Star Wars เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งภาพยนตร์ระดับมาสเตอร์พีช ที่สร้างภาพจำและตำนานให้กับหนังอวกาศ SCI-FI ในโลกฮอลลีวูดเลยทีเดียว เชื่อว่าหลาย ๆ คนที่เติบโตมากับภาพยนตร์ในซีรีส์นี้จะต้องจดจำซาวด์แทร็กอันไพเราะและเรื่องราวต่างๆ ใน Star Wars ที่เคยโด่งดังมาก ๆ ในช่วงเวลาหนึ่งอย่างแน่นอน แต่ก็เชื่อว่ามีหลายคนที่อาจไม่รู้เรื่องราวในภาพยนตร์นี้อีกหลาย ๆ เรื่องอยู่เช่นกัน เราได้รวม 5 เรื่องราวที่คุณอาจจะไม่รู้ในภาพยนตร์ Star Wars มาให้คุณได้ทราบ คุณอาจกลับไปย้อนดูใหม่อีกรอบและคุณจะรักภาพยนตร์เรื่องนี้มากขึ้นแน่นอนเรื่องราวที่ 1 นักแสดงลับระดับฮอลลีวูดStar Wars เป็นภาพยนตร์ที่ได้แจ้งเกิดนักแสดงหลักมาแล้วมากหน้าหลายตา แต่คุณอาจไม่รู้ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้มีนักแสดงฮอลลีวูดมารับบทตัวประกอบในภาพยนตร์เรื่องนี้อยู่มากมายเช่นกัน เราได้รวมคนดังนักแสดงลับที่ซ่อนอยู่ในภาพยนตร์เรื่องนี้มาให้ทราบกัน- Keira Knightley นักแสดงสาวมากความสามารถ ผู้มีใบหน้าคล้ายกับ Natalie Portman ได้รับเลือกให้เล่นเป็น Sabé นกต่อของราชินี Padmé Amidala แห่งดาวนาบู- Daniel Craig พระเอกสายลับ Jame Bone 007 ได้เคยขอรับบทเป็นทหารชุดขาว Stormtrooper ให้กับ Star Wars: Episode VII - The Force Awakens เพราะเนื่องจากตอนนั้นภาพยนตร์ James Bond ได้ใช้สตูดิโอในการถ่ายทำที่เดียวกันพอดี- Joseph Gordon-Levitt คือ ได้รับบทและสวมชุดและให้เสียง Slowen Lo ใน Star Wars: Episode VIII - The Last Jedi- Simon Pegg ได้มาสวมชุดรับบทและเป็น Unkar Plutt ตัวละครใหม่ใน Star Wars: Episode VII - The Force Awakensเรื่องราวที่ 2 นักแสดงลับที่คุณไม่คาดคิดในภาพยนตร์ Star Wars: Episode VIII - The Last Jedi ได้รับเกียรติจากเจ้าชายทั้งสองจากประเทศอังกฤษ เจ้าชายวิลเลี่ยมและแฮร์รี่ ทรงขอเข้าร่วมแสดงเป็นหนึ่งในแก๊งค์ทหาร Stormtroopers แต่น่าเสียดายที่ฉากนั้นถูกตัดออกไปในระบบภาพยนตร์ แต่จะมีซีนนี้เฉพาะในเวอร์ชั่น DVD และ ในระบบ Blu-ray เท่านั้นเรื่องราวที่ 3 ตัวละครเอกที่ได้แรงบันดาลใจมาจากนักฟิสิกส์ทฤษฎีชื่อดังระดับโลกถ้าคุณเป็นแฟน Star Wars คุณต้องรู้จัก โยดา (Yoda) อาจารย์เจได ที่ทรงพลังที่สุดในกาแล็กซี ซึ่งตัวละครนี้ได้แรงบันดาลใจจาก อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ (Albert