เกิดมาเคยได้ยินแต่นโยบาย 'ช้อปช่วยชาติ' ใครจะไปคิดว่าวันนี้โลกเราจะมีนโยบาย 'กินชีสช่วยชาติ' เกิดขึ้นมาบ้าง เพราะพิษโควิด-19 ทำเอาหลายภาคส่วนต่างอ่วมไปตามกัน ธุรกิจน้อยใหญ่ถ้าไม่แกร่งจริงก็พากันล้มระเนระนาด บ้านเราถือว่าเข้าสู่ภาวะที่ควบคุมได้ ภาคธุรกิจต่างเริ่มกลับมาฟื้นฟูกิจการเพื่อให้เดินต่อได้ในอนาคต แต่สำหรับประเทศฝรั่งเศสที่เรียกว่าอาการยังโคม่า ต้องบอกว่าอุตสาหกรรมหลายประเภทต่างได้รับผลกระทบ และบทความนี้จะว่าด้วยเรื่องราวของภาคเกษตรกรรม ที่ถูกโควิด-19 เล่นงานจนทำให้ธุรกิจอาหารในประเทศฝรั่งเศสทรุดตัวตามไปด้วย อาหารที่ได้รับผลกระทบก็ไม่ใช่อย่างอื่นใด แต่เป็นชีส (Cheese) อาหารหลักของชาวยุโรปพอกับขนมปังเลยก็ว่าได้ แต่เคราะห์ซ้ำกรรมซัดยิ่งกว่านั้น เพราะฝรั่งเศสดันเป็นประเทศที่มีแหล่งผลิตชีสส่งออกเป็นจำนวนมาก คราวนี้ตลาดปิดส่งออกไม่ได้ ชีสหลายพันตันที่ผลิตออกมาแล้วไม่สามารถเก็บไว้ได้นานจึงต้องถูกทิ้งเป็นขยะ ร้อนถึงรัฐบาลต้องคิดหามาตรการเพื่อช่วยเหลือผู้ผลิตกันยกใหญ่ งานนี้ถึงกับต้องออกมาเรียกร้องให้ประชาชนช่วยรับประทานชีสกันหน่อย อย่าปล่อยให้ชีสต้องกลายเป็นขยะอาหารซึ่งจะส่งผลเสียอีกหลายอย่างตามมาต้องแก้ปัญหาอีกไม่รู้จบ เพื่อจะให้เห็นภาพแบบกว้าง ๆ เมื่อพูดถึงชีสซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากนม สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อฝรั่งเศสไม่สามารถส่งออกและจำหน่ายชีสได้ คือผลกระทบแบบลูกโซ่ไปยังภาคเกษตรกรรม เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมก็ไม่รู้จะรีดนมไปจำหน่ายให้ใคร เพราะผู้ผลิตชีสต้องชะลอการทำชีสตามมาตรการที่รัฐบาลกำหนด กลายเป็นต้องรับภาระและปรับเปลี่ยนไปขายนมให้ผู้ผลิตเนยและนมพาสเจอไรซ์แทน ซึ่งแน่นอนว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ราคาถูกกว่าชีสจึงกระทบต่อรายได้อีกทางหนึ่ง นมบางชนิดก็ไม่สามารถทำชีสได้ เกษตรกรหลายรายจึงเรียกร้องให้รัฐบาลขยายเวลาในการเก็บรักษานมให้นานขึ้น ดีกว่าเททิ้งให้สุนัขในฟาร์มได้กินเลียกันแบบฟรี ๆ ขณะเดียวกันสมาคมชีสแห่งฝรั่งเศส ก็ได้ออกมาแถลงถึงปัญหาเกี่ยวกับยอกขายชีสในรอบเดือนที่ผ่านมาที่ลดลงกว่าร้อยละ 60 ซึ่งเป็นเรื่องเข้าใจได้ว่าประชาชนหันไปเลือกซื้ออาหารแห้งและของใช้ที่จำเป็นมากกว่า อีกทั้งยังมีรายได้ที่ลดลงจึงไม่สามารถเลือกซื้อชีสที่มีราคาแพงได้ ประกอบกับร้านอาหารถูกสั่งปิดทำให้ไม่มีผู้ซื้อชีสไปประกอบอาหารตามไปด้วย รัฐบาลฝรั่งเศสก็ได้ออกมาตรการเยียวยาด้วยการมอบเงินชดเชย สั่งชะลอการผลิตชีส และเร่งระบายชีสที่ค้างอยู่ด้วยการรณรงค์ให้ชาวฝรั่งเศสช่วยกันซื้อชีสไปรับประทานกัน โดยประสานให้ตลาดและซูเปอร์มาร์เก็ตช่วยกันจำหน่ายชีสในราคาถูก เพื่อระบายสินค้าคั่งค้างให้หมดไปได้โดยเร็วที่สุด นี่จึงเป็นปรากฏการณ์กินชีสช่วยชาติที่สร้างความตื่นตัวให้กับประชาชนชาวฝรั่งเศสเป็นอย่างมาก เรียกว่าเป็นการแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้า รวมทั้งเยียวยาความเดือดร้อนให้ภาคเกษตรกรรมและการส่งออกได้อีกทางหนึ่ง อย่างไรก็ตามบ้านเราช่วงนี้กำลังเป็นหน้าทุเรียนและผลไม้อีกหลายชนิด และไม่สามารถส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศได้ ต้องจับตาดูกันต่อไปว่าบ้านเราจะเกิดแคมเปญ กินทุเรียนช่วยชาติ หรือ กินมะม่วงช่วยชาติ กันบ้างหรือไม่ เตรียมปากเตรียมท้องเอาไว้ให้พร้อมก็แล้วกัน เพราะอะไรก็เกิดขึ้นได้นั่นเอง รูปภาพหน้าปก โดย Freepik : Freepik ภาพประกอบที่ 1 โดย Corinnabarbara : Pixabay ภาพประกอบที่ 2 โดย Ehrecke : Pixabay ภาพประกอบที่ 3 โดย Elisa Michelet : Unsplash ภาพประกอบที่ 4 โดย AlexKlen : Pixabay