Vertigo เป็นห้องอาหาร roof top ในโรงแรม บันยันทรี แนะนำให้โทรไปจองก่อน โดยปกติจะมีจอง 2 รอบ คือ รอบ 18.00 น. หรือ 21.00 น. ตอนจองพนักงานจะบอก dress code ให้ค่ะ คร่าวๆ คือ ชุดสุภาพ ไม่ใส่รองเท้าแตะ กางเกงยีนส์ ถ้าจอดรถในอาคารให้เดินลงไปที่ลอบบี้เพื่อเปลี่ยนลิฟท์ ไปยังชั้น 59 ที่อยู่โซนสูง พอลิฟท์ไปถึงแล้วยังต้องเดินบันไดขึ้นอีก 1 ชั้น ก่อนจะต่อด้วยบันไดวนเพื่อขึ้นไปยังส่วนชั้นบนสุด ถ้าไปถึงก่อนเจ้าหน้าที่เชิญให้ไปหาอะไรดื่มที่ moon bar ก่อน เมื่อ set up เรียบร้อยแล้วพนักงานจะเชิญไปยังที่นั่งที่จัดไว้ให้ โซนส่วนทานอาหาร (Vertigo) เป็นส่วนปลอดบุหรี่ ถ้าจะสูบบุหรี่จะมีพื้นที่ใกล้ห้องน้ำให้ไปสูบได้ค่ะ เมื่อนั่งเรียบร้อยพนักงานจะนำเมนูน้ำมาให้ เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์มีให้เลือกหลายประเภท สำหรับคนที่ไม่ดื่มแอลกอฮอล์มีทั้งน้ำผลไม้ มอคเทล กาแฟ และน้ำเปล่าให้เลือกดื่มค่ะ สนนราคา (ไม่รวม service charge + VAT) เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์เริ่มตั้งแต่ 200 บาท น้ำเปล่า 150 บาท สำหรับอาหาร สามารถเลือกสั่ง แบบ a la carte หรือ จะสั่งเป็น set menu 3 course หรือ 4 course รวมถึง set menu for 2 ก็ได้ค่ะ เราไปกัน 2 คนสั่งแบบ set menu 3 course โดยเลือก 3 จานใน 4 รายการ จาก appetizer, soup, mains, dessert โดยเราสามารถเลือกสั่ง course ไม่เหมือนกันได้นะคะ ก่อนทานจะมีขนมปังหลายแบบมาให้รองท้อง ถือว่ามาตรฐานค่ะ เริ่มทีละเมนูเลยละกัน Alaskan salmon tartare, preserved lemon guacamole, sunflower shoots ตัวแซลมอนปรุงได้ดี มีไข่กุ้งโรยหน้าเสริมรส ขนาดคนไม่ชอบไข่กุ้งก็สามารถทานได้อย่างอร่อยค่ะ แต่ที่ประทับใจมาก คือ เสริฟกับอโวคาโดครีม ทานกับขนมปัง มีรสเปรี้ยว เป็นจานเรียกน้ำย่อยได้ดีเลย Creamed golden corn soup,spiced crab tortellini, cilantro เป็นซุปข้าวโพด รสชาติหวานกลมกล่อมดีค่ะ ตัว tortellini ปูก็ได้รสได้กลิ่นปู ตัวซุปเบากว่าเมื่อเทียบกับซุปอีกจานคือ Lobster bisque, truffle scented lobster, caviar ซุปสีส้มเข้ม ให้กลิ่นลอปสเตอร์หอมมากแต่เนื้อซุปไม่หนักมากเกินไป (ไม่ถึงขนาดซุปข้น) มีไข่ปลาคาร์เวียช่วยชูรสเข้ากันได้ดีค่ะ เลือกเครื่องดื่มหมวด Mocktail The