ความลับของมาราธอน amazing thailand marathon 02/02/2020 อเมซิ่งไทยแลนด์มาราธอน วันอาทิตย์ที่ : ๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๓ ต้องมีวินัย ครับ เหนื่อยก็พัก ขี้เกียจก็ป่วย มีคำศักดิ์สิทธิ์ว่า "กีฬา เป็น ยาวิเศษ" นั้นจริงแท้ ไม่เกินเลยครับ ข้าพเจ้าผ่านโรคร้าย ใกล้ตาย มาสองครั้ง ก็รอดมาได้ด้วยยาวิเศษชื่อว่า"กีฬา" ครั้งแรก ก็มาว่ายน้ำเป็นเมื่อ อายุได้ สามสิบห้า ป่วยเป็นโรค หืดหอบ เข้าออกโรงพยาบาล ตั้งแต่เกิด ต้องไปหาหมอทุกเดือน รักษาเท่าไหร่ก็ไม่หาย แต่มาฝึกหายใจใหม่ด้วยการ"ว่ายน้ำ" อย่างถูกวิธี จนถึงวันนี้ก็ไม่เคยป่วยด้วยโรคหอบหืดอีกเลยครับ ...แต่พออายุ ห้าสิบ มาเป็นโรคฮิตที่คนทั้งโลกตายด้วยโรคหัวใจเป็นอันดับหนึ่ง ครั้งที่สองที่เกือบตายด้วยโรคเส้นเลือดหัวใจโป่งพอง ก็ได้มาออกกำลังด้วยการ"วิ่ง" รอดมาได้อีกครั้ง ง่ายจริงๆครับ เพราะว่า"วิ่ง"เป็นกีฬาที่เล่นคนเดียวได้ เหมือนว่ายน้ำเลยครับ วิ่งมานานหลายปี ต้นปีนี้พี่ชายตาย ต่อจากคุณพ่อที่ตายไปก่อนหนึ่งปี จึงหยุดวิ่ง...มาทบทวนว่าอีกไม่นานเราก็คงตายตามพ่อกับพี่ไปแน่ๆ จิตใจก็ซึมๆไป นอนไม่ค่อยหลับ ตีสามตื่น ตีสี่ตื่น เป็นมาสิบกว่าเดือนครับ กลับมาวิ่งอีกครั้ง เพราะคิดว่า "พรุ่งนี้ก็ตายแล้ว" แต่ไม่อยากตายด้วนโรคเรื้อรัง รักษายาก ใช้เงินทองมากมาย วันนี้วิ่งๆเดินๆ ได้ ๗ กิโลเมตร ใช้เวลาไป ๙๐ นาที เหงื่อออกมาก หัวใจเต้นไม่เกิน ๑๒๐ ครั้งต่อนาที เพราะว่าเมื่อรู้สึกว่าเจ็บที่ฝ่าเท้า(รองช้ำ)ก็หยุดวิ่ง และค่อยๆเดิน ไปช้าๆไม่ได้รีบครับ อยากกลับไปวิ่งมาราธอนอีกครั้ง รู้ว่าทรมานร่างกายมาก แต่ก็ทำให้เส้นเลือดหัวใจแข็งแรงขึ้นมากด้วยครับ ถ้าเจอคนแก่ที่วิ่งใส่ชุดลูกเสือสำรอง นั้นก็คือข้าพเจ้าเอง ๕๕๕๕๕ เพราะอยากให้คนเห็นจำได้ ถ้าหัวใจวายเฉียบพลันแล้วล้มลง ก็ได้โปรดอย่าปั๊มหัวใจข้าพเจ้าให้กลับมา เพราะคงกลับมาได้ไม่เหมือนเดิมครับ ปล่อยให้ข้าพเจ้า ตามคุณพ่อและพี่ชายไป คือ "อยากตายถูก ไม่ตายแพง" ครับ นักวิ่งทุกท่าน ก็จึงเรียกข้าพเจ้าว่า"พี่ลูกเสือ" ๕๕๕๕๕ เพราะว่าข้าพเจ้ามีชุดเดียว เวลาใส่วิ่งครับ เขียนเล่าให้ฟังเพราะว่าวันนี้ได้ไปวิ่งแล้วสนุกดีที่ได้อยู่กับตัวเอง ตอนวิ่งคิดในหัวว่าถูกหวย ได้สตางค์มาสิบล้าน วิ่งไปยิ้มไป คิดเพลินๆว่าจะเอาสตางค์ไปทำอะไรดี ...