หลังการติดโทรศัพท์มือถืออย่างจริงจังปรากฏชัดในนิสัย ทำให้หลายเดือนในปี 2019 ที่ผ่านมา ผมหลีกเลี่ยงการหยิบนิยายสักเล่มออกมาจากกองดองตั้งมโหฬารที่ตัวเองยังไม่เคยอ่าน ขอบอกว่าไม่ได้ใช้คำพูดเกินจริงเพราะกองหนังสือดังกล่าวมีจำนวนเกินร้อยเล่มขึ้นไป ถึงบางครั้งจะหยิบบางเล่มมาเปิดอ่านเพียงหน้าสองหน้าก็วางเก็บที่เดิม ถึงอย่างนั้นผมก็ยังติดนิสัยในการสะสมและไม่เลิกที่จะซื้อหนังสือเล่มใหม่ ๆ เข้ามาเพิ่มให้เป็นปัญหาหนักอกขึ้นทุกวัน จนกระทั่งผมได้เจอกับนิยายเล่มหนึ่ง เล่มที่ทำให้ผมยอมวางโทรศัพท์มือถือเพื่ออ่านมันให้จบในเวลาเพียงแค่วันเดียวนิ้วสีแดง นิยายของ ฮิงาชิโนะ เคโงะ นักเขียนมากฝีมือจากญี่ปุ่นผู้มีผลงานโด่งดังมากมายถึงขนาดได้ทำเป็นซีรีส์และภาพยนตร์จนนับไม่ถ้วน และหากใครเป็นแฟนพันธุ์แท้ของนักเขียนผู้นี้ จะรู้ดีว่านิยายเรื่องที่จะกล่าวถึงนับเป็นผลงานอันดับต้น ๆ ที่ดีที่สุดของเขาเรื่องราวของนิ้วสีแดงเริ่มต้นขึ้นในครอบครัวๆ หนึ่งโดยมี มาเอะฮาระ อาคิโอะ เป็นเสาหลักของครอบครัวทว่าสถานภาพที่มีในบ้านกลับไม่ได้ถูกเคารพซ้ำยังโดนหมางเมินใส่ เขาอาศัยอยู่กับภรรยาและลูกชายในบ้านของแม่ที่ป่วยเป็นโรคอัลไซเมอร์ โดยมีน้องสาวของตนซึ่งแต่งงานออกไปแล้วแวะเวียนมาดูแลบุพการีที่คนในบ้านไม่เคยสนใจอยู่ทุกวัน ปัญหาเกิดขึ้นเมื่อคืนหนึ่งอาคิโอะได้รับโทรศัพท์จากภรรยาเพื่อให้รีบกลับบ้าน แม้จะอิดออดแต่เขาก็ทำตาม ก่อนที่จะได้พบกับศพของเด็กหญิงคนหนึ่งในสวนภายในบ้านของตนเองและนั่นนำพาให้เขาต้องพบกับทางแยกของชีวิตที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ตลอดกาลในด้านเนื้อหา เรื่องนี้ถูกโปรโมทว่าเป็นแนวสืบสวน ทว่าในความเป็นจริงเราจะรู้เบื้องหลังของปริศนาอย่างรวดเร็วว่าใครเป็นฆาตกรฆ่าเด็กหญิง แต่สิ่งที่ตามมาตะหากคือแก่นหลักที่แท้จริง เมื่ออาคิโอะและภรรยาตัดสินใจปิดบังเหตุฆาตกรรมนี้ ความน่าสนใจของเรื่องจะเริ่มจากตรงจุดนี้ เพราะเรื่องราวจะพาเราไปพบกับปัญหาภายในครอบครัวเสียมากกว่า ทั้งจากครอบครัวของอาคิโอะและฝั่งความสัมพันธ์ของ คางะ กับ มัตสึมิยะ สองนายตำรวจที่เป็นลูกพี่ลูกน้องกันแล้วได้มาเกี่ยวข้องกับคดีในแง่ของตัวละคร ผู้เขียนได้สร้างมิติของนิสัยออกมาอย่างชัดเจน ทั้งตัวเอกอย่างคางะ นายตำรวจช่างสังเกตที่คิดวิเคราะห์คดีได้อย่างน่าทึ่ง แต่ชอบเก็บงำไว้จนนาทีสุดท้าย หรือจะเป็นมัตสึมิยะ ตำรวจคู่หูที่มีความอยากเอาชนะคางะเพราะมีปมอยู่ในใจ กระทั่งเหล่าตัวละครหลักของคดีอย่างครอบครัวมาเอฮาระก็ถูกเขียนขึ้นให้ดูราวกับมีชีวิตจนเหมือนจริง อย่างตัวอาคิโอะ หัวหน้าครอบครัวที่ชอบหนีปัญหาและเห็นแก่ตัว ภรรยาของอาคิโอะที่เคยถูกนอกใจจนหันไปทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างให้กับลูกชาย ตัวลูกชายของอาคิโอะที่ถูกเลี้ยงดูตามใจจนขาดจิตสำนึกหรือกระทั่งแม่ของอาคิโอะที่ถูกปฏิบัติราวกับเป็นอากาศธาตุภายในบ้านเมื่อรวมสองส่วนผสมจากคดีฆาตกรรมที่รู้ตัวคนร้ายแต่แรกกับนิสัยน่ารังเกียจของเหล่าคนในบ้าน สิ่งที่ทำให้ผมอ่านนิยายเรื่องนี้จบในวันเดียวโดยไม่ยอมวางหนังสือลง คือความอยากรู้อยากเห็นว่าจุดจบของคนที่ก่อเหตุจะเป็นเช่นไร คนอ่านจะรู้สึกว่ายิ่งรู้แผนการอำพรางชั่วช้าของอาคิโอะ ก็ยิ่งทำให้อยากรู้ตอนจบมากยิ่งขึ้นเท่านั้น เพราะฉะนั้นนี่จึงไม่ใช่นิยายสืบสวนที่มีทริคการฆาตกรรมซับซ้อนอะไร แต่เป็นนิยายที่เปิดเผยด้านมืดและความเห็นแก่ตัวของตัวละครที่ชอบหนีปัญหาและดราม่าครอบครัวที่ชวนให้รู้สึกสมเพชตัวละครบางตัวมากกว่าจะเอาใจช่วย ถึงอย่างนั้นในตอนจบของเรื่องนี้ก็มีจุดหักมุมที่รอไว้ให้คนอ่านแปลกใจอยู่ในส่วนของการแปลสำนวนภาษา การพิมพ์ทำรูปเล่มและจัดหน้า สำนักพิมพ์ Daifuku-Lit (ไดฟุกุ-ลีท) ทำได้ดีไม่มีติดขัดอะไรเลย หน้าปกถึงจะดูเรียบง่ายแต่ก็สวยงามเหมาะแก่การเก็บสะสมให้เข้าชุดกับอีกหลายเล่มที่ได้ตีพิมพ์ออกมาฉะนั้นหากใครเป็นคอนิยายแปลญี่ปุ่นและชอบอ่านแนวคดีฆาตกรรม นิ้วสีแดงเรื่องนี้นับว่าอ่านสนุก ไม่ควรพลาดอย่างแน่นอน