ธุรกิจของวงไอดอลนี้เติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด เพราะมีทั้งแฟนบอยแฟนเกิร์ลในนาม “โอตะ” เป็นรากฐานสำคัญ ภาพปกโดย : ALL ABOUT MUSIC วงไอดอลสาวแถวหน้าของไทยอย่าง BNK48 ผ่านร้อนผ่านหนาวมากว่าสองปีบนเส้นทางบันเทิง และกำลังเดินสู่ปีที่ 3 ในวันที่หลายคนพูดกันหนาหูมากว่า… BNK48 ขาลงแล้ว ธุรกิจของวงไอดอลนี้เติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด เพราะมีทั้งแฟนบอยแฟนเกิร์ลในนาม “โอตะ” เป็นรากฐานสำคัญในการขับเคลื่อนรายได้ มีแบรนด์สินค้าใหญ่หลากหลายผลิตภัณฑ์จ่อคิวรอสนับสนุนเป็นสปอนเซอร์ จนถึง ณ วันนี้ก็ยังมีแบรนด์ใหญ่ ๆ ต่อสัญญาเดิมเพื่อออกสินค้า/ บริการเสิร์ฟให้กับเหล่าโอตะ เพื่อหวังกระตุ้นแบรนด์ตัวเองภายใต้การให้น้อง ๆ มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ ฟอร์มตก… ยอดจองแผ่น ขายไม่หมด กว่าสองปีที่ผ่านมา BNK48 ออกเพลงมาทั้งสิ้น 7 ซิงเกิ้ล หลัก และรวมได้เป็น 2 อัลบั้ม ในยุคที่ Digital Content มาแรง แต่ CD เพลงยังขายได้เป็นแสนแผ่น ย่อมไม่ธรรมดากับปรากฎการณ์ที่ BNK48 ทำให้เราได้เห็นพลังของแฟนคลับ พลังของมูลค่าของสะสม ล่าสุด CD BNK48 7th Single 77 no Suteki na Machi e - 77 ดินแดนแสนวิเศษ เปิดจองล่วงหน้าผ่านทาง Shopee ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน จนถึงวันที่ 3 ธันวาคม 2562 เวลา 12:00 น. ที่ผ่านมาต้องบอกเลยว่า เฉพาะ CD ที่ทางค่ายประกาศเคลมออกมาว่า Limited แค่ 50,000 แผ่นเท่านั้น แต่กลับขายไม่หมดภายใน คืนเดียว !!! เกิดอะไรขึ้นกับเหล่าโอตะ ในขณะที่ยอดขายเมื่อปีที่แล้วตอนที่มีการประกาศจัดงาน BNK48 General Election (เลือกตั้ง BNK48) โดยใช้ Code ที่มาคู่กับแผ่น CD Single 5th BNK Festival เป็นคะแนนโหวต โดยขายวันละ 50,000 แผ่น แบ่งขายเป็น 6 ชุด รวม 300,000 แผ่น หมดเกลี้ยง !!! ในขณะที่ CD BNK48 7th Single 77 no Suteki na Machi e - 77 ดินแดนแสนวิเศษ จากสถิติที่เข้าไปดุตลอดการวางจำหน่าย ยกตัวอย่าง คืนแห่งการช้อปออนไลน์ 11.11 ระดับโลก (วันที่ 11 พฤศจิกายน) CD ที่เคลมไว้ว่า Limited แค่ 50,000 แผ่น ผ่านมา 10 วันแล้ว ยังมีให้คลิกสั่งซื้ออยู่ นี่คือสัญญาณใหญ่ระดับหนึ่งที่กำลังบอกเหล่าโอตะว่า BNK48 ขาลงราคาของในตลาดสูงขึ้น มีแต่คนขาย ไร้คนซื้อ ของสะสม BNK48 ที่มีทั้ง รูปภาพ หนังสือ ของใช้ พวงกุญแจ ต่างเป็นสินค้า merchandise ที่เป็นแท่งรายได้คู่ขนานกับยอดของสปอนเซอร์และเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ แต่เมื่อเทรนด์ในตลาดลดลง คนหายไปกว่าครึ่ง เหล่าโอตะในคราบพ่อค้าแม่ค้า และคนที่ซื้อมาขายไป กินกำไรส่วนต่างเป็นค่าหิ้ว