"ต้นทุน ของชีวิตแต่ละคนไม่เท่ากัน พ่อกับแม่ มีให้ไว้ส่วนหนึ่ง ที่เหลือลูกต้องสร้างเอาเองนะครับ"“ในความคิดมีจินตนาการ”จะรู้ได้ก็ต่อเมื่อลงมือกระทำ โดยผ่านกระบวนการทำงานศิลปะศิลปะสร้างสมาธิ คือ การมุ่งมั่นกระทำงานศิลปะด้วยความตั้งใจ แน่วแน่ของจิต ทำให้ใจนิ่ง ซึ่งต่างจากร่างกายที่ยิ่งเคลื่อนไหวก็ยิ่งแข็งแรง แต่จิตใจถ้ายิ่งหวั่นไหวก็ยิ่งอ่อนแอ แต่หากจิตนิ่งจะยิ่งมีพลัง การทำงานศิลปะตั้งแต่เด็กๆ จึงเป็นการฝึกจิตใจและพัฒนาจิตใจให้มีความมั่นคง ตั้งมั่น และทำให้มีคุณภาพทางจิตใจที่ดีขึ้น เมื่อจิตใจสงบ สมองส่วนต่างๆจะทำงานประสานกันได้มีประสิทธิภาพ ส่งผลให้กระบวนทางความคิด การตัดสินใจมีประสิทธภาพดีขึ้น นอกจากนี้ความสุขที่เกิดจากการทำงานศิลปะ ยังช่วยส่งเสริม ให้เด็กมีสมาธิในการเรียนวิชาการได้ดีขึ้นมากด้วยครับดังนั้นการทำงานศิลปะ จึงมีส่วนพัฒนาสมองซีกขวาให้เกิด สมดุลกับสมองซีกซ้ายที่เป็นวิชาการด้วยครับ“ในความคิดมีจินตนาการ”จะรู้ได้ก็ต่อเมื่อลงมือกระทำ โดยผ่านกระบวนการทำงานศิลปะศิลปะสร้างสมาธิ คือ การมุ่งมั่นกระทำงานศิลปะด้วยความตั้งใจ แน่วแน่ของจิต ทำให้ใจนิ่ง ซึ่งต่างจากร่างกายที่ยิ่งเคลื่อนไหวก็ยิ่งแข็งแรง แต่จิตใจถ้ายิ่งหวั่นไหวก็ยิ่งอ่อนแอ แต่หากจิตนิ่งจะยิ่งมีพลัง การทำงานศิลปะตั้งแต่เด็กๆ จึงเป็นการฝึกจิตใจและพัฒนาจิตใจให้มีความมั่นคง ตั้งมั่น และทำให้มีคุณภาพทางจิตใจที่ดีขึ้น เมื่อจิตใจสงบ สมองส่วนต่างๆจะทำงานประสานกันได้มีประสิทธิภาพ ส่งผลให้กระบวนทางความคิด การตัดสินใจมีประสิทธภาพดีขึ้น นอกจากนี้ความสุขที่เกิดจากการทำงานศิลปะ ยังช่วยส่งเสริม ให้เด็กมีสมาธิในการเรียนวิชาการได้ดีขึ้นมากด้วยครับดังนั้นการทำงานศิลปะ จึงมีส่วนพัฒนาสมองซีกขวาให้เกิด สมดุลกับสมองซีกซ้ายที่เป็นวิชาการด้วยครับ...."ตื่นเต้นครับ"ใช่ครับ สอนศิลปะมาจนแก่ขนาดนี้ ก็ยังตื่นเต้นอยู่ ...อยากเจอเด็กๆ ...อยากเห็นว่านักเรียนจะเขียนรูปออกมาแบบไหน ...ชอบดูพฤติกรรมของเด็กๆ ชอบมากตอนที่เด็กๆเขียนรูปแบบตั้งใจ มีสมาธิ สายตา ของเด็กๆที่จดจ้องไปที่ กระดาษว่างๆ แล้วจินตนาการ ก็หลั่งไหล ไปสู่ปลายดินสอ จนออกมาเป็นภาพที่ น่ารักมากครับ(((ในแต่ละช่วงอายุ )))มีความเปลี่ยนแปลงและแตกต่างทางความคิดได้เรียนรู้ไปเรื่อยๆ ไม่มีวันจบสิ้นเหมือนต้นไม้ใหญ่ที่ปลูกจากเมล็ดที่บ้าน ผ่านร้อนหนาว รวมถึงน้ำท่วมใหญ่ปี(เอาอยู่)๒๕๔๕ ก็รอดมาได้ แต่ทุกชีวิตย่อมมีความเสื่อมเป็นธรรมดา อีกไม่นานก็คงเจ็บป่วยล้มหายตายจากกันไปประวัติศาสตร์ สอนให้รู้...พฤติการณ์ของมนุษยชาติที่เกิดขึ้นในอดีต และ เป็นบทสนทนาในสมองของข้าพเจ้าที่ไม่มีทางสิ้นสุดระหว่างอดีตกับปัจจุบัน แต่การศึกษาประวัติศาสตร์ก่อให้เกิดองค์ความรู้ที่หลากหลาย ซึ่งสามารถนำไปสู่การกำหนดชีวิตในอนาคตเพื่อไม่ให้ทำผิดซ้ำซากฉะนั้นจึงสะท้อนการตัดสินคุณค่าของอดีตเลือกแต่สิ่งดีๆ แล้วนำมาใช้ในปัจจุบันครับใช่ชีวิตอย่างตะหนักรู้ ไปช้าๆไม่ต้องรีบ พรุ่งนี้ก็ตายแล้วครับ.../พ่อครู รำพึง