PM2.5 เป็นฝุ่นพิษ มีขนาดตามตำราคือ ฝุ่นละอองที่มีขนาดเล็กไม่เกิน 2.5ไมครอน เอ...นึกไม่ออกนะว่าแค่ไหน ตำราเหมือนรู้ทันเลยบอกว่า มีขนาดเล็กกว่า 1ใน25ส่วนของเส้นผ่านศูนย์กลางของเส้นผม เอิ่ม...ยิ่งงงหนัก55 เอาเป็นว่า เพราะขนาดที่เล็กมากของมัน เลยทำให้มันได้ใจที่ทะลุทะลวงเข้าเส้นเลือด ปอด หัวใจ ตลอดจนสมองคนได้ ตอนนี้แถวบ้านที่ฉันอยู่ คือกทม.นี้ เรียกว่าเห็นฝุ่นทุกวัน และทั้งวัน และผมว่าปีนี้ระดับฝุ่นรุนแรงมากกกกกกกกกกกกในบางวัน รุนแรงถึงระดับมีผลกระทบต่อสุขภาพ (เกิน200AQI โดยสัญลักษณ์จะใช้สีแดง ซึ่งคือสูงสุดนั่นเอง) จากรูป 1. รูปcover แทบจะมองไม่เห็นตึกเลย เป็นอีกวันของปีนี้ที่น่ากลัวสุดๆ ดังนั้นการใช้ชีวิตในกทม.ปีนี้ของผม นอกจากจะใส่หน้ากากแล้ว ยังต้องใส่แว่นด้วย นี่ถ้าใช้ไฟฉายส่องทางได้คงใช้ไปแล้ว ขนาดใส่แมส กลับบ้านยังมีแสบจมูก ดังนั้นให้ดีควรล้างน้ำเกลือก็จะลดอาการแสบnose ลงได้มากครับ (เปลืองตังค์อีก ค่าน้ำเกลือ เฮ่อ...ตังค์จะกินกะเพราสักจานยังไม่มี 55) และคุณเคยคิดมั้ยกันมั้ยว่า "เราจะอยู่กันในสภาพอากาศแบบนี้ตลอดไปเหรอ? เราคงไม่สามารถไล่เมืองออกจากตัวเราได้ มีแค่เราที่ไล่ตัวเราออกจากเมืองได้ แต่ถ้าเรามีความจำเป็นต้องอยู่ในเมือง วิธีดูแลตัวเองให้รอดจึงสำคัญที่สุด ละคุณคิดว่าวิธีไหนบ้างล่ะ" 2. รูปที่2 อันนี้ของอีกวัน คือ เวลา7.00น. ที่ผมตื่นขึ้นมา เมื่อก่อนนึกว่าหมอก คงเหมือนกับหลายๆคน ดีใจมาก เลยรีบวิ่งไปสูดดมเข้าปอดเต็มที่ ป่านนี้ฝุ่นพิษไม่รู้ว่าไปดี้ด้าอยู่ตรงอวัยวะส่วนไหนของผมกันบ้างละ ตอนหลังความจริงประจักษ์ แย่จัง ผมจะทำไงดีคุณหมอช่วยที สองที หลายทีเลยยิ่งดี 3. รูปที่3คือ เวลา18.00น. มองไปเห็นฝุ่นปกคลุมไปทั่วราชอาณาจักรกทม. คิดว่าป่านนี้เทวดาคงจามกันสนั่น แสบจมูกกันสุดติ่ง ผมว่าธรรมชาติของคน พอเจออะไรบ่อยๆมักจะเคยชิน และคิดว่ามันไม่อันตราย อย่างปีนี้คนใส่หน้ากากกันน้อยลง เมื่อเทียบกับปีก่อนที่กระแสฝุ่นPM2.5มา ผมอยากให้เราตระหนัก เพราะมันจะส่งผลในระยะยาว วันนี้ยังไม่แสดงตัวออกมา แต่เมื่อเวลาผ่านไปซึ่งอาจจะไม่นานก็ได้ ยิ่งถ้าเกิดภูมิต้านทานในร่างกายของเรา โดยพื้นฐานแล้วมันแข็งแรงไม่พอ เราคงจะป่วยกันระนาว ร่างคงระเนระนาด และมะเร็งจากเจ้าฝุ่น PM2.5 คงมาปรากฎกายในไม่ช้า คิดแล้วน่ากลัว จะว่าไปสมควรกลัวกันนะครับ ท้ายนี้ ผมว่ามันถึงเวลาแล้ว ที่จริงมันถึงเวลามานานละที่เราจะต้อง "ใส่หน้ากากเข้าหากันสักที" หน้ากากก็ควรเลือกใช้ชนิด N95 นะครับ จะได้ป้องกันได้ และจากLinkคลิปที่แนบมา ผมทำไว้เพื่อรณรงค์ให้เราใส่หน้ากากกัน หน้ากากนั้นชื่อหน้ากากจริงใจครับ โดยผมเล่นคำที่ว่าการใส่หน้ากากเข้าหากันไม่ใช่สิ่งที่ดี แต่หน้ากากที่เราใส่เข้าหากันในวันนี้ คือหน้ากากจริงใจ ที่อย่างน้อยเราก็ควรจริงใจกับตัวเอง รักตัวเอง และรู้จักป้องกันฝุ่นตัวร่้าย PM2.5ครับ ดังนั้นเริ่มกันวันนี้เลย "มาใส่หน้ากากเข้าหาหากันครับ" https://youtu.be/L68qahIgbkc