จนภรรยาโทร.มาตาม ๕๕๕๕๕ ครับ (((เริ่มต้นกันใหม่นะคร้าบบบ))) ถึงแม้ว่า จะวิ่งมาราธอน(๔๒.๑๙๕กิโลเมตร)ผ่านมา ๑๕ ครั้งแล้วก็ตาม เมื่อต้นปี๖๒ ก็บอกกับตัวเองว่า พอแล้วไม่วิ่งอีกแล้ว หลายเดือนผ่านมาเสียงในหัวก็พูดวนๆเวียนๆไปมา ถึงความลับของตัวเองที่ได้จากการวิ่งมาราธอนตั้งแต่ ๓๐ กิโลเมตรขึ้นไป ความลับที่เจอในแต่ละครั้งไม่เหมือนกันเลยครับ ...ใจร่ำร้องตลอดเวลาให้ออกไปวิ่ง ...วันนี้พี่ลูกเสือกลับมาแล้วครับ ทุกอย่างต้องนับหนึ่งใหม่หมดครับ เริ่มจาก"เดิน"ก่อน ไปช้าๆไม่ต้องรีบครับ ๒ กพ ๒๕๖๓ แจกัน อเมซิ่งมาราอน ขอบพระคุณมากครับ เหนื่อยก็พัก ขี้เกียจก็ป่วย วิ่งไปช้าๆไม่ต้องรีบครับ ตอนที่ ๑๖ ความลับของมาราธอน ...พี่ลูกเสือ ไม่ได้วิ่งมาราธอน มาตั้งแต่ปีที่แล้ว เคยคิดว่าจะเลิกวิ่งแล้ว พอแล้ว ...แต่ก็นะครับ ลงวิ่งอีกจนได้ ได้ซ้อมวิ่งน้อยมาก ครั้งแรกวิ่งจากบ้านบางใหญ่ นนทบุรี ตี๔ วิ่งไปกราบพระบรมราชสรีรางคาร ในหลวงรัชกาลที่ ๙ เนื่องในวันที่ ๕ ธันวาคม ปลายปี ที่วัดบวรนิเวศ แล้วกลับถึงบ้านตอนเที่ยงได้ ระยะฟูลมาราธอนพอดี อีกครั้ง คือ วิ่งจากวัดพระแก้ว ถึง บ้านบางใหญ่ ได้ครึ่งมาราธอน ใช้เวลาไป ๔ ชั่วโมงกว่า ช่วงวันไหว้เจ้าตรุษจีน พอดีครับ เป็นครั้งที่ ๓ แล้วที่ได้มาวิ่งในงาน อเมซิ่งไทยแลนด์มาราธอน ชอบเส้นทางวิ่งผ่าเมืองกรุงมากครับ เริ่มต้นที่หัวหมาก แล้วไปจบที่ ถนนราชดำเนิน และที่สำคัญมาก คือได้กลับไปสอนศิลปะ ให้นักเรียนทัน ไม่ต้องหยุดการเรียนการสอนในวันอาทิตย์ ของ โรงเรียนศิลปะแหลมคม (ปกติเปิดสอนวันเสาร์/อาทิตย์) ได้นั่งรถเมล์รับส่งบริการนั่งวิ่งฟรี จากโรงพักนางเลิ้ง...มาถึง ราชมังคลากีฬาสถาน ตอน ตี๒.๕๐น. ปวดท้อง(อึ)แต่เข้าส้วมไม่ทันแล้ว ก็รีบๆเดิน เข้าไปทันปล่อยตัวพอดี จุดพลุ ยิ่งใหญ่สมกับงานระดับประเทศ ...กว่าจะออกจากสนามได้ ก็ใช้เวลาไปพอสมควร แต่ไม่เท่ากับปีที่แล้ว เส้นทางวิ่งก็เหมือนเดิม ออกด้านหลังไปถนนพัฒนาการ เลี้ยวขึ้นสะพาน ยกระดับ ต่อจากนั้น ก็สะพาน แล้วก็ สะพาน ๆ ๆ นักวิ่งครึ่งมาราธอน และนักวิ่งเต็มมาราธอน จำนวนมาก น้องๆเด็กนักเรียน จากสุพรรณบุรี และ ชลบุรี มาบริการ น้ำดื่ม เกลือแร่ เจลให้พลังงาน รวมถึงของว่างแตงโม ส้ม ลูกชุบ โดนัท และที่ถูกใจ พี่ลูกเสือมากที่สุดคือ ไอติม แมกโนเลีย ที่กล่าวมาทั้งหมดนักวิ่งจะกิน เท่าไหร่ก็ได้ครับ น้องๆทีมงาน ไม่ค่อยได้ส่งเสียงเชียร์มากเท่าไหร่ ได้ความว่า น้องๆมาถึงงาน ตั้งแต่กลางคืนวันเสาร์ ...