Einstein) นักฟิสิกส์ทฤษฎีชาวเยอรมัน ด้วยทั้งลักษณะการพูดและรวมไปถึงหน้าตา โดยเฉพาะริมฝีปากที่นำมาใส่แบบ 100% เต็ม ทาง จอร์จ ลูคัส (George Lucas) ก็นำมาใส่ในคาแรคเตอร์ โยดา (Yoda) และเสียงได้ถูกพากย์โดย Frank Oz ซึ่งแฟน ๆ ภาพยนตร์เรื่องนี้อาจไม่เคยรู้มาก่อนว่าเสียงพากย์ของ โยดา (Yoda) นั้นจะเป็นเสียงเดียวกับ Miss Piggy จากรายกาย The Muppet Show ด้วยเช่นกันเรื่องราวที่ 4 May the 4th (be with you)ในทุกวันที่ 4 พฤษภาคม ของทุกปี เป็นวัน Star Wars Day เนื่องจากในภาพยนตร์เรื่องนี้จะมีประโยคเด็ดประจำคือ "May the force be with you" ซึ่งสามารถเลียนเสียงอ่านได้คล้ายในภาษาอังกฤษคือ May the 4th / May the Fourth (be with you) นั้นเอง และประโยคที่ไม่นี้ไม่ว่าจะเป็นแฟนพันธุ์แท้หรือคนทั่วไปก็เคยได้ยินและรู้จักอย่างแน่นอน จึงทำให้แฟน ๆ ภาพยนตร์เรื่องนี้ร่วมกันตั้งให้วันที่ 4 พฤษภาคม เป็นวัน Star Wars Day นั่นเอง ซึ่งวันนี้แฟนคลับจำนวนไม่น้อยจะเข้าร่วมพร้อมกับกิจกรรมต่าง ๆ มากมายที่พวกเขาทั้งหลายจัดขึ้นมากันอย่างสนุกสนานเรื่องราวที่ 5 Lightsaber เสียงที่ได้มาจากความบังเอิญLightsaber ดาบสุดเท่จากภาพยนตร์เรื่องนี้ Ben Burtt (ผู้พัฒนาและออกแบบเสียง) ได้ออกแบบเสียงเอฟเฟคของดาบนี้ได้โดยบังเอิญ เริ่มมาจากการใช้เทคนิคการอัดเสียงทีวีเครื่องเก่า และมอเตอร์กลไกของเครื่องโปรเจคเตอร์ฉายหนัง เขาได้ยินเสียงที่แปลกประหลาดนี้และค้นพบว่ามันคือแรงบันดาลใจโดยสร้างโทนเสียง หึ่ง หึ่ง ที่คุ้นหูกันให้กับเจ้าดาบ Lightsaber นี้นั้นเอง และยิ่งในภาค Star Wars: The Rise of Skywalker นี้ ดาบ Lightsaber อาวุธประจำกายของ Rey เราแทบจะละสายตาจากรายละเอียดสุดสวยต่างๆ บนดาบไม่ได้เลยและในตอนนี้ทาง True ID มีเทศกาลหนัง Star Wars ให้ท่านได้เลือกชมในรูปแบบหนังพรีเมียม ภาพยนตร์มหากาพย์ SCI-FI สุดอลังกาลทั้ง Star Wars: The Force Awakens, Star Wars: The Last Jedi และไตรภาคสุดท้าย Star Wars The Rise of Skywalker โดยจะมีภาคแยก Rogue One: A Star Wars Story ให้แฟนหนังได้เลือกชมกันอย่างหน่ำใจ และหวังว่าในช่วงกักตัวนี้ คำอวยพรยอดฮิตของเหล่าสาวก Star Wars ในยุคนี้ อาจจะต้องเปลี่ยนเป็น "May the Force Be with Home" กันแทนเครดิตภาพ: https://movie.trueid.net: www.facebook.com/StarWarsTH: https://twitter.com/kingdomsmagic: https://www.elle.com/uk