ตำหนิคนอย่างไรให้เขารักเรา

ตำหนิคนอย่างไรให้เขารักเรา

สวัสดีครับเพื่อน ๆ  ผมอยากจะนำเสนอบทความที่ช่วยให้การทำงานร่วมกับผู้อื่นเป็นไปได้อย่างมีความสุข  ถึงแม้ว่าในการทำงานนั้นจะมีข้อผิดพลาดปัญหาที่ต้องตำหนิติเตียน ก็จะไม่ทำให้มิตรภาพหรือความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนร่วมงาน เจ้านายและลูกน้องสั่นคลอนหรือบาดหมางกันจนทำให้เกิดความขัดแย้งกันในอนาคตขึ้น ต่อไปนี้คือข้อเตือนใจหากเพื่อน ๆ จะต้องการตำหนิใครให้พึงระลึกถึงสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ครับ

1. ก่อนตำหนิใครควรศึกษาข้อมูลให้ดีเสียก่อน บ่อยครั้งเมื่อเกิดปัญหาหรือข้อขัดข้องขึ้น เรารู้สึกไม่พอใจและบางครั้งอาจเกิดความวู่วามในการตัดสินคนอื่นว่าผิดพลาดโดยไม่ได้ไต่ตรองให้รอบครอบเสียก่อนเป็นการทำให้ตัดสินคนผิด นั่นหมายถึงการทำลายความตั้งใจในกรทำงานของผู้ที่ตั้งใจทำงานแต่ดันกลับถูกมองว่าตนเองนั้นทำงานผิดพลาดจากการตัดสินใจของเรา

5. เวลาแห่งการตำหนิ นับเป็นเรื่องที่สำคัญเนื่องจากหากเราตำหนิบุคคลใดไม่ถูกกับเวลาจะนำมาซึ่งความเกลียดชังและความอับอาย ยกตัวอย่างหากอยู่งานที่เศร้าโศกเสียใจอยู่แล้วดังเช่นในงานศพของมารดาบุคคลที่เราต้องการที่จะตำหนิในเรื่องงานที่เขาได้ทำ ก็ควรให้ผ่านห้วงเวลาความโศกเศร้านั้นออกไปก่อน มิเช่นนนั้นจะกลายเป็นการเหยียบย่ำซ้ำเติมเขาคนนั้นมากกว่าการติเพื่อก่อ

6. ควรตำหนิทีละเรื่อง ในการทำงานจะมีความไม่เรียบร้อยหรืองานที่ต้องการตำหนิติเตียนหลายอย่างควรที่จะจัดสรรความเร่งด่วนในงานที่ต้องการที่จะบอกและตำหนิแก่บุคคลนั้นเพื่อให้เขาได้รู้สึกว่าตัวเองนั้นไม่ได้ผิดไปทุกเรื่องหรือทำอะไรก็ผิดไปทุกอย่าง

7. ให้กำลังใจก่อนตำหนิ การเกริ่นนำหรือการสร้างบรรยากาศให้คลายความกังวลของบุคคลที่เราต้องการที่จะตำหนิเป็นสิ่งที่ควรจะต้องทำเป็นอย่างยิ่งเพื่อให้ผลที่ต้องการปรับปรุงเกิดประสิทธิภาพมากที่สุด โดยเขาคนนั้นจะรู้สึกว่าตนเองก็ยังมีความดีหรือมีขีดความสามารถในการทำงานที่ได้รับมอบหมายอีกต่อไป

8. อย่าตำหนิด้วยวิธีการเปรียบเทียบ บ่อยครั้งที่เราเคยถูกตำหนิโดยการเปรียบเทียบกับคนอื่นสิ่งที่ตามมาก็คือการรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจในขีดความสามารถของตนเองอีกทั้งยังอาจทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างผู้ที่ถูกเปรียบเทียบไม่เหมือนเดิมหรือเกิดปัญหาขึ้นได้ในภายหลัง เพราะขีดความสามารถของทุกคนนั้นไม่เท่ากัน บางคนอาจเก่งในเรื่องที่เราคาดคิดไม่ถึง ฉะนั้นไม่ควรอย่างยิ่งในการที่จะตำหนิใครโดยยกคนอื่นมาเปรียบเทียบ

9. อย่าตำหนิซ้ำซาก การตำหนิควรพูดเรื่องที่ตำหนิครั้งเดียวไม่ควรเรียกมาตำหนิเรื่องเดิมแบบซ้ำ ๆ เหมือนการย้ำคิดย้ำทำทำให้การตำหนินั้นไม่มีน้ำหนัก อีกทั้งสร้างความเบื่อหน่ายแก่ผุ้ที่ถูกตำหนิ

10. ตำหนิแล้วเขาควรจะรู้ว่าเขาผิดอะไร จับประเด็นสำคัญที่จะต้องถ่ายทอดให้แก้ไข มาพูดตำหนิให้ตรงประเด็น พูดให้เข้าใจง่ายในสิ่งที่ผิดพลาด ไม่อ้อมค้อมให้ต้องคิดสงสัย

11. ให้โอกาสเขาได้ร่วมพิจารณาในข้อผิดพลาด หากมีข้อสงสัยในสิ่งที่ถูกตำหนิหรือไม่แน่ใจในการกระทำที่ถูกต้องในคำตำหนิของเรา ควรเปิดโอกาสในการรับฟังความคิดเห็นและร่วมพิจารณาประเด็นที่ต้องแก้ไขร่วมกันจะทำให้สิ่งที่ถูกตำหนิหรือข้อผิดพลาดนั้นถูกแก้ไขอย่างถูกต้องและรวดเร็ว

12. รู้จักชมเชยในส่วนที่เขาทำดีด้วย การตำหนิใครก็ตามควรพูดถึงสิ่งที่บุคคลนั้นทำดีหรือประสบผลสำเร็จ ไม่ควรจะตำหนิติเตียนไปหมดทุกเรื่อง ใช้ทั้งไม้แข็งและไม้อ่อน หรือ การสร้างสมดุลระหว่าง พระเดชและพระคุณ

ผมหวังว่าเพื่อน ๆ ทุกคนจะทำงานร่วมกันอย่างมีความสุขกับข้อเตือนใจทั้ง 12 ข้อในการตำหนิใครในที่ทำงานให้นึกถึงใจเขาและใจเราสิ่งนี้สำคัญมากที่สุด

ภาพประกอบที่ 1 จาก pixabay / ภาพประกอบที่ 2 จาก pixabay / ภาพประกอบที่3 จาก pixabay / ภาพประกอบที่ 4 จาก pixabay / ภาพประกอบที่ 5 จาก pixabay /  ภาพประกอบที่ 6 จาก pixabay / ภาพประกอบที่ 7 จาก pixabay ภาพประกอบที่ 8 จาก pixabay /  ภาพประกอบที่ 9 จาก pixabay / ภาพประกอบที่ 10 จาก pixabay /  ภาพประกอบที่ 11 จาก pixabay / ภาพประกอบที่ 12 จาก pixabay / ภาพหน้าปกจาก pixabay