แน่นอนว่าหลายคนคงอยากรู้ว่าการเรียนมัธยมระหว่างของไทยกับอเมริกาแตกต่างกันอย่างไร จะเหมือนกับที่ได้เห็นในซีรีส์วัยรุ่นที่ได้ดูทาง Netflix หรือทางภาพยนตร์ของอเมริกาที่เราได้เห็นผ่านตามาบ้างรึเปล่า วันนี้เราจะมาเล่าสู่กันฟังนะคะ ขอออกตัวก่อนนะคะว่าผู้เขียนเองไม่เคยไปเรียนที่อเมริกาแต่อย่างใด แต่ได้ฟังประสบการณ์จากเพื่อนที่รู้จักเล่าให้ฟังมาอีกที1.ในระดับมัธยม สามารถเลือกวิชาเสรีได้เองระดับมัธยม แต่ละวันต้องเรียนวิชาบังคับแต่จะมีวิชาอื่นที่เป็นวิชาเลือก ให้นักเรียน ลงเรียนเพิ่มได้เอง แต่ในหลักสูตรไทยวิชาเสรีจะลงมาในหลักสูตรเลยว่าต้องเรียนอะไร ซึ่งเด็กเลือกเองไม่ได้อเมริกา จะหลังเลิกเรียน บ่าย 3 และไปทำกิจกรรมที่ตัวเองชอบหรือสนใจแต่ในไทยจะเลิกเรียน 4 โมงเย็น และโดยมากจะเรียนพิเศษต่อถึง 6 โมงเย็นที่มา : https://www.pexels.com/th-th/photo/1462630/2.ส่วนมากจะเรียนในสิ่งทั่วเองชอบวัยรุ่นอเมริกัน ค่อนข้างจะมีความคิดเป็นของตัวเอง โดยเฉพาะหลังจบ high schoolจะเลือกเรียนต่อในสาขาที่ตัวเองอยากเรียนจริงๆ ไม่ได้ขึ้นกับความต้องการพ่อแม่เพราะวัยรุ่นอเมริกัน หลายคนทำงานเองตั้งแต่มัธยมแล้ว ทำให้ค้นเจอว่าตัวเองจริงๆสนใจอะไร ชอบอะไร และมีเงินเก็บส่งตัวเองเรียน หรือบางคนจบ high school แล้วทำงานเลยที่มา : https://pixabay.com/th/photos/417612/3.ที่อเมริกา การ bully รุนแรงกว่าไทยด้วยความที่อเมริกัน มีแนวคิดของตัวเอง ทำให้การเปิดกว้างหรือยอมรับผู้อื่นน้อยลงด้วย(สำหรับบางคน บางสังคม) มีเด็กอเมริกันที่เป็นเพศที่สาม ผิวสี หรือบกพร่องทางสติปัญญาถูกกลั่นแกล้งรุนแรงมาก รวมถึงการแบ่งชนชั้นทางสังคม ฐานะ ที่ไม่ได้ต่าง หรือดีกว่าประเทศอื่นเท่าไหร่นัก แม้จะบอกว่า อเมริกาเป็นประเทศเสรีก็ตาม4.กิจกรรมนอกห้องเรียนคือสิ่งสำคัญแม้ในไทยจะมีกิจกรรมอยู่เช่นกัน แต่โดยมากจะเป็นเชิงบังคับ หรือใช้คะแนน เช็คชื่อ เพื่อให้เด็กเข้าร่วมแต่ที่อเมริกาเด็กจะสมัครใจทำเอง เพราะเขาเป็นคนเลือกเองว่าเขาอยากจะทำอะไร ชอบอะไรและกีฬา กิจกรรม มีความสำคัญมากๆไม่แพ้วิชาการเลยที่มา : https://pixabay.com/th/photos/461340/5.ไลฟ์สไตล์ที่เป็นผู้ใหญ่เร็วจริงๆมันเริ่มมาตั้งแต่มัธยม เพราะในอเมริกาวัยรุ่นจะมีสรีระ ความสูง โตเป็นหนุ่มสาวเร็วและวัฒนธรรมใน high school ก็เป็นรูปแบบเหมือนมหาวิทยาลัย ทำให้การคบหากันการแสดงออกในเชิงคู่รักแบบลึกซึ้งในที่สาธารณะ เริ่มมาตั้งแต่ช่วงนี้ แต่ในไทยจะเปิดเผยหรือยอมรับในช่วงวัยที่เหมาะสมแล้วจริงๆ รวมถึงการแสดงออกถึงความรักในอายุที่สมควรแล้วมากกว่า6.การแสดงออกเวลาอาจารย์สอนในอเมริกา นักเรียน นักศึกษา (บางสังคม) จะไม่ค่อยสนใจเรื่อง อายุ หรือการเคารพผู้อาวุโส เพราะการเรียนที่นี่อาจารย์ก็จะเน้นการสอนแบบเป็นกันเอง ใกล้ชิดกว่าทำให้บางครั้งจะมีปัญหาเรื่อง เด็กไม่ชอบผู้สอน แล้วแสดงกริยาที่ไม่เคารพ บางคนมีการล้อเลียน กรอกตาใส่ แต่ในไทยเรามีระบบนี้ที่ทุกคนต้องนอบน้อม การให้เกียรติอาจารย์คนที่มีอายุมากกว่า เป็นสิ่งสำคัญที่มา : https://pixabay.com/th/photos/3765909/7.กิจกรรมเยอะ จนไม่ค่อยติดโซเชียลอย่างที่บอกว่า อเมริกากิจกรรมเยอะมาก กีฬาหลากหลาย การใช้เวลาว่างไปกับการเชียร์แห่งบาส ดูอเมริกันฟุตบอลทำกิจกรรมต่างๆ มันคือความสนุกในชีวิตอย่างนึ่งที่วัยรุ่นอเมริกันนิยม แต่ในไทยวัยรุ่นจะติด social มากกว่า และไม่ค่อยทำกิจกรรม หรือถ้าทำจะทำเพราะถูกสั่งให้ทำ ที่อเมริกา เด็กจะเลือกทางเดินต่อเอง หลังจบมัธยมปลาย เพราะหลายคนพ่อแม่จะส่งเรียนถึงระดับนี้ แล้วหลังนั้นต้องพึ่งพาตนเอง เลือกเรียนต่อ ดูแลตนเอง แต่ในไทยพ่อแม่จะยังส่งเรียนถึงจบป.ตรีเลย เด็กไทยเลยยังมีปัญหาเรื่องการเลือกเรียนที่ต้องอิงความต้องการของพ่อแม่ด้วย เพราะว่ายังใช้เงินพ่อแม่อยู่ตลอด ส่วนในแง่การเป็นผู้ใหญ่เร็วก็มีข้อดีแต่พ่วงมาด้วยข้อเสียเหมือนกัน บางครั้งประสบการณ์ชีวิตยังน้อย แล้วเวลามันเกิดปัญหาขึ้นมามันเสียหายมาก ความคิด การแก้ปัญหา ช่วงอายุ 17-19 กับ 23-25 ต่างเยอะเลยนะ อเมริกาเลยมีปัญหาวัยรุ่น กับพิษรักในวัยเรียนสูงมากๆ ทั้งสองแบบ ล้วนแล้วแต่มีทั้งข้อดี ข้อเสียค่ะ อยากให้มอง เรียนรู้ในมุมที่ดีของแต่ละแบบไปปรับใช้กับชีวิตค่ะ