วันนี้เราจะพาไปเที่ยวเมืองปอร์โตฟิโน่ Portofino เมืองตากอากาศริมทะเลอิตาเลียน-ริเวียร่า ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ในประเทศอิตาลี เมืองนี้มีความเป็นมาตั้งแต่ในสมัยโรมัน ซึ่งแต่เดิมมีชื่อว่า Portus Delphini หรืออ่าวโลมา แต่ในประวัติศาสตร์ไม่ได้บอกว่าทำไมถึงชื่ออ่าวโลมา จะเป็นเพราะรูปร่างของมันเหมือนโลมา หรือเป็นเพราะว่าเป็นที่อยู่ของโลมาก็ไม่ได้บอกไว้ จริง ๆ แล้วเมืองปอร์โตฟิโน่ เป็นหมู่บ้านชาวประมงเล็ก ๆ แต่เริ่มมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักในฐานะเมืองตากอากาศในคริสต์ศตวรรษที่ 18 เมื่อ ชนชั้นสูงจากเมืองต่าง ๆ ในทวีปยุโรปโดยเฉพาะจากประเทศอังกฤษมาซื้อบ้านเก่า ๆ บนเขา เพื่อปรับปรุงเป็นวิลล่าตากอากาศ ปัจจุบันเมืองนี้ยังเป็นที่ตั้งของรีสอร์ทตากอากาศหรู ที่ศิลปินที่มีชื่อเสียงโด่งดังระดับโลก อย่าง Avril Lavigne, Kylie Minogue หรือดาราดังในอดีตอย่าง Elizabeth Taylor, Richard Burton นิยมมาพักผ่อนเป็นประจำ หรือบางคนก็ซื้อวิลล่าไว้สำหรับพักตากอากาศ เช่น ศิลปินชาวอังกฤษอย่าง Rex Harrison เสน่ห์ของปอร์โตฟิโน่ไม่ได้มาจากน้ำทะเลสีฟ้าเข้ม แต่ยังเป็นเพราะ อาคารบ้านเรือนที่มีสีสันสดใสและหลากสี ที่ปลูกไล่เรียงกันตั้งแต่ริมอ่าวขึ้นไปบนเนิน และ ฉากหลังที่เป็นเนินเขาที่ปกคลุมด้วยต้นมะกอก และไร่องุ่นเล็ก ๆ ที่ดูร่มรื่นจนเรามองไม่เห็นวิลล่าที่แอบอยู่บนเขา ในเมืองปอร์โตฟิโน่มีประชากรแค่ 500 คน ซึ่งส่วนใหญ่ผู้ชายจะทำอาชีพประมง, ผู้หญิงจะทำงานฝีมือ เช่นผ้าลูกไม้ นอกจากนั้นก็จะเป็นเจ้าของธุรกิจที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว, โรงแรม, ร้านอาหาร, ร้านค้า และเช่าเรือนำเที่ยว เราเริ่มเที่ยวเมืองปอร์โตฟิโน่จากจุดศูนย์กลางของเมือง ซึ่งเป็นที่พบปะสังสรรค์ของนักท่องเที่ยว คือ จัตุรัสประจำเมืองเรียกว่า Piazzetta หรือจัตุรัสเล็ก บริเวณรอบ ๆ จัตุรัสก็เป็นที่ตั้งของร้านกาแฟและร้านอาหาร หากมีเวลาไม่มากเราจะสั่งกาแฟมาดื่มพร้อมชมนั่งดูทะเลและเรือหาปลาไปเพลิน ๆ หรือถ้ามีเวลาเราจะสั่งอาหารอิตาเลียนมาทานพร้อมกับไวน์พื้นเมืองสักแก้วก็ได้บรรยากาศดีนะ หากใครที่ชอบช้อปปิ้งหรือจะแค่เดินเล่น ในบริเวณจัตุรัสยังและริมอ่าว มีสินค้าหลากหลายให้เราได้เลือกซื้อ รวมทั้งสินค้าแบรนด์ดัง ๆ หรือสินค้าพื้นเมืองเช่น ผ้าลูกไม้ ซึ่งเป็นงานฝีมือของชาวบ้าน และยังมีแกลลอรี่ที่ศิลปินวาดภาพและขายงานของตน หรือถ้าใครมีเวลาจะเช่าเรือออกไปล่องเล่นในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนได้นะคะ จากจัตุรัส เราเดินขึ้นไปบนเนินเขาเพื่อไปที่โบสถ์เซนต์จอร์จ Church of San Giorgio โบสถ์ประจำเมืองปอร์โตฟิโน่ และปราสาทสีน้ำตาลที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 10 นาที ซึ่งทั้งสองที่นี้เราสามารถมองเห็นวิวของเมืองและรอบ ๆ อ่าวได้ หากเดินต่อไปเรื่อย ๆ จะไปเจอกับประภาคาร หรือจากอ่าวเราเดินขึ้นเนินไปอีกด้านก็จะเจอกับโบสถ์สำคัญอีกแห่งซึ่งอยู่บนเนินเขาเหมือนกันคือโบสถ์เซนต์มาร์ติน Church of San Martino ที่สถาปัตยกรรมภายในดูเหมือนจะเรียบง่ายแต่แฝงไว้ด้วยความอลังการ ช่วงเวลาที่แนะนำให้มาเที่ยวที่นี่คือฤดูใบไม้ผลิ ตั้งแต่เดือนเมษายน ถึงพฤษภาคม และฤดูใบไม้ร่วง คือเดือนตุลาคมถึงพฤศจิายน และควรหลีกเลี่ยงฤดูร้อนเนื่องจากจะมีนักท่องเที่ยวชาวยุโรปจำนวนมากนิยมมาพักร้อนในช่วงนี้ซึ่งทำให้ที่พักและร้านอาหารจะมีราคาสูงกว่าฤดูอื่น การเดินทางที่สะดวกที่สุดคือรถยนต์ส่วนตัวและรถบัส เพราะสถานีรถไฟที่ใกล้ที่สุดอยู่ห่างออกไปประมาณ 5 กิโลเมตร หรือจะนั่งรถไฟไปลงที่สถานีรถไฟในเมืองเจนัว Genao แล้วนั่งรถบัสมาก็ได้ค่ะ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที หรือ 40 กิโลเมตร สามารถเช็คตารางเวลาเดินรถได้ที่ www.trenitalia.com แต่หากมาเที่ยวในฤดูร้อนจะมีเรือเฟอร์รี่จากเมืองเจนัวมาที่นี่เลย ปอร์โตฟิโน่ ไม่ใช่เป็นแค่เมืองตากอากาศหรู แต่ยังเป็นหมู่บ้านชาวประมงที่มีธรรมชาติแวดล้อมที่สวยงาม แม้เราจะไม่ใช่นักท่องเที่ยวสไตล์ La Dolce Vita ก็สามารถแวะมาชื่นชมเสน่ห์ของเมืองปอร์โตฟิโน่ได้แบบเพลิน ๆ ค่ะ ภาพประกอบทั้งหมดโดยผู้เขียน #เที่ยวต่างประเทศ #เที่ยวยุโรป #เที่ยวอิตาลี ติดตามบทความอื่นจากผู้เขียน ได้ที่ https://creators.trueid.net/@37414