ไปกับเรื่องราวของทั้งคู่ เป็นภาพยนต์อีกเรื่องในมุมมองของเราที่คิดว่าสนุกเต็ม 100 ดูเพลินสนุกจนไม่มีจุดที่คิดว่าทำให้หนังดูด้อยเลย และด้วยความเป็นแฟนตาซีที่องค์ประกอบต่าง ๆ ในหนังทำได้ดี สนุกแต่มีสาระดี ๆ ที่ทำให้อิ่มเอมใจ สำหรับเราแล้วคิดว่าภาพยนตร์เรื่องนี้สมบูณ์แบบด้วยตัวของมันเองจริง ๆ นักแสดงหลัก Masato Sakai รับบท Masakazu Isshiki หนุ่มใหญ่นักเขียนนิยายที่ไม่เคยเชื่อมั่นในความรัก มีความสามารถสูงเกี่ยวกับเรื่องปิศาจ และชอบรถไฟมาก บทนี้นักแสดงรายนี้เอาอยู่จริง ๆ เล่นได้เนียนมาก ดูบุคคลิกนิ่ง ๆ ใจเย็นแต่ก็มีมุมเอ๋อ ๆ ต้องบอกว่าเป็นการแคสนักแสดงได้เหมาะจริง ๆ ประกอบกับเจ้าตัวมีผลงานค่อนข้างเยอะผ่านมาหลายบทบาท บอกเลยว่าดูแล้วจะอินกับบุคคลิกของตัวละครตัวนี้ Mitsuki Takahata รับบท Akiko Isshiki ภรรยาของนักเขียนหนุ่มใหญ่ ที่ต้องมาปรับตัวกับสภาพแวดล้อมแปลก ๆ และพยายามจะเป็นแม่บ้าน นิสัยโอบอ้อมอารี ดูเหมือนเด็กซน ๆ แต่รักสามีมาก บทนี้ดูเผิน ๆ เหมือนไม่มีอะไร แต่นักแสดงเล่นได้มีเสน่ห์มาก เป็นอีกบทที่ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้สนุก เพราะการแสดงของเธอ Tamao Nakamura รับบท Kin คุณยายแม่บ้านเก่าแก่ ที่อบอุ่น ใจดี แม้ว่าจะมีบทไม่มาก แต่ออกมาซีนไหนก็ก็ไม่โดนพระนางกลบความสำคัญของบทเลย สมกับเป็นนักแสดงอาวุโสจริง ๆ Sakura Ando รับบท Grim Reaper ยมฑูตประจำเขต ที่ดูเอาการเอางาน แต่ก็แอบมีความไม่เอาไหนเล็ก ๆ เป็นบทที่เชื่อมระหว่างสองโลก นอกจากนี้นักแสดงสมทบในแต่ละบทที่ใส่มาก็แสดงกันได้ดี ทำให้เนื้อหามีความน่าสนใจมากขึ้น แม้ว่าบางตัวละครออกมาแค่ชั่วเวลาสั้น ๆ แต่ก็เป็นส่วนที่เติมเรื่องราวให้เข้าใจเพิ่มขึ้น บทสรุปDestiny : The Tale of Kamakura มหัศจรรย์โลกหลังความตาย เป็นภาพยนตร์ที่จะทำให้ผ่อนคลาย เป็นการพักผ่อนด้วยการชมภาพยนตร์สนุก ๆ ภาพสวย ๆ ลุ้นกับเนื้อเรื่องที่ไม่ซับซ้อน แนะนำว่าควรหาโอกาสชมสักครั้ง กับแนวโรแมนติก แฟนตาซี แบบนี้ ตัวอย่างภาพยนต์กดดูได้ที่นี่หมายเหตุ ภาพประกอบทั้งหมดจากทวิตเตอร์ทางการของภาพยนต์ Destiny : The Tale of Kamakura