cr.true4u ซีรีย์ ศรีอโยธยา ละครที่รวมนักแสดงชั้นนำมากมาย นักแสดงกิติมศักดิ์หลายท่าน นำเสนอเรื่องราวอิงประวัติศาสตร์ ซึ่งมี 2 ภาคเนื้อหาต่อเนื่องกัน แต่ที่เราจะเล่าถึงนั้น จะไม่เกี่ยวกับเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ หรือ ข้อมูลเชิงลึกอื่น ๆ ซึ่งจะเป็นการเล่าสิ่งที่เห็นจากการรับชม ในมุมมองของคนดูที่ไม่ได้ร่ำเรียนทางการสร้างละคร ไม่มีความรู้ด้านการเขียนบท เป็นเพียงความคิดเห็นจากการรับชมเท่านั้น cr.SriAyodhaya Officialซีรีย์ ศรีอโยธยา ยำใหญ่ใส่สารพัดความรู้สึกแรกที่ได้ชมจากไตเติ้ลเปิดละครคือต้องอิงประวัติศาสตร์แน่ ๆ แม้ว่าจะมีข้อความขึ้นไว้ว่า เนื้อหาไม่ตรงกับพงศาวดาร แต่ในการตั้งชื่อเรื่อง มันก็สื่อไปแนวประวัติศาสตร์ แต่เมื่อดูแล้วพบว่าไม่ใช่ซะทีเดียว หากให้อธิบายจากที่ดูก็มีหลาย ๆ ประเด็นที่บอกว่าเป็นการจับโน่นนิด นี่หน่อย มาปรุงแต่งเช่น 1.เป็นละครแนว แฟนตาซี , พีเรียดย้อนยุค , สลับตัว , กลับชาติมาเกิด , ระลึกชาติอดีต , คงต้องบอกว่ามีครบเพราะจากที่ชมทั้งสองภาค จะมีสลับช่วงเวลาไปมา ระหว่าง อดีต ปัจจุบัน และ ห้วงมิติ 2.ช่วงเวลาคาบเกี่ยวทางประวัติศาสตร์ ศรีอโยธยา ทั้งสองภาคในช่วงย้อนไปในอดีต จะอยู่ในช่วงก่อนเสียกรุงฯครั้งที่สอง แต่จะมีการเล่าถึงยุครุ่งเรื่องของกรุงศรีอยุธยา จนถึงช่วงกรุงแตก (แบ่งพาร์ทการเล่าทั้งสองภาค ) 3.ละครในละคร มีความเกี่ยวโยงนิด ๆ ที่ให้ความรู้สึกว่าคาบเกี่ยวกับละครพีเรียดกรุงศรีฯเช่น เรือนมยุรา , สายโลหิต , ฟ้าใหม่ , พระนเรศวร (จากที่ชม หลาย ๆ ตอนน่าจะใช้สถานที่เดียวกัน) 4.ตัวละครบางตัวมีในพงศวดาร บางตัวเสริมแต่ง ซึ่งทำให้เกิดความสงสัยหากดูแล้วนำไปอิงกับประวัติศาสตร์ cr.SriAyodhaya Officialคอสตูมสวยอลังการคงต้องยกนิ้วให้และยอมรับในเรื่อง คอสตูม หรือ การแต่งกายเพราะ ซีรีย์ ศรีอโยธยา เน้นนำเสนอความย้อนยุค ดังนั้นเครื่องแต่งกายก็จะอิงตามสมัยอยุธยา ชุดไทยของตัวละครแต่ละตัวสมฐานันดรศักดิ์ งามประณีตและสวยมาก หรือแม้แต่ชุดของตัวละครชาวบ้าน บ่าวไพร่ ก็จัดได้เหมาะสม เครื่องประดับสวยและดูคล้ายงานช่างที่ละเอียดละออแบบโบราณ แม้จะไม่ใช่ของเก่าจริง ๆ แต่ทำออกมาได้สวยมาก คอสตูมในพาร์ทปัจจุบัน ก็ทำออกมาได้ดีการแต่งกายของแต่ละตัวละครในภพปัจจุบันก็สมฐานะ เหมาะกับบุคคลิกในความเป็นปัจจุบัน cr.SriAyodhaya Officialโลเคชั่นสวย ภาพสวย องค์ประกอบดี เป็นอีกจุดที่ทำให้ดูเพลินกับฉากสวย ๆ ทั้งในสถานที่จริงอย่างโบราณสถาน หรือ การตกแต่งฉาก ของแต่งฉาก และ การเลือกสถานที่ถ่ายทำ ที่เข้ากับแต่ละซีนทำให้ดูสบายตา สวยจนอยากไปตามรอยสถานที่โบราณสถาน หรือแม้แต่พาร์ทปัจจุบัน การเลือกสถานที่ถ่ายทำหลาย ๆ ฉากทำได้ดีเหมาะสมดูแล้วไม่ประดักประเดิด การคุมโทนหรือธีมของภาพแต่ละภาพที่ออกมาในแต่ละฉากก็ดูสบายตา แม้ว่าจะมีจุดเล็ก ๆ ที่ดูจงใจเกินไปเช่น บล๊อกกิ้งการยืน การนั่ง ของตัวละครที่ดูประดิษฐ์เหมือนถ่ายนิตยสารไปบ้างแต่ก็ไม่น่าเกลียดมากนัก cr.SriAyodhaya Officialบทพูดที่สุภาพ ไพเราะ จากที่ดูมาทั้งสองภาคแทบจะไม่มีคำหยาบโลน ส่อเสียด ใช้คำใช้ภาษาที่เพราะสุภาพ แม้ในพาร์ทปัจจุบันจะมีฉากนางร้ายกรี๊ด ๆ อยู่บ้างแต่ก็นิดเดียว ส่วนใหญ่บทสนทนาฟังเพลินหู ในพาร์ทอดีตการใช้คำราชาศัพท์ บทสนทนาต่าง ๆ ทำได้น่าสนใจ แต่ก็มีจุดที่ดูแปลก ๆ ในการพูดไทยปนอังกฤษในพาร์ทปัจจุบันบาง แต่ก็ยอมรับได้เพราะตัวละครในส่วนพาร์ทปัจจุบันเป็นนักเรียนนอก และ ตัวละครบางตัวอาศัยอยู่ต่างประเทศนาน และหน้าที่การงานต้องใช้ภาษาต่างประเทศเป็นหลัก มันก็ทำให้เข้าใจว่า ตัวละครคุ้นกับการสนทนาด้วยภาษาต่างประเทศมากกว่า cr. true4u กลิ่นไอความเป็นเอกลัษณ์ของผู้กำกับ ซีรีย์ ศรีอโยธยา กำกับโดย หม่อมหลวงพันธุ์เทวนพ เทวกุล หากใครเคยติดตามผลงานของ หม่อมน้อย ไม่ว่าจะเป็น สี่แผ่นดิน ชั่วฟ้าดินสลาย อุโมงค์ผาเมือง หรือ เรื่องอื่น ๆ จะเห็นเอกลักษณ์หลาย ๆ อย่างที่แฝงอยู่ในผลงานเช่น ความละะเมียดละไมในการเล่าเรื่อง การตีความให้กับตัวละครแต่ละตัวเป็นแนวทางที่จะให้นักแสดงสวมบทบาทนั้น จะแฝงความเป็นละครเวทีในการแสดง ศิลปะหลายแนว มักจะมีสื่อในผลงานของหม่อมน้อย ความละเอียดในองค์ประกอบ cr.SriAyodhaya Officialนักแสดงหลัก คงไม่กล่าวถึงเลยไม่ได้ เพราะมีนักแสดงคับคั่งไม่ว่าจะเป็นนักแสดงหลักที่ดำเนินเรื่องตามบทตั้งแต่ภาคแรก หรือ นักแสดงที่เพิ่มตามบทมาในภาคสอง และ นักแสดงรับเชิญ ซึ่งหากให้แนะนำชื่อคงจะเกินร้อยแน่นอน ขอแนะนำแค่นักแสดงหลักตัวเดินเรื่อง ซึ่งทุกคนแสดงได้ดีมากโดยเฉพาะ 6 ตัวละครที่ต้องอยู่ในสองยุค และ อีกหลายตัวละครหลักที่อยู่ยุคโบราณ แสดงได้ดีไม่ว่าจะเป็น อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม รับบทเป็น พิมาน / พระพิมานสถานมงคล จิรวิชญ์ พงษ์ไพจิตร รับบทเป็น วายุ / จ้าฟ้าสุทัศขัติยราชกุมาร (วังหน้า) รัดเกล้า อามระดิษ รับบทเป็น ม.ล.พวงแก้ว / กรมหมื่นพิมลภักดี (พระองค์เจ้าแมงเม่า) พิมดาว พานิชสมัย รับบทเป็น พลอยนภา / เจ้าฟ้ารุจจาเทวี นิภาภรณ์ ฐิติธนการ รับบทเป็น นรี / เจ้าจอมแข cr.SriAyodhaya Officialอาณัตพล ศิริชุมแสง รับบทเป็น อาคม / หลวงไกรชาญฤทธิ์ปิยะ เศวตพิกุล รับบทเป็น ผู้จัดการส่วนตัว วายุ / พระกำนัลนารีสังข์ เขมนิจ จามิกรณ์ รับบทเป็น บุษบาบรรณ์ ภคพล ตัณฑ์พาณิชย์ รับบทเป็น คุณทองหยิบ cr.SriAyodhaya Officialนพชัย ชัยนาม รับบทเป็น สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเอกทัศน์ สินจัย เปล่งพานิช รับบทเป็น กรมหลวงพิพิธมนตรี (พระพันวัสสาน้อย) รฐา โพธิ์งาม รับบทเป็น เจ้าจอมราตรี ศักราช ฤกษ์ธำรง รับบทเป็น พระยาพิชัยชาญฤทธิ์ สุรพล พูนพิริยะ รับบทเป็น พระยาพลเทพจุดด้อยไม่มีซีรีย์หรือละครเรื่องไหน ไม่มีข้อตำหนิจากคนดู สำหรับ ซีรีย์ ศรีอโยธยา นั้นก็มีเหมือนเรื่องอื่น ๆ สิ่งที่ขัดใจหรือสิ่งที่เราเห็นจากการดู แล้วมองว่าเป็นจุดอ่อนคงไม่พ้น ช่วงต้นของภาคแรก ที่ปูพื้นตัวละครได้เนือยพอสมควร แต่เมื่อพ้นช่วงนั้นไปแล้ว เนื้อหาถือว่ากระชับขึ้น ส่วนในภาคสอง ก็มีการปูพื้นปูมหลังตัวละครบางตัวอยู่บ้าง และมีสอดแทรกชีวิตตัวละครบางตัวเสริมเข้ามาหากไม่ได้ดูตั้งแต่ภาคแรกก็อาจจะมีงง นิด ๆ เพราะมีบางช่วงคาบเกี่ยวกับภาคแรก ลักษณะเหมือนเล่าในภาคแรกไม่จบต้องมาต่อภาคสอง มันมีบางช่วงกลายเป็นเหมือนสลับภาคกัน การแสดงในบางตัวละคร ย้ำว่าตัวละครเช่น ม.ล.พวงแก้ว (น้าของพิมาน ) ซึ่งตัวละครตัวนี้เว่อร์วังไปนิดกับจริตก้านแบบสาวก๋ากั๋น แต่ก็ต้องยอมรับว่า รัดเกล้า แสดงได้ดีเพราะต้องเล่นสองตัวสองยุค การแสดงออกที่ต่างกันชัดเจน แต่โดยรวมถือว่าทำได้ดีcr. true4u บทสรุปของ ซีรีย์ ศรีอโยธยา เป็นละครที่น่าชมหากชอบแนว แฟนตาซีย้อนยุคกลับชาติข้ามภพรักนิรันดร์เหนือกาลเวลา แม้ว่าจะอ้างอิงประวัติศาสตร์ แต่ไม่ตรงไปซะทั้งหมด หลาย ๆ ตอนทำได้ดี หลาย ๆ ตอนยังเป็นที่ถกเถียงในกลุ่มคนที่มีความรู้ด้านประวัติศาสตร์ ขนบธรรมเนียมโบราณ แต่อย่างที่บอกคือ ละครคือละคร ดูให้เป็นละครจะสนุก แนะนำว่าระหว่างที่รับชม วางเรื่องประวัติศาสตร์ที่เคยเรียนมา หรือ วางความทรงจำของละครประวัติศาสตร์ทุกเรื่องที่เคยดู แล้วเปิดใจใรับชม ซีรีย์ ศรีอโยธยา คุณจะเห็นอะไรในมุมที่แตกต่างอย่างทีเรามาเล่าให้ฟัง แต่หากต้องการความชัดเจนด้านประวัติศาสตร์ แนะนำให้ดูจบแล้วมาค้นหาข้อมูลจะดีกว่า ไม่เช่นนั้นจะเสียอรรถรสในการรับชมเพราะเน้นข้อมูลจนเกินไป