สำหรับผู้ที่กำลังหาที่เที่ยวในกรุงเทพมหานครแบบวันเดียวอยู่ อยากจะขอนำเสนอ "ชุมชนกุฎีจีน" ชุมชนเก่าแก่ที่สืบเชื้อสายมาจากชาวโปรตุเกสติดริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่มีประวัติศาสตร์มายาวนาน เดินทางไม่ยากและอยู่ใกล้กับวัดวาอารามต่างๆ มากมาย หากมีทริปไหว้พระรอบเกาะรัตนโกสินทร์ ก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่น่าสนใจในการแวะไปเยี่ยมเยียน เริ่มต้นสถานที่แรกกันด้วย ท่าเรือสาทร วิธีการมาก็ไม่ยากสามารถมาได้ทั้ง รถเมล์ รถไฟฟ้า รายละเอียด ดังนี้ - BTS : สะพานตากสิน ทางออก 2 - รถเมล์ : สาย 1 15 17 35 75 77 115 116 504 547 ในส่วนของรถเมล์นั้นลงได้อยู่สองป้าย คือ ป้ายวัดยานนาวา (เดินขึ้นไปอีก) หรือ ป้ายโรบินสันบางรัก (เดินย้อนกลับมา) โดยให้เดินมุ่งไปทางสถานีรถไฟฟ้าสะพานตากสิน ท่าเรือจะอยู่ในซอยด้านในสุด ให้เข้าไปทำการซื้อตั๋วเรือธงส้ม ราคา 15 บาท เพื่อมุ่งหน้าสู่ท่าเรือยอดพิมานหรือปากคลองตลาด (น 6/1) หลังจากนั่งกินลมชมวิวและคอยหลบน้ำที่กระเด็นเข้ามาบ้างเป็นบางครั้ง เรือก็เทียบท่าเข้าสู่ท่าเรือยอดพิมาน ท่าเรือนี้ออกแบบมาสวยงามมาก เป็นอาคารปูนแบบโบราณทาสีเหลืองสดใส ซึ่งบางครั้งก็มีนักร้องวัยเก๋ามาเปิดเวทีร้องเพลงลูกกรุงเพิ่มบรรยากาศให้กับสถานที่แห่งนี้ เมื่อเข้ามาภายในอาคารแล้วให้เดินเลี้ยวซ้ายไปจนสุดทาง จะพบกับท่าเรือข้ามฟากเล็กๆ เพื่อข้ามไปยังท่าเรือวัดกัลยาณมิตรที่อยู่อีกฝั่งนึงของแม่น้ำ ราคาประมาณ 6 บาท (หากจำผิดขออภัยมา ณ ที่นี้) อย่างที่กล่าวไปตอนต้นบทความว่าชุมชนกุฎีจีนนั้นอยู่ใกล้กับวัดวาอารามมากมาย ได้แก่ วัดกัลยาณมิตร-วัดเกียงอันเกง-วัดซานตาครู้ส ตามลำดับ โดยจะเจอวัดกัลยาณมิตรก่อนเป็นอันดับแรกหลังจากลงเรือ ส่วนอีกสองวัดและชุมชนกุฎีจีนนั้นให้เดินเลียบแม่น้ำไปตามทางเดินเล็กๆ ดังรูปประกอบ หลังจากไหว้พระเสร็จเรียบร้อยทั้งสองวัดก่อนหน้า เราก็เดินเท้ามาถึงวัดซานตาครู้ส โบสถ์คริสต์สีนวลตา (หากอยากเข้าไปชมในโบสถ์จะต้องรอเวลาเปิดประมาณห้าโมงเย็น) แล้วให้เราเลี้ยวไปยังซอยเล็กๆ ข้างๆ โบสถ์เพื่อเข้าสู่ชุมชนกุฎีจีน พิพิธภัณฑ์บ้านกุฎีจีน เมื่อเดินเข้าไปจะพบกับโซนคาเฟ่และของที่ระลึก ราคาเครื่องดื่มและขนมไม่ได้แพง สามารถนั่งดื่มไปชมบรรยากาศไป มีต้นไม้และพัดลมไอน้ำเยอะ ทำให้ไม่ร้อนอบอ้าวแน่นอน ส่วนชั้นบนของอาคารนี้จะจัดแสดงประวัติความเป็นมาและสิ่งของที่เกี่ยวข้องกับชุมชนแห่งนี้ เราสามารถเข้าชมโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ หมายเหตุ เนื่องจากพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ไม่ได้รับการสนับสนุนเรื่องการดูแลรักษจากองค์กรใด เราสามารถสนับสนุนพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ได้โดยการอุดหนุนเครื่องดื่มหรือขนมในคาเฟ่ หรือซื้อของที่ระลึกติดไม้ติดมือกลับบ้านได้ค่ะ บรรยากาศภายในพิพิธภัณฑ์ชั้นที่ 2 บรรยากาศภายในพิพิธภัณฑ์ชั้นที่ 3 ส่วนของด้านบนพิพิธภัณฑ์จะมีสองชั้น ชั้นแรก จะเล่าประวัติความเป็นมาของชุมชนนี้ มีการจัดแสดงเนื้อหาประวัติศาสตร์ เสื้อผ้า ความรู้ต่างๆ เกี่ยวกับโปรตุเกส ชั้นที่สองจะเป็นของใช้ เช่น เตียง ไม้เท้า หนังสือ จาน ชามต่างๆ ที่เคยใช้ในอดีต และมีตัวอย่างอาหารของชาวโปตุเกสจัดแสดงอีกมุม (ตรงประตูทางออกใกล้ๆ โต๊ะกินข้าวในรูปนั้นสามารถเดินออกไปชมวิวดาดฟ้าของอาคารนี้ได้) ขนมฝรั่งกุฎีจีนร้านธนูสิงห์ แน่นอนว่าถ้ามาชุมชนนี้แล้วไม่ได้ซื้อขนมไปก็เหมือนว่ายังมาไม่ถึง ร้านที่แวะไปร้านแรก คือ ร้านขายขนมฝรั่งกุฎีจีนชื่อว่า ร้านธนูสิงห์ ตอนแรกไปด้อมๆ มองๆ อยู่นานว่าร้านเปิดหรือไม่ เพราะมีเพียงหน้าต่างบานเล็กๆ ที่เปิดไว้ และขนมที่ใส่ตระกร้าวางไว้บนโต๊ะเฉยๆ สักพักจึงชะโงกหน้าไปถามคนที่อยู่ด้านในจึงรู้ว่าเปิดขายอยู่ ราคาชิ้นเล็กอยู่ที่ 20 บาท ชิ้นใหญ่อยู่ที่ 40 บาท แต่น่าเสียดายที่วันนี้เจ้าของไม่ได้เปิดส่วนของคาเฟ่ให้เราเข้าไปจิบเครื่องดื่มไปด้วยนั่งกินขนมไปด้วย เพราะออเดอร์ขนมค่อนข้างมาก จึงได้แต่ซื้อกลับไป ขนมก๋วยตั๊ส และขนมกุสรัง ร้านที่สองเป็นแผงเล็กๆ ของคุณยาย มีขนม 2 ชนิดวางอยู่ด้วยกัน นั่น คือ ขนมก๊วยตั๊ส และขนมกุสรัง ขายห่อละ 35 บาท 3 ห่อ 100 บาท ด้วยความที่ไม่รู้จักไม่เคยได้ยินชื่อขนมทั้งสองชนิดนี้มาก่อน คุณยายจึงอธิบายง่ายๆ ให้ฟังว่า ขนมก๊วยตั๋ส ขนมที่มีสีเหลืองๆ อยู่ด้านบน จะอารมณ์คล้ายๆ พายสับปะรด ส่วน กุสรัง เป็นขนมแป้งทอดทำรูปโบว์เคลือบน้ำตาลที่ปกติจะทำเฉพาะวันคริสมาสต์เท่านั้น แต่ปัจจุบันขยายระยะเวลาออกมาเป็นทั้งเดือนธันวาคมแทน และคุณยายยังบอกอีกว่าถ้ามาเดือนอื่นจะไม่มีขนมชนิดนี้ขาย เลยจัดกุสรังไป 2 ห่อ ก๊วยตั๊สอีก 1 ห่อติดไม้ติดมือกลับไป ด้วยความที่วันนั้นไม่ได้มีเวลามากและมีจุดหมายอย่างเดียว คือ ขนมฝรั่งกุฎีจีน ที่ย่าเอ่ยปากว่าอยากกิน จึงไม่ได้คิดว่าจะมาทำรีวิว เลยไม่ได้มีโอกาสไปลองซื้อหรือสำรวจมากนัก ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าเสียดายอยู่ เพราะมีอีกหลายร้านค้าในชุมชนแห่งนี้ที่น่าสนใจ เช่น ร้านอาหารโปรตุเกส ที่มีหญิงสาวใส่ชุดแบบชาวโปรตุเกสมาต้อนรับ ตรอกซอกซอยต่างๆ ที่มีกราฟิตี้เท่ๆ ร้านค้าและขนมชนิดอื่นๆ เป็นต้น หากมีโอกาสคงกลับไปเก็บให้ครบทุกร้านแน่ๆ สำหรับการรีวิวก็ต้องขอจบลงเพียงเท่านี้ หากมีข้อความใดที่ผิดพลาดไปต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ค่ะ สรุปแผนที่การเดินทาง