ค่าแคมป์ กลุ่มคนตรงนี้ปฎิเสธไม่ได้เลยว่าเป็นฐานที่ทำให้ตลาดของสะสมเติบโต วันนี้ของสะสมในตลาดที่เป็นของเก่า ๆ กลับราคาตก ส่วนสินค้าใหม่ ๆ ยกตัวอย่าง สินค้าจากยูนิตพิเศษ Mimigumo (ไข่มุก จ๋า มิวสิค) ที่ปล่อย Mimigumo photobook BNK48 ให้เหล่าแฟนคลับออกมาจับจอง ในตลาดราคารูปภาพที่แถมมากับ photobook และ Music Card กลับมีราคาสูงขึ้น เพราะยอดขายไม่ได้สูง แต่พอสินค้าออกมาแล้วกลับมีคนที่ตามหารูปภาพเพื่อสะสมเมมเบอร์ที่ตัวเองชอบกลับมีเยอะ ราคาเลยสูงขึ้น แต่ก็ไม่ได้ถูกขายออกหมดไวแบบช่วงที่วง BNK48 เป็นกระแสเมื่อปีที่แล้ว และนี่คืออีกหนึ่งสัญญาณของตลาดของสะสมมีแต่คนขาย ไร้คนซื้ออนาคตต่อจากนี้… BNK48 Office สู่ iAM เมื่อไม่นานมานี้ พี่ต้อม จิรัฐ บวรวัฒนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท Independent Artist Management จำกัด (iAM) พูดถึงถึงการเปลี่ยนชื่อบริษัทจาก บจก.BNK48 Office จำกัด ไปเป็น บจก.iAM ว่าธุรกิจจากนี้นั้นไม่ได้ตั้งเป้าหมายแค่การสร้างวงไอดอลอย่างเดียวอีกต่อไปแต่คือการสร้างสรรค์ Talent ใหม่ ๆ เพื่อเป็นพลังในด้านการสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนไทย การออกไปบุกตลาดต่างประเทศและการสร้างภาพยนตร์อย่างจริงจัง โดยหนึ่งในนั้นมีการแตกไลน์ธุรกิจออก ซึ่งดึง พี่ติ๊ก เจษฎาภรณ์ ผลดี และพระเอกแถวหน้าของไทยอีกหลายคนมาร่วมทีมสร้างกลุ่มศิลปินไอดอลชาย !? ให้กับวงการบันเทิงบ้านเรา กลับมาที่การกระตุ้นยอดขาย CD โดยผุดกิจกรรม “ล่ารูปพิเศษเฉพาะ Event เป่ายิงฉุบใหม่” โดยกิจกรรมนี้จะให้แฟน ๆ ที่ซื้อแผ่น CD นำ Code บนบัตรจับมือ 2 ใบ เพื่อแลกกับการได้เป่ายิงฉุบกับเมมเบอร์ที่ชอบ หากเป่ายิงฉุบชนะจะได้รับของขวัญพิเศษจากเมมเบอร์คนนั้น เดิมกิจกรรมนี้จะแจกเป็นนามบัตร ซึ่งไม่ได้ฮอตฮิตติดลมบน จนแฟนคลับหลายคนรู้สึกเฉย ๆ แต่สำหรับงานจับมือในเดือน ธันวาคม 2562 และ กุมภาพันธ์ 2563 ที่กำลังจะเกิดขึ้นนั้น ปรับกลยุทธ์ใหม่แจกเป็นภาพสไตล์ Photoset โดยมีชื่อเรียกว่า Special Act A และ Act B ซึ่งบอกเลยว่าส่งผลต่อราคาบัตรจับมือในตลาดแน่นอน !? ใครว่า BNK48 กำลังขาลง อาจจะต้องดูกันระยะยาว ๆ ว่าต่อจากนี้ iAM จะสร้างปรากฎการณ์อะไรให้กับสยามประเทศของเราได้อีกบ้างต้องมาลุ้น มาเอาใจช่วยกันต่อไป “ให้คุ๊กกี้ทำนายกัน...”บนโลกธุรกิจบันเทิง เก่าไป ใหม่มา อาจะเป็นเรื่องธรรมดาแต่ บริษัทไหนที่มีการปรับตัวอยู่เสมอและดึงศักยภาพของแบรนด์ของทีมงานออกมาได้ดีที่สุดให้สด แปลก ใหม่ ใหญ่ ดัง คือ คนที่อยู่รอด วงการบันเทิงช่างแสนสนุกโดยเฉพาะเมื่อคำว่าธุรกิจเป็นตัวขับเคลื่อนความบันเทิง เรื่องและภาพโดย : Nick Grow Up