Horizon หวานอมเปรี้ยว Cool as Cucumber หวานสดชื่น . เสิร์ฟพร้อมของทานเล่น แต่บรรยากาศ อร่อยกว่า จริ๊งงง ก่อน Mains จะมี sherbet มาให้ทานล้างปาก ที่ได้ทานน่าจะเป็นรสมะม่วงกับเสาวรสค่ะ ตัว Mains น้องพนักงานแนะนำ Moorish spiced 55 degree duck, cauliflower couscous, orange cumin essence, figs คือ เป็ด รู้สึกไม่ผิดหวัง เนื้อเป็ดนุ่มหอมดีมากๆ เครื่องเคียงมีรสเปรี้ยว ทำให้ทานได้เรื่อยๆ แต่เสียดายวันที่ไปทานเจอก้อนกรวด แบบว่ากัดโดนแล้วเสียรสอาหารอย่างแรง -*- เข้าใจว่าน่าจะมาจากพวกผักเครื่องเคียง Mains อีกจานเป็นจานเนื้อวัวค่ะ Flame grilled Wagyu Sirloin, mash potato, buttered asparagus, wild mushroom jus เราอาจจะพลาดที่สั่งแบบ medium-well (ปกติเราทาน medium ค่ะ แต่ช่วงนี้งดของดิบ) เลยทำให้รู้สึกว่าทานไปนานๆ เนื้อจะแข็ง แต่ถ้าสั่งแบบ medium น่าจะชุ่มน้ำเนื้อกว่านี้ อาศัยว่าน้ำเกรวี่ซอสเห็ดรสชาติดีมาช่วยชีวิต 555+ จานนี้ที่ชอบจริงๆ คือ มันบดค่ะ เราว่านุ่มดี บดได้เนียนมากๆ และอีกอย่างถือว่าเด็ดดีทีเดียวคือเข้าใจว่าเป็นไขมันในไขสันหลังวัว มันมากๆๆๆ หอมกลิ่นวัวอ่ะ ปลื้ม (ทานเปล่าๆ ติดๆ กันแอบเลี่ยนนิดนึง) ทำให้เนื้อที่เราสั่งไม่แข็งและหอมตัวมันได้ตลอดแต่ถือว่าใช้ได้ค่ะ ของหวานที่สั่งคือ Thyme spiced wild chocolate tart, เป็นช็อคโกแลตทาร์ต รสชาติโอเคค่ะ ตัวช็อคโกแลตเยอะมาก ทำให้เราไม่ค่อยได้รสครีมเท่าไหร่ แต่เปรี้ยวรสเบอร์รี่ต่างๆ ปิดมื้ออาหารได้ดีค่ะ ระหว่างทานจะมีพนักงานถ่ายภาพตามโต๊ะ และปริ้นท์ภาพมาให้เมื่อทานเสร็จเป็นอภินันทนาการค่ะ รวมถึงเมื่อจ่ายเงินแล้วจะมีชอคโกแลตเล็กๆ มอบให้แต่ละคนเป็นของที่ระลึกกลับบ้านด้วยนะคะ มื้อนี้ถือว่าประทับใจค่ะ บริการใช้ได้ พนักงานให้ความสะดวกดี บรรยากาศดีมากๆ เห็นวิวของกรุงเทพฯ แบบ 360 องศา ลมสบายๆ นั่งคุยกันได้เรื่อยๆ ค่ะ จะมากับแฟน หรือต้อนรับลูกค้าคนสำคัญก็ถือว่าน่าประทับใจนะคะ อาหารโดยรวมใช้ได้ค่ะ ถือว่าดีและปริมาณเหมาะสม ไม่ประทับใจอย่างเดียวตรงเจอก้อนกรวดในจานเป็ดอ่ะค่ะ T-T เซ็ง เสียดายช่วงนี้งดอาหารดิบ และกาแฟ เลยไม่ได้สั่ง Seafood tower กับ Tiramisu คิดว่าคราวหน้าคงไม่พลาดสองเมนูนี้แน่นอนค่ะ ส่วนค่าเสียหายของ 3 course set อยู่ที่ 2,600 บาท ++ ค่ะ