น้องก็เพลีย นักวิ่งก็เหนื่อย แต่ตลอดระยะทาง มีรถพยาบาล รถสุขา สมบูรณ์ดีมากครับ ขอบพระคุณน้องๆ พี่ๆเจ้าหน้าที่มากๆนะครับ ...พี่ลูกเสือ ก็วิ่งสนุกๆทักทายพี่ๆน้องๆนักวิ่งไปตลอดทาง จนถึงจุดกลับตัวที่ กม.๓๑ บนสะพานลอยฟ้าบรมราชชนนี ดูเหมือนจะเป็นที่พักแรงกายแรงใจ ได้ดีทีเดียว อาหารการกินเพียบ แถมยังมีหมอนวด จัดบริการโดยน้ำมัน"มวย" ...แล้ว เสียงพี่ปีศาจ ก็มา..จนได้ เหมือนจะนัดกันไว้ที่ กม.๓๖ "เฮ้ย...ไอ้ลูกเสือ มรึงยังไม่เข็ดอีกหรือไงว่ะ!!!" ขาเริ่มอ่อน เหมือนกำลัง จะเข้าสู่ภาวะชนกำแพงแล้ว ก็หยุดวิ่ง ขาขยับไม่ได้ ใจหาย...ร่างกายวูบลง สายตาพร่ามัว หยิบแว่นขึ้นมาใส่ก็มองอะไรไม่ชัดเลย "ความกลัว"เข้ามาแทนที่ ...ถึงเวลาที่พ่ายแพ้แล้วซินะ มองไปไกลๆ ก็เห็นแต่หมอกฝุ่น .... ในช่วงเวลาขณะนั้น แม้จะไม่กี่นาที แต่ทำให้หวนนึกถึงความทรงจำ ในวัยหนุ่ม... พี่ลูกเสือ ไปสู่จุดสูงสุดในการประกอบอาชีพ มีรายได้มากกว่า หนึ่งล้านบาทต่อเดือน "ความแน่นอนไม่เคยมี" เกิดวิกฤตเศรษฐกิจปี ๒๕๔๐ “วิกฤตต้มยำกุ้ง” เป็นปีที่พร่ามัวที่สุดในชีวิต หมดเนื้อหมดตัว เศรษฐีเป็นยาจก ทันที ผู้คนล้มละลาย หลายคนฆ่าตัวตาย เพราะทนรับไม่ได้ ก็เหมือนมาราธอนวิ่งมาอยู่ดีๆ ก็วิ่งชนกำแพง(ใสๆ)ที่มองไม่เห็น "นกน้อย ทำรัง แต่พอตัว" เสียงของคุณพ่อ สอนพี่ลูกเสือ ไม่ให้ประมาทกับชีวิต ...พี่ลูกเสือ มองขึ้นไปบนท้องฟ้าสีเทาๆ เช้านี้อากาศร้อน อบอ้าว ไม่มีลม ไม่มีแดด "ไม่มีปาฏิหาริย์" แต่มีหน้าที่ ต้องรับผิดชอบ ต้องกลับไปสอนนักเรียน ๑๒ ซน ที่รออยู่ที่ โรงเรียนศิลปะแหลมคม "มีหน้าที่ ทำหน้าที่ให้สำเร็จ" อีกนิดเดียวก็จะถึงเส้นชัย สะบัดหัว ตบหน้าตัวเอง บอกกับตัวเองว่า..."หายใจก่อน" ปี๔๐ ยังผ่านมาได้ อีกแค่ ๖ กิโลเมตร ก้าวขาซิ... ไปช้าๆไม่ต้องรีบ ชีวิตก็เหมือนวิ่งมาราธอน มีความทรมานที่พร่ามัว ไปช้าๆไม่ต้องรีบครับ เป็นอีกครั้งที่ได้ค้นพบความลับของมาราธอน .../พี่ลูกเสือ รำพึง ปล.มีคลิปครับ จบได้มั้ย?ใส่รองเท้าแตะวิ่ง ๔๒.๑๙๕ กิโลเมตร Amazing Thailand Marathon Bangkok 2020 .../พี่ลูกเสือ เชิญชม ครับhttps://youtu.be/KVMUVZ2UtSY