มาโหมโรงกันสักหน่อย สำหรับการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบสอง กลุ่ม จี ที่ทีมชาติไทย จะต้องบุกไปเยือน ทีมชาติมาเลเซีย ในวันพฤหัสบดีที่ 14 พ.ย. 62 ณ สนามบูกิตจาลิล ไม่น่าเชื่อว่าเป็นเวลา 15 ปีแล้วที่ "ช้างศีก" ทีมชาติไทยชุดใหญ่ ไม่สามารถบุกมาเอาชนะ "เสือเหลือง" มาเลเซีย ที่สนามบูกิตจาลิลได้เลย โดยตลอด 15 ปี ทำการแข่งขันกันรวม 13 นัด แต่มีแค่เพียง 3 นัดเท่านั้น ที่แข่งขันในสนาม บูกิตจาลิล ซึ่งไทยยังไม่สามารถคว้าชัยชนะออกจากสนามแห่งนี้ได้เลย (เสมอ 1 แพ้ 2) โดยเริ่มจากปี 2004 ในรายการ ไทเกอร์ คัพ 2004 ไทยขึ้นนำไปก่อนจาก ศรายุทธ ชัยคำดี แต่โดนยิงแซงไปสองประตูรวด พ่ายเสือเหลืองไป 1-2 ส่งผลให้ไทยตกรอบแบ่งกลุ่ม, ในปี 2012 พบกันในรายการ เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2012 รอบรองชนะเลิศ นัดแรก มาเลเซียได้ประตูขึ้นนำ ก่อนที่ ธีรศิลป์ แดงดา จะมาทำประตูตีเสมอในช่วงท้ายเกม จบเกมเสมอกันไป 1-1 และครั้งล่าสุดปี 2014 พบกันในเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2014 รอบชิงชนะเลิศ นัดสอง มาเลเซีย ยิงรัวขึ้นนำไปถึง 3-0 ก่อนที่ไทยจะได้ประตูจาก ชารีล ชัปปุยส์ และ ชนาธิป สรงกระสินธ์ จบเกมส์ไทยพ่ายไป 2-3 แต่ไทยยังคงเป็นแชมป์จากสกอร์รวมสองนัดที่ 4-3 ทำไมไทยจึงไม่เคยบุกมาชนะ ในการมาเยือนสนามบูกิตจาลิล ?? ต้องบอกว่า สนามบูกิตจาลิล คือสนามที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน ซึ่งเมื่อก่อนมีความจุระดับแสนที่นั่ง แต่เมื่อติดเก้าอี้เข้าไปทำให้ความจุลดลงมาเหลือ 87,411 ที่นั่ง แต่ก็ยังคงเป็นสนามที่มีความจุเยอะที่สุดในอาเซียนอยู่ดี ซึ่งลองนึกภาพแฟนบอลมาเลเซียเต็มสนาม นำเชียร์โดยอุลตร้ามาลายา ในแบบฉบับดุดัน น่าเกรงขาม ทุกคนตะโกน โห่ ร้อง พร้อมกันทั้งสนาม บรรยากาศมันจะดูโหดขนาดไหน ลองจินตนาการว่าคุณเป็นนักฟุตบอลยืนอยู่ในสนาม คนเรือนแสนโห่ใส่คุณเมื่อคุณได้บอล ความรู้สึกมันจะน่าขนลุกขนาดไหน และนี่คือคลิปที่อยากให้คุณได้พิสูจน์ด้วยตัวเอง https://www.youtube.com/watch?v=3HPhSUP0Li8 ไม่มากไปเลยหากจะกล่าวว่า "บูกิตจาลิล ที่นี่ คือ นรกของทีมเยือนแห่งอาเซียน" และแน่นอนว่าแฟนคลับที่ส่งเสียงเชียร์ ตะโกน โห่ร้อง ในสนาม นอกจากทำให้นักฟุตบอลทีมเยือนในสนามกดดันแล้ว เสียงเชียร์ที่ดังกระหึ่มทั่วสนามยังคงก่อกวนการสื่อสารระหว่างทีมงานสตาฟฟ์โค้ชกับนักฟุตบอลด้วย photo by ช้างศึก อีกปัจจัยหนึ่งคือ พื้นหญ้าที่สนามบูกิตจาลิล จะแตกต่างจะสนามทั่วไปที่นักเตะไทยคุ้นเคย เพราะหญ้าที่สนามแห่งนี้ จะหนาและใบใหญ่กว่าของไทย มีความหนืดสูงกว่า ซึ่งอาจจะมีผลต่อการกะจังหวะบอล การเลี้ยงบอล ซึ่งทำให้นักเตะเองต้องใช้เวลาปรับตัวกับสนามหญ้าใบใหญ่และสูงแบบนี้ เช่นกัน photo by ช้างศึก และปัจจัยที่สำคัญที่สุด หัวจิตหัวใจของนักฟุตบอลทีมชาติมาเลเซียเอง ยามเมื่อต้องเล่นต่อหน้าแฟนบอลตัวเองจำนวนเรือนแสน แน่นอนว่าแต่ละคนต้องวิ่งสู้ฟัดอย่างเต็มที่แน่นอน มีแรงเท่าไรต้องใส่ให้หมด เรียกว่าเตะตามเสียงเชียร์ก็ว่าได้ บวกกับการต้องแข่งขันกับทีมชาติไทย ที่ไม่ว่าทีมไหนๆ ในอาเซียนก็อยากที่จะเอาชนะ ก็เพิ่มแรงบวกให้กับบรรดาแข้งเสือเหลืองเข้าไปอีก photo by ช้างศึก นี่อาจจะไม่ใช่เหตุผลทั้งหมด แต่ก็น่าจะเป็นเหตุผลส่วนหนึ่งที่ทำให้ทีมชาติไทยจะต้องเจองานที่ยากลำบาก ยามที่ต้องบุกมาเยือน มาเลเซีย ที่ สนามบูกิตจาลิล แห่งนี้ ไม่มากไปเลยหากจะกล่าวว่า "บูกิตจาลิล ที่นี่ คือ นรกของทีมเยือนแห่งอาเซียน" ต้องมาลุ้นกันว่า ช้างศึก ของเราจะสามารถล้างอาถรรพ์บุกเอาชนะ เสือเหลือง คาถิ่นบูกิตจาลิล ได้ครั้งแรกหรือไม่ วันที่ 14 ก.ย. นี้ ให้กำลังใจทีมชาติไทยได้ทาง ไทยรัฐทีวี หรือเปิดแอพพลิเคชั่น Trueid รับชมและร่วมเชียร์ทีมชาติไทยไปด้วยกันได้เลย