ต้องผ่านโควิดไปให้ได้ นี่คือปณิธานของฉันค่ะ ไม่รู้มีใครตั้งปณิธานแบบฉันบ้างไหม กับช่วงชีวิตที่เรียกว่าขาลงจนสุดของฉัน เงินในกระเป๋าไม่มีก็ยังพอสู้ไหว แต่นี่มีหนี้สินพ่วงมาอีกกองเบ้อเริ่ม มันทำให้เหมือนถูกตรวนด้วยโซ่ แถมมีตุ้มเหล็กถ่วงอยู่ด้วย จะทำอะไรก็พะวักพะวงไม่เป็นอันทำ เพราะใจมันว้าวุ่นกังวลอยู่กับหนี้สิน สิ้นเดือนนี้จะมีจ่ายไหมหนอ เป็นอย่างนี้อยู่ร่ำไป คิดอะไรไม่ออกก็ขอนอนหลับสักงีบก่อน ให้ลืมๆ เรื่องหนี้ก้อนโตเสียบ้าง ได้ผลค่ะ พอตื่นขึ้นมาค่อยสงบหน่อย แล้วเริ่มวางแผน รีบลิสต์ทรัพย์สินก่อนเลย เรามีอะไรเหลืออยู่บ้าง 1-10 อันไหนเปลี่ยนเป็นเงินง่ายสุด ควรไปเปลี่ยนที่ไหนกับใครดี ฉันเริ่มเขียนแผนงาน แล้วลงมือทำทันที จะโชคดีหรือโชคร้ายไม่รู้ ทรัพย์สินส่วนใหญ่ของฉันเป็นของสะสมพวกเหรียญพระ พวกพระเครื่อง ฉันหอบเอาพวกที่มีราคาจำนวนหนึ่ง ไปหาญาติที่ค่อนข้างมีฐานะ เพื่อถามความสนใจ ฉันคุยเป็นคุ้งเป็นแคว เล่าถึงที่มาที่ไป มูลค่า ความหายาก ของพระเครื่องและเหรียญพระที่นำไป ได้ผลค่ะ ญาติผู้ใหญ่คนนี้สนใจทุกชิ้นที่ฉันหอบไปให้ดู แต่ด้วยสภาพเศรษฐกิจที่ใครๆ ก็ต้องระมัดระวังการใช้จ่าย เพราะต่างก็รู้ว่าเงินหายาก ดิฉันจึงเสนอไปในราคาที่ค่อนข้างถูก เพื่อไม่ให้ญาติผู้ใหญ่ของฉันปฏิเสธได้เลย แน่นอนเหรียญพระที่มีมูลค่าเกินราคาเหรียญหนึ่งก็เปลี่ยนมือไป ฉันได้เงินก้อนเล็กๆ กลับมาเป็นทุนสำหรับไว้ลงทุนเพื่อให้ได้เป็นค่ากินช่วงเวลาหนึ่ง แต่เงินจำนวนนี้ก็ยังไม่พอที่จะผ่านสิ้นเดือนไปได้ ฉันต้องการเพิ่มอีก ฉันเดินหน้าหาเงินต่อ ลำดับถัดไปฉันติดต่อเพื่อนสมัยเรียนจบรับปริญญาปีเดียวกันเข้าทำงานบริษัทเดียวกัน ถึงแม้จะมากันคนละสถาบัน แต่ก็ยังจำกันได้ดีและยังพอจะคุยกันได้ เพื่อนคนนี้เปิดบริษัทค่ะ กิจการอยู่ตัว น่าจะพอพึ่งได้ ฉันก็ถามความสนใจเรื่องเล่นพระเลย นับว่าฉันถามถูกคน เพราะเพื่อนคนนี้สนใจพระเครื่องที่ฉันถืออยู่เพราะศรัทธาอยู่เป็นทุนเดิม ฉันเสนอองค์ที่มีราคาสูงก่อน เพื่อนก็ดูสนใจ แต่เนื่องจากเศรษฐกิจยุคโควิด เพื่อนก็แบ่งรับแบ่งสู้ แล้วก็ตอบว่าไม่สนใจ ฉันหาโอกาสวันถัดไปอีก 2-3 วัน ถามอีกว่าสนใจองค์ที่มีราคาต่ำสุดหรือเปล่า อันนี้น่าจะคุยได้ค่ะ เขาเต็มใจจะจ่าย เพราะน่าจะคุ้มค่าสำหรับเขาล่ะยามนี้ ฉันก็เสนอราคาต่ำกว่าปกติให้ จบค่ะ พระเครื่ององค์นี้ช่วยให้ฉันได้เงินก้อนเล็กอีกก้อนมาเก็บไว้ในกระเป๋าให้อุ่นใจ แต่รวม 2 ก้อนเล็กที่ได้มาก็ยังไม่พอจ่ายหนี้บวกกับค่าอยู่ค่ากินอยู่ดี ต้องการเพิ่มอีก ก็เลยเสนอให้ช่วยหาคนสนใจพระเครื่องที่แพงกว่ารุ่นที่เขาได้ไป องค์นี้หลักหมื่นค่ะ เพื่อนตัดสินใจอย่างรวดเร็ว ยอมจ่ายเงินก้อนที่ฉันต้องการแล้วเสนอให้ฉันทำงานตอบแทน 3 เดือน พอครบกำหนดก็ให้ฉันรับพระเครื่องคืนไป เป็นข้อเสนอที่ก่อพันธะผูกพันให้ฉันยาวนานทีเดียวสำหรับเงินก้อนนี้ แต่ทำงัยได้ฉันก็ตอบตกลง ขายแรงงานแลกกับมีเงินจ่ายหนี้ ถึงตรงนี้ฉันผ่านสิ้นเดือนนี้ไปได้สบายล่ะค่ะ มาลุ้นกันอีกทีเดือนหน้า ฉันคิดว่าการจะรักษาชีวิตให้ผ่านช่วงเวลาลำบากยากเข็ญไปให้ได้นั้น ต้องซื้อเวลาให้ได้ก่อน เพื่อจะได้มีเวลาคิดหาทางออกให้ตัวเองได้ค่ะ นี่คือกระบวนการคิดของฉัน ใครก็ตามที่ตกอยู่ในสภาพเดียวกับฉัน จะต้องคิดได้ทำได้แน่นอนค่ะ เพราะถ้าไม่ทำก็ไม่มีที่อยู่ ไม่มีกิน ถูกฟ้องยึดทรัพย์ แต่สิ่งที่ตัดสินใจทำต้องถูกต้องด้วย ไม่ใช่การเอารัดเอาเปรียบคนอื่นเพื่อให้ตัวเองรอด อย่างนั้นไม่ดีค่ะ จะเป็นบาปติดตัว ฉันขอไม่ทำ เพราะฉันเชื่อว่าคนเราจะเติบโตได้ต้องผ่านความยากลำบาก ก่อนจะได้รับความสำเร็จใด อุปสรรคขวากหนามจะเข้ามาทดสอบ ถ้าแข็งแกร่งพอก็จะผ่านไปได้ และความสุขความสำเร็จจะรอเราอยู่ข้างหน้า วันหนึ่งเศรษฐกิจจะต้องกลับมาดีค่ะ ขอให้ผ่านวันนี้ไปให้ได้ แล้ววันหนึ่งฟ้าจะเข้าข้างเราค่ะ ฉันเชื่ออย่างนั้น แล้วคุณผู้อ่านล่ะคะคิดอย่างไร ขอบคุณที่ติดตามอ่านจนจบค่ะ ภาพปก ขอบคุณ mohamed Hassan จาก Pixabay / ภาพประกอบที่ 1 ขอบคุณ Jerzy Górecki จาก Pixabay / ภาพประกอบที่ 2 ขอบคุณ Free-Photos จาก Pixabay / ภาพประกอบที่ 3 ขอบคุณ Gerd Altmann จาก Pixabay