ย่านเสาชิงช้า ก็มีคาเฟ่นี้อยู่ด้วยหรอ?! คำถามนี้เกิดขึ้นอย่างทันทีที่เห็นคาเฟ่ อายุ 100กว่าปีแห่งนี้ อยากรู้แล้วสินะ ว่าจะเป็นยังไง ตามกันมาเลยจ้า คาเฟ่กึ่งพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ มีชื่อว่า “บ้านขนมปังขิง” ที่พึ่งจะเริ่มเป็นที่รู้จักเมื่อไม่นานมานี้ ต้องบอกก่อนว่าที่นี่มีประวัติความเป็นมา บ้านหลังนี้เคยเป็นที่พักอาศัยมาก่อนเป็นบ้านไม้เก่าตั้งแต่ปี พ.ศ.2456 อายุมากกว่า106 ปี ของทายาทรุ่นที่ 4 ในตระกูล “ขุนประเสริฐทะเบียน (ขัน)” ซึ่งไม่ได้อาศัยอยู่แล้วและอยากอนุรักษ์ไว้ ภายหลังเลยถูกบูรณะมาทำเป็นคาเฟ่กึ่งพิพิธภัณฑ์ให้ความรู้ถึงประวัติความเป็นมาของบ้านไม้หลังนี้ เอกลักษณ์ของบ้านขนมปังขิงคือลวดลายที่อยู่บนตัวบ้าน และมีความคล้ายกับ ขนมปังขิง หรือคุกกี้ที่คนยุโรปนิยมทานกันในช่วงเทศกาลคริสต์มาสนั่นเอง นับว่าเป็นบ้านที่หาชมได้ยากมากในปัจจุบัน มาดูบรรยากาศของคาเฟ่ด้านในกันบ้างดีกว่า ดูบรรยากาศภายในร้านไปแล้ว ก็ตามมาดูเมนูของที่ร้านกันได้เลย แน่นอนว่าที่นี่ก็ต้องขายขนมที่เข้ากับบรรยากาศความเก่าแก่ของบ้านไม้หลังนี้ เมนูที่ทางร้านแนะนำให้กับลูกค้าทุกคน จะเป็นเมนูที่รวมขนมพิเศษไว้ให้ ที่อร่อยได้ครบทั้งน้ำและขนม ที่สำคัญเหมาะแก่การถ่ายรูป ชุดบัวทอง จะได้เครื่องดื่ม 2 แก้ว + ขนมไทยรวม 1 เซ็ท + เค้ก 1 ชิ้น + ไอศครีม 1 ชุด ชุดนี้อิ่มมากกก ต้องเก็บเค้กกลับไปกินที่บ้านเลยทีเดียว ส่วนราคา 599 บาท ไม่มีบวกเพิ่ม สำหรับเมนูเครื่องดื่มมีให้เลือกมากจนเลือกไม่ถูกเลยทีเดียว เมนูที่ถูกใจที่สุดเห็นจะเป็น เมนูไอศครีมชาไทยเฉาก๊วย ราดด้วยน้ำกะทิ ชาไทยเข้มข้นมากเข้ากันดีสุดๆกับเฉาก๊วยและน้ำกะทิ ใครที่ไม่ชอบกะทิก็ไม่ราดได้เพราะเค้าแยกน้ำกะทิมาให้ นอกจากจะได้ดูความเก่าแก่ของบ้านไปพร้อมๆกับการได้ลิ้มลองขนมแล้ว ความประทับใจในคาเฟ่แห่งนี้ก็ครบถ้วนมากๆ เวลาได้ดูประวัติความเป็นมาของสถานที่ใดใดแล้ว เราก็จะรู้สึกอินไปกับสถานที่นั้นๆได้ไม่น้อย และแน่นอนว่าก็ได้รูปสวยๆ ชิคๆ กลับไปไม่น้อยด้วยเช่นกัน ร้าน บ้านขนมปังขิง ( The Ginger Bread House) ซอย หลังโบสถ์พราหมณ์ สามารถเดินจาก สถานี MRT สามยอด (ประมาณ 800 กม.) มาทางวัดสุทัศน์ ร้านอยู่ไม่ไกลจากวัดมากนัก เวลาเปิดปิดร้าน อังคาร - ศุกร์ 11:00-20:00 เสาร์ - อาทิตย์ 09:00-20:00