สวัสดีเพื่อนๆผู้อ่านทุกท่าน ช่วงนี้คงเป็นช่วงเวลาที่เรียกได้ว่าวิกฤติอย่างเเท้จริงไม่ว่าจะในทางสุขภาพร่างกาย สุขภาพทางการเงินที่หลายๆท่านกำลังพบเจอ เเละตามมาด้วยปัญหาสุขภาพทางจิตใจที่เเย่ลง เเต่เมื่อทุกอย่างเกิดขึ้นมาเเล้วย่อมมีวันที่มันจะผ่านไป ผู้เขียนได้คำถามจากคนรอบตัวมากมายว่าในยุคนี้จะเอาเงินไปทำอะไรดี ในเมื่อฝากเงินออมกับธนาคารดอกเบี้ยก็ตกต่ำ เเละบางคนก็เเทบจะไม่มีเงินเหลือไว้ลงทุนมากนัก ผู้เขียนได้เห็นถึงมาตรารับเงินเยียวยา 5,000 บาท ซึ่งผู้เขียนก็ขอยินดีกับเพื่อนที่ได้รับเงินเยียวยาจากทางภาครัฐด้วย ผู้เขียนจึงขอเสนอเเนวคิดการลงทุนด้วยเงิน 5,000 บาท เพื่อเป็นเเนวทางให้เพื่อนๆ ได้ลองพิจารณาภาพโดย Dariusz Sankowski จาก Pixabay สิ่งที่สำคัญเป็นอันดับเเรกเลยคือลงทุนหาความรู้ก่อน การลงทุนนี้เป็นการลงทุนที่อาจจะไ่ม่ต้องใช้เงินเลยใช้เเค่เวลา เเละความตั้งใจ หรือบางความรู้เชิงลึกบางอย่างเราอาจจะต้องเสียเงินเรียนเช่น การอบรมออนไลน์ หนังสือคู่มือ เเต่สิ่งที่ได้มันจะอยู่กับเราไปตลอดชีวิต นอกจากนั้นเรายังจะได้ลองเรียนรู้ว่าเรานั้นเหมาะกับการลงทุนแบบไหน อย่างไรภาพโดย StartupStockPhotos จาก Pixabay รู้จักตนเอง การรู้จักตนเองเป็นเรื่องที่สำคัญมากๆในการลงทุน รู้ว่าเราถนัดด้านใด มีความอดทนต้องความเสี่ยงมากเเค่ไหนต้องการผลตอบเเทนมากเเค่ไหน ถ้าเรารู้ในส่วนนี้เเล้วเราจะสามารถกำหนดทิศทางการลงทุนได้อย่างชัดเจน "การกำหนดทิศทางการลงทุน การวางเเผน ไม่สำคัญว่าจะเงินลงทุนมากหรือน้อย ควรทำ" เมื่อเรารู้เรื่องการเตรียมตัวก่อนลงทุนเเล้ว หลังจากนี้จะเป็นการเเนะนำการลงทุนในรูปแบบต่างๆการลงทุนค้าขาย ในปัจจุบันการมีการค้าขายในหลายรูปแบบทั้งขายจากแฟรนไชส์ การซื้อเเแฟรนไชส์มาเปิดเองซึ่งมีมากมาย ในราคาไม่เกิน 5,000.-บาท มีทั้งหน้าร้าน วัตถุดิบพร้อมขายได้เลยสต็อกสินค้าขายของเช่น การขายสินค้าออนไลน์ ของมือสอง เเต่อาจจะต้องลงทุนเยอะสักนิด เเถมเสี่ยงในการสต็อกสินค้าขายสินค้า Pre-order ไม่ต้องสต็อกเป็นเหมือนพ่อค้าคนกลาง ขายได้ดีทางออนไลน์ ความเสี่ยงต่ำ ขายอาหารไม่ซื้อแฟรนไชส์แต่อยากลงทุนทำเอง และการขายที่เริ่มต้นจากทีละน้อยจะทำให้เราค่อยๆ เรียนรู้ความต้องการของผู้บริโภคไปด้วย ยิ่งเปิดขายทางออนไลน์ได้ด้วยยิ่งช่วยเสริมฐานลูกค้าภาพโดย Pexels จาก Pixabay การลงทุนในกองทุนรวม สามารถลงทุนได้ด้วยเงินลงทุนที่ไม่สูงมากนัก เริ่มต้นด้วยเงิน 1,000.- บาทก็สามารถเริ่มสะสมหน่วยลงทุนได้เเล้วซึ่งผลตอบเเทนมีให้ดังนี้เงินปันผล บางกองทุนรวมจะมีนโยบายปันผลกำไรจากผลประกอบการ โดยเราอาจจะต้องใช้ระยะเวลาในการถือกองทุนรวมตามข้อ กำหนดของกองทุนนั้นๆส่วนต่างจากราคาหน่วยลงทุน หากหน่วยการลงทุนที่เราถือมีการเพิ่มขึ้นของราคาหน่วยลงทุน จนถึงที่เราพอใจเเล้ว เราสามารถขายหน่วยลงทุนเพื่อเก็บกำไรส่วนต่างของราคากองทุนรวมมีหลายชนิดให้เราลงทุน อาทิเช่น กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ กองทุนรวมทองคำ ซึ่งเราสามารถเลือกชนิดสินทรัพย์ที่เราชอบได้สำหรับการลงทุนในกองทุนรวม มีโอกาศเสียหายจากการลงทุนน้อย มีเวลาให้คิดตัดสินใจในการขาย เหมาะสำหรับเป็นตัวเลือกลงทุนเเทนการฝากเงินออมอย่างเเท้จริง เเต่มีข้อเสียที่ใช้ระยะเวลานานในการทำกำไร เเละมีผลตอบเเทนที่ไม่สูงมากนัก ภาพโดย Pexels จาก Pixabay การลงทุนในหุ้น สำหรับการลงทุนประเภทนี้ค่อนข้างที่จะมีความเสี่ยงที่สูง โดยเฉพาะในช่วงเวลาการเกิดวิกฤตราคาของหุ้นจะมีการปรับตัวขึ้นลงในความถี่ที่สูงขึ้น ถ้าเรามีการศึกษามาเป็นอย่างดีสามารถจับจังหวะการปรับตัวขึ้นลงได้ก็สามารถสร้างผลตอบเเทนได้ดี เเละในช่วงวิกฤตเราสามารถได้หุ้นที่ดีมีการเติบโตเเละจ่ายปันผลที่ดี สามารถสร้างผลตอบเเทนได้มากกว่า 50% ของเงินทุนภาพโดย Goumbik จาก Pixabay อย่างไรก็ดีการลงทุนทุกอย่างนั้นมีความเสี่ยง ผู้เขียนของเน้นย้ำเรื่องการศึกษาหาความรู้ประเมินตนเองก่อนการลงทุนเพื่อผลตอบเเทนที่ดึที่สุดภาพปกโดย Mediamodifier จาก Pixabay