อ่าวไทยไม่ได้มีแต่ในประเทศไทย ทะเลกัมพูชาก็เป็นส่วนหนึ่งของอ่าวไทย กัมพูชาจึงมีเมืองท่องเที่ยวริมทะเลอ่าวไทยเช่นเดียวกับที่ไทยมีสีหนุวิลล์คือเมืองชายทะเลอ่าวไทยที่มีชื่อเสียงที่สุดของกัมพูชา เมืองชายทะเลที่ชาวกัมพูชากำลังกังวลว่าจีนจะเข้าครอบครองทั้งเมืองสีหนุวิลล์ หรือจังหวัดพระสีหนุ เป็นเมืองชายทะเลติดกับอ่าวไทย ทางตะวันตกเฉียงใต้ของกัมพูชา ความที่เป็นเมืองชายทะเล มีหาดทรายสวยงาม การท่องเที่ยวจึงเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจของจังหวัดนี้ ก่อนหน้านี้กลุ่มเป้าหมายหลักคือแบ็กแพ็กเกอร์ฝรั่งตะวันตก ที่แบกเป้เข้ามาตะลุยเมืองเล็กในดินแดนไกลโพ้น (ในสายตาฝรั่ง) แห่งนี้ ว่ากันว่าหลังกัมพูชาฟื้นตัวจากสงครามกลางเมือง สีหนุวิลล์เต็มไปด้วยแบ็กแพ็กเกอร์ ฝรั่งพวกนี้ถูกดึงดูดด้วยเสน่ห์ของชายหาดในสีหนุวิลล์ คือความสดดิบ ที่หาได้ยากแล้วจากชายหาดในไทยแต่ภาพฝรั่งแบ็กแพ็กเกอร์ก็หาดูได้ยากแล้วในสีหนุวิลล์ ที่เข้ามาแทนคือกรุ๊ปทัวร์จีนยิ่งถ้าพิจารณาเฉพาะในเขตตัวเมือง การใช้ชีวิตในสีหนุวิลล์ ให้อารมณ์คล้ายกับอยู่ในประเทศจีน ในร้านอาหารท้องถิ่นของกัมพูชา ลูกค้าในร้านแทบทั้งหมดมีหน้าตาแบบจีนและใช้ภาษาจีนสื่อสาร มีเพียงพนักงานเสิร์ฟอาหารเท่านั้นที่เป็นชาวกัมพูชาบทบาทของจีนในสีหนุวิลล์มีเยอะ เพราะจีนให้ความสำคัญมากกับเส้นทางเดินเรือ (พูดให้ครอบคลุมก็คือจีนให้ความสำคัญกับเส้นทางคมนาคมที่จะเชื่อมโยงจีนเข้ากับทั่วโลก ซึ่งเป็นประโยชน์มาก ๆ ต่อประเทศที่มุ่งทำการค้าอย่างจีน) โดยสีหนุวิลล์อยู่ในจุดยุทธศาสตร์สำคัญทางทะเล เป็นที่ตั้งของท่าเรือทางทะเลระหว่างประเทศเพียงแห่งเดียวของกัมพูชาชาวจีนมาทำอะไรที่สีหนุวิลล์? คำตอบที่ผมมองเห็นด้วยสายตาคือมาทำธุรกิจ สภาพสีหนุวิลล์เหมือนเมืองที่กำลังปิดปรับปรุง ทุกมุมเมืองมีแต่โครงการก่อสร้างเต็มไปหมด โครงการพวกนั้นเป็นของจีนทั้งนั้น ผมพยายามถามหาคำตอบว่าจีนทำธุรกิจอะไรในสีหนุวิลล์ คำตอบที่ได้ก็เช่น การนำเข้า-ส่งออก ร้านอาหาร โรงแรม ที่อยู่อาศัย คาสิโน โรงงานไฟฟ้า ไปจนถึงเขตเศรษฐกิจพิเศษสีหนุวิลล์ที่กัมพูชาร่วมลงทุนกับจีนภายใต้กรอบความร่วมมือ Belt and Road ที่ว่าคนท้องถิ่นส่วนหนึ่งได้ประโยชน์จากทุนจีน เพราะเจ้าของกิจการชาวจีนให้ค่าจ้างดีกว่า ตำแหน่งงานก็เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในไซต์งานก่อสร้าง คาสิโน และโรงแรม เจ้าของอาคาร-ที่ดินก็ปลื้ม เพราะชาวจีนให้ค่าเช่าสูง อาคาร 3 ชั้นที่เคยปล่อยเช่าได้เดือนละ 1,000 ดอลลาร์สหรัฐ พอชาวจีนเข้ามาก็พุ่งขึ้นไปเป็น 15,000 ต่อเดือนเลยทีเดียวแต่ที่ได้ประโยชน์เป็นเพียงคนกลุ่มน้อย ชาวกัมพูชาส่วนใหญ่ไม่ยินดีเสียมากกว่า ทุนจีนที่หลั่งไหลเข้ามา ทำให้ค่าครองชีพพุ่งแพง ราคาบ้านและที่ดินแพงจนชาวกัมพูชาเอื้อมไม่ถึง อย่าว่าไปถึงซื้อ แค่เช่าก็ยังไม่มีปัญญา เจ้าของก็ไม่อยากให้เช่า ปล่อยเช่าคนจีนดีกว่าได้เงินเยอะดี หรือบางส่วนที่เคยเป็นเจ้าของบ้าน-ที่ดินก็ทนความเย้ายวนของเงินจีนไม่ไหว ขายบ้านและที่ดินให้ชาวจีนไปหมด กิจการร้านค้าโรงแรมก็ถูกชาวจีนกว้านซื้อ ผลก็คือชาวกัมพูชาแท้ ๆ ต้องอพยพออกไปอยู่นอกเมืองที่ค่าใช้จ่ายถูกกว่า ในเมืองสีหนุวิลล์เลยมีแต่ชาวจีนชาวจีนขึ้นชื่อเรื่องชาตินิยมและการรักษาอัตลักษณ์ มาอยู่กัมพูชา แต่ก็ยังกินของจีน ใช้ของจีน เลือกอุดหนุนกิจการชาวจีนด้วยกันเอง ผลหมากรากไม้ยังนำเข้ามาจากจีน นักท่องเที่ยวจีนก็เหมือนกัน ส่วนใหญ่ล้วนเลือกใช้บริการร้านค้า-โรงแรม-ร้านอาหารของชาวจีน ผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจเลยถึงมือชาวกัมพูชาน้อยนิดนักท่องเที่ยวยุโรปหายไปจะหมดแล้ว ชาวจีนอุดหนุนแต่พวกเดียวกัน ชาวกัมพูชาก็อพยพออกนอกเมือง พ่อค้าแม่ค้ากัมพูชาจะเหลืออะไรให้ทำมาหากิน ถ้าสถานการณ์ยังเป็นเช่นนี้ต่อไป สีหนุวิลล์อาจมีสภาพไม่ต่างจากการเป็นอาณานิคมของจีน โดยที่จีนไม่ต้องใช้กำลังเข้ายึดครองเหมือนการล่าอาณานิคมในอดีต แต่ใช้พลังอำนาจทางเศรษฐกิจจนสามารถจัดการการจัดสรรทรัพยากรทุกอย่าง อพยพผู้คนเข้าไปจนคนท้องถิ่นถูกกลืนหาย ทำทุกอย่างให้กลายเป็นจีน รวมทั้งมีอิทธิพลทางความคิดเหนือผู้นำกัมพูชาด้วยสภาพเช่นนั้นไม่ต่างอะไรเลยกับการเป็นอาณานิคมการขยายอิทธิพลเชิงกายภาพอย่างเป็นรูปธรรมของจีนก้าวหน้าไปมาก สิ่งก่อสร้างในสีหนุวิลล์คือสิ่งยืนยัน (หรืออดใจรออีกไม่กี่ปีเราจะได้เห็นรถไฟที่สร้างโดยจีนในประเทศเรา แบบเดียวกับที่จีนส่งออกเทคโนโลยีรถไฟไปทั่วทั้งโลก) แต่อะไรที่เป็นนามธรรมแบบนี้แหละที่ยังเป็นปัญหาสำคัญ อีกตัวอย่างหนึ่งคือเรื่องค่านิยม ที่จีนพยายามแข่งขันกับค่านิยม "ประชาธิปไตยแบบตะวันตก" ของสหรัฐฯ แต่ยังให้คำตอบที่ชัดเจนกับชาวโลกไม่ได้ว่าค่านิยมที่จีนจะนำเสนอคืออะไรเมื่อไหร่ที่จีนตอบได้ การล่าอาณานิคมโดยไม่ต้องยึดครองของจีนก็ยิ่งน่ากลัว รูปภาพทั้งหมดโดยผู